นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ระบุเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเป็นนายกฯ คนกลาง ว่า เป็นไปไม่ได้เพราะตนจะไม่รับตำแหน่งดังกล่าว เนื่องจาก ตนไม่ได้เป็นกลางและหากตนจะเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องมาตามระบบพรรคการเมืองและการเลือกตั้งเท่านั้นไม่ทราบเอามาจากไหน ขอให้หยุดให้ความเท็จ ปลุกระดมให้เกิดความแตกแยกเพื่อให้เกิดการเผชิญหน้าและรักษาอำนาจ
เพราะไม่มีใครได้ประโยชน์รัฐบาลควรหันมาแก้ปัญหาให้ตรงจุดดีกว่า ส่วนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดการเลือกตั้งนั้น อยากบอกว่า ปัญหาการชุมนุมที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของคู่กรณีกับรัฐบาลเขาไม่ใช่คู่กรณีกับกกต.หรือพรรคการเมือง รัฐบาลจึงต้องแก้ปัญหาทางการเมืองเองกกต.ไม่ได้มีปัญหากับใคร จึงแก้ไม่ได้จะทำได้เฉพาะในเชิงปฏิบัติ
เมื่อถามว่า มองบทบาทของพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร เพราะขณะนี้ได้กดดันให้กกต.แสดงความชัดเจนในการเลือกตั้งนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลควรรับฟังข้อเรียกร้องของประชาชนทุกกลุ่มและหาคำตอบให้การเลือกตั้งเรียบร้อยไม่ใช่คิดแต่อยากจะเลือกตั้งเร็ว ๆ ตัวเองจะได้กลับมามีสถานะ
ส่วนที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษา พรรคชาติไทยพัฒนา ให้จับตาดูพรรคการเมืองที่ไม่ลงเลือก ตั้งนั้นพรรคประชาธิปัตย์ไม่ขัดข้องเรื่องการเลือกตั้งแต่ปัญหาใหญ่คือประชาชนจะร่วมในการเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งในการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.เห็นชัดแล้วว่ามีคนไม่เอาการเลือกตั้งถึง 19 ล้านคน
ถ้าพรรคลงสมัครขณะที่ประชาชนมีทัศนคติเหมือนเดิมก็ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรถ้าพรรคไม่ลงสมัครแล้วประชาชนไปใช้สิทธิ์ก็ไม่มีปัญหาอะไรจึงอยู่ที่รัฐบาลต้องใช้โอกาสในช่วงที่รอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการในการเริ่มพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น ให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับได้อย่างไรโดยพรรคประชาธิปัตย์พร้อมให้ความร่วมมือถ้ารัฐบาลมีคำตอบว่าจะรับฟังความเห็นและทำให้เกิดความมั่นใจเรื่องการปฏิรูป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ขนาดในการเลือกตั้งที่เป็นโมฆะปี 2549 กว่าจะมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งใช้เวลาถึง 2 เดือนซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้กลับไปลงเลือกตั้ง ทำไมครั้งนี้ต้องเอาเป็นเอาตายไม่สนใจปัญหา กำหนดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุดเพื่ออะไร ตนแปลกใจที่น.ส.ยิ่งลักษณ์กล้าพูดว่าต้องยึดหลัก ทั้งที่ตัวเองไม่ยึดหลักการเคารพกฎหมายซึ่งเป็นพื้นฐานของสังคมประชาธิปไตย
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยโดยความผิดให้พรรคประชาธิปัตย์และจะให้เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งที่เป็นโมฆะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำให้การเลือกตั้งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญแต่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยต่างหากที่ไม่ยอมฟังคำเตือนของทุกฝ่าย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
