นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์
แถลงถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ออกมาปฏิเสธการใช้กฎหมายในการดูแลประชาชนโดยยืนยันถึง 2 ครั้งว่า ไม่ต้องการให้ประเทศไทยใช้กระบวนการทางกฎหมายตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ว่า เป็นความล้มเหลวด้านจริยธรรมของบุคลากรทางการเมืองไทยครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งไม่ว่าสังคมใดที่ไม่ใช่สังคมวิกลจริตไม่มีทางยอมรับได้
เท่ากับยอมรับว่ามีพฤติกรรมขัดต่อกฎหมาย ทุจริต คอร์รัปชั่น ไม่สามารถยอมรับกระบวนการตรวจสอบของประเทศได้ นับเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและคนไทยต้องให้สติ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตนไม่ทราบว่ากุนซือคนไหนคิดคำพูดให้ แต่คำพูดเหล่านี้จะติดตัวนางสาวยิ่งลักษณ์จนวันตาย ซึ่งสะท้อนหลักการทำงานและหลักคิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย ที่ไม่ยอมรับกระบวนการตรวจสอบ และของดเว้นการใช้กฎหมายตรวจสอบ
ไล่น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกจากตำแหน่งนานแล้ว หรือประชาชนอาจไม่เห็นว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีของไทยเลย ทั้งนี้เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องคิดโดยใช้สามัญสำนึก หยุดทำร้ายประเทศไทย โดยการลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่นายกฯ คนไทยจะไม่ตามไปวุ่นวายด้วยแน่นอน แต่ในขณะนี้การให้สัมภาษณ์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ทำร้ายประเทศไทยและเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีอย่างรุนแรง
แต่พรรคเพื่อไทยออกมาโจมตีว่า 2 มาตรฐานโดยนำไปเทียบกับ พ.ร.ก.ไทยเข้มแข็ง ว่า เป็นความพยายามบิดเบือนความจริงดังนี้ 1.พ.ร.ก.ไทยเข้มแข็งเป็นพระราชกำหนด ไม่ใช่พระราชบัญญัติเหมือน พ.ร.บ.เงินกู้สองล้านล้าน โดยพระราชกำหนดจะถูกตรวจสอบ โดยรัฐธรรมนูญมาตรา 184 แต่ถ้าเป็น พระราชบัญญัติจะถูกตรวจสอบตามมาตรา 168 จึงนำมาเปรียบเทียบไม่ได้ โดยในขณะนั้นพรรคเพื่อไทยยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามมาตรา 184 และศาลรัฐธรรมนูญก็ชี้ว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญเพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน
พรรคประชาธิปัตย์ก็ยื่นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 ศาลก็ชี้ว่าจำเป็นทั้งที่ตนไม่เห็นด้วยแต่ก็เคารพคำวินิจฉัยของศาล ซึ่งรัฐบาลพยายามบิดเบือนกล่าวหาศาลรัฐธรรมนูญ และพรรคประชาธิปัตย์ โดยนำกรณีที่แตกต่างกันมาเปรียบเทียบกันระหว่างพระราชกำหนด กับพระราชบัญญัติเพื่อให้เกิดความสับสน
นายชวนนท์ กล่าวว่า ขอถามว่าเอาเวลาไปทำอะไรทำไมไม่อ่านข้อกล่าวหา 49 หน้า แต่ปากบอกว่าพร้อมให้ตรวจสอบ ในขณะที่พฤติกรรมไม่พร้อมให้มีการตรวจสอบ มีแต่กล่าวหาคนอื่นพยายามตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ กล่าวหากลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็น ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ไปปิดทำให้ประมูลข้าวไม่ได้ กู้เงินไม่ได้ เพราะ กกต. คิดแต่คำแก้ตัวไม่คิดแก้ปัญหา แก้ตัวทั้งวันไม่แก้ปัญหาสักเรื่อง เพราะการประมูลข้าวไม่กระทบกับการชำระหนี้ที่ค้างกว่าแสนล้านบาท เนื่องจากการประมูลข้าวได้เงินไม่กี่พันล้านเท่านั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องเลิกโกหกและแสดงละคร หากหมดตำแหน่งนายกฯอาจไปเล่นละครได้ เพราะยิ้ม โกรธ ร้องไห้ ได้ในเวลาไม่กี่วินาที ในขณะที่คนไทยจะตายเพราะการแสดงละครนี้ จึงขอให้เลิกโทษคนอื่นแต่ให้โทษตัวเองเวลามองกระจก ถึงเวลาสละอำนาจเพื่อประเทศไทย เพราะสร้างความเสียหายครบวงจรทั้งเศรษฐกิจ สังคมไทย การเมืองและจริยธรรมได้แล้ว