แกนนำ กปปส.ย้ำจุดยืน เมินข้อเสนอ 7 องค์กร เร่งเดินหน้าสู้ทางกฎหมาย เชื่อกลางเดือน เม.ย. ชี้มูลรัฐบาล "ปู" หลายคดี
เมื่อวันที่ 15 มี.ค. นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของ 7 องค์กรตามรัฐธรรมนูญ ที่เตรียมประชุมเสนอทางออกประเทศไทยในวันที่ 17 มี.ค.นี้ ว่า ทุกคนมีสิทธิจะแสดงความคิดเห็นได้ และถือเป็นความปรารถนาดี แต่เรื่องนี้คงยังไม่ถึงขั้นการเจรจา เป็นเพียงการพูดคุยเพื่อสอบถามความประสงค์ของคนในสังคมและจุดประสงค์แต่ละ ฝ่าย ทั้งนี้ 7 องค์กร ควรพูดคุยให้ตกผลึกกันก่อน ไม่ใช่เป็นความคิดเห็นของคนเดียวแล้วออกมาพูด ส่วนการที่อัยการสูงสุด และศาลปกครอง ปฏิเสธเข้าร่วมการพูดคุยนั้น ถือว่าถูกต้อง เพราะองค์กรที่ชี้ถูกชี้ผิดไม่ควรเข้าร่วม เพราะจะทำให้รับทราบข้อเท็จจริงนอกเหนือจากคดีต่าง ๆ และอาจถูกมองผิดได้ รวมทั้งไม่ควรเป็นเครื่องมือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ส่วนขั้นตอนการเจรจานั้นขึ้นอยู่กับ 7 องค์กร ขณะที่ กปปส.ไม่ต้องการจะเจรจา เพราะเรามีจุดยืนชัดเจนอยู่แล้ว
นายถาวร กล่าวต่อว่า แนวทางการเคลื่อนไหวของ กปปส.หลังจากนี้ จะเป็นการเร่งทำงานด้านกฎหมายเป็นหลักควบคู่การทำงานด้านการเมือง
เพื่อชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลขาดความชอบธรรม และเป็นรัฐบาลที่หมดสภาพ เชื่อว่าคดีต่าง ๆ ที่รัฐบาล และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ถูกฟ้องจะมีความชัดเจนและชี้มูลกลางเดือน เม.ย. เช่น การทุจริตโครงการรับจำนำข้าวที่พุ่งเป่าไปยังตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมทั้งกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว. การนำร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร โดยที่นายกฯไม่ได้เซ็นรับรอง เพราะเป็นกฎหมายการเงิน ที่ฟ้องนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ และนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ด้วย ส่วนการฟ้องคณะรัฐมนตรีทุจริตจำนำข้าว คงต้องรอดูผลที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ใน การชี้มูล น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้ชัดเจนก่อนดำเนินการ
อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวด้านอื่นของ กปปส. คงต้องรอการประชุมของแกนนำซึ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เคยประกาศไว้ว่าจะชุมนุมใหญ่อีกครั้ง.