ปูพ้อคนทำถูกกติกาอยู่ไม่ได้

หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ปูพ้อคนทำถูกกติกาอยู่ไม่ได้

"ยิ่งลักษณ์" น้ำตาคลอปัดตอบถูกตุลาการภิวัฒน์ พ้อคนทำถูกกติกาอยู่ไม่ได้ แต่ทำผิดกติกาอยู่ได้ วอนอย่าใช้กม.ห้ำหั่นกันจนบางคนไม่มีที่ยืน

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ เตรียมล่ารายชื่อ 20,000 รายชื่อเพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติชี้ว่าร่างพระราชบัญญัติฯ 2 ล้านล้านบาทขัดต่อรัฐธรรมนูญว่า มองอย่างไรก็อย่างที่เคยมีการพูดไว้ว่ามีการอาศัยใช้ข้อกฎหมายในการไล่ล่ากันทุกวันแล้วเราจะหาความสงบในบ้านเมืองนี้ได้อย่างไร

เมื่อศาลได้พิจารณาตัดสินแล้วเราก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม ซึ่งก็เป็นไปตามขั้นตอนของแต่ละฝ่ายที่จะต้องดำเนินการคงไม่สามารถไปวิพากย์วิจารณ์อะไรได้ รัฐบาลเองก็มีหน้าที่ในการให้ข้อมูลและชี้แจงต่อประชาชน

เมื่อถามว่าแต่มีหลายฝ่ายเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบต่อกรณีนี้ที่เกิดขึ้น นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็คงต้องไปศึกษาในกรณีอื่นๆ ด้วย หลังจากที่เราได้รับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่วันนี้ยังไม่ได้รับเอกสารอย่างเป็นทางการจึงได้มอบหมายให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯและรมช.เกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อพิจารณาและศึกษาร่วมกันต่อไป

เมื่อถามว่ามองหรือไม่ว่ารัฐบาลไม่ได้รับความเป็นธรรมโดยเฉพาะจากองค์กรอิสระ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดิฉันอยากใช้คำว่า ขอความเห็นใจเถอะค่ะ คนทุกคนต่างก็มีความตั้งใจ ดิฉันก็ไม่ได้บอกว่าการที่เราขอความเห็นใจแล้วจะไม่ปฏิบัติตามข้อกฎหมาย เพียงแต่ว่าเราอย่าใช้กฎหมายหรือใช้องค์กรต่างๆ มาเพื่อตัดสิทธิ์หรือห้ำหั่นกันไปคนละข้างเลย เราเพิ่งผ่านพ้นในสิ่งที่ทุกคนไม่อยากเห็นความรุนแรงเกิดขึ้น ในเรื่องของการปฏิบัติ แต่วันนี้เราก็ไม่อยากเห็นการใช้กฎหมายหรือใช้องค์กรต่างๆ ในกระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้คำตอบต่างๆ คำตอบที่ดิฉันเรียนว่าเราควรจะได้คือความสามัคคีของคนไทย

การที่เราจะหาจุดหลักของสมดุลที่จะอยู่ร่วมกัน แต่ถ้าต่างฝ่ายต่างบอกว่าแพ้แล้วเราก็รุมกันในการห้ำหั่นกันด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง เราคงอยู่ด้วยกันลำบาก แต่ถ้าเรารู้จักที่จะบอกว่าเหลือพื้นที่ให้กับทุกคนในสังคมให้อยู่ร่วมกันเพราะสุดท้ายเราก็คือคนไทยด้วยกัน เราต้องมองหน้าอยู่ในประเทศไทยด้วยกัน เราอยากเห็นทุกคนในสังคมไทยเดินไปไหนด้วยกันได้

ความคิดเห็นต่างและการโต้แย้งกันนั้นดิฉันก็เคารพ แต่อยากเห็นว่าแม้จะมีความเห็นต่าง แต่เราก็สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมเดียวกันได้ ไม่ใช่จะไม่สามารถมองหน้ากันในสังคมได้เลย จากคนที่ไม่เคยรู้จักสามารถที่จะโกรธเกลียดกันได้ขนาดนี้เลยหรือ เป็นความรู้สึกที่เศร้าใจของสังคมเราไม่อยากเห็นการแตกพวกแตกกลุ่ม แต่เราอยากเห็นว่าเราคือคนไทยด้วยกัน เรามีพื้นที่ให้คนไทยอยู่เถอะค่ะ"

เมื่อถามว่า คิดว่าการเมืองวันนี้เล่นการรุนแรงมากเกินไปหรือเปล่า เพราะดูเหมือนจะไม่คิดถึงอนาคตของประเทศ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนอยากใช้คำว่าเราอย่าใช้การเมืองหรือเครื่องมือต่างๆ เป็นเครื่องมือ เพื่อให้เกิดการเอาชนะซึ่งกันและกัน เราน่าจะใช้เครื่องมือทางการเมืองให้เกิดความสามัคคี การออยู่ร่วมกันในสังคมให้ได้ สร้างสมดุลในกระบวนการตรวจสอบการทำงานแต่อย่างสร้างสมดุลด้วยการห้่ำหั่นจนไม่มีพื้นที่ให้กับคนอยู่ คนที่ถูกรังแกในพื้นที่ต่างๆ ก็ต้องกลับมายืนสู้ เราไม่อยากเจอเหตุการณ์เช่นนี้วนซ้ำไปซ้ำมา 7-8 ปีมาแล้ว

เราจะเป็นอย่างต่อไปอีกหรือ วงจรนี้มันก็ไม่มีทางจบถ้าเราใช้คำว่าเมตตาธรรมให้อภัยกันแล้วใช้คำว่าเหลือพื้นที่ให้กับบางคนได้อยู่แล้วให้กลไกต่างๆเดินต่อไป เชื่อว่าสังคมจะเป็นผู้ตรวจสอบ ถ้าใครที่ไม่ทำดีในสังคมเป็นคนคิดร้ายต่อสังคม ก็เชื่อว่าคนไทยจะประนามพวกเขาเอง ให้เขาอยู่ไม่ได้ในสังคมด้วยตัวของเขาเอง ดีกว่าจะมาใช้กระบวนการต่างๆเป็นเครื่องมือแล้วทำให้คนเกิดความแตกแยก จนเป็นแผลลึกในใจ

เมื่อถามว่ายังไม่ท้อกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า "อย่าพูดคำว่าท้อหรือไม่ท้อ วันนี้ต้องพูดว่าเราต้องช่วยกันต้องใช้ความพยายามร่วมกันไม่อยากให้ทุกคนลดความพยายามและการที่จะทำให้สังคมไทยสงบนั้นเราต้องไม่ลดความพยายามที่จะททำให้สันติภาพเกิดขึ้นในประเทศไทย

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ทำไมการเมืองไทยและกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาล จึงมีความเกลียดชังคนในตระกูลชินวัตร นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่อัดอั้นและสั่นเครือพร้อมมีน้ำตาคลอเบ้าว่า "ก็คงต้องถามคนถาม ดิฉันเองคงไม่ขอตอบ ดิฉันเองก็เชื่อว่าสังคมไทยและคนไทยทุกคนจะเป็นผู้พิจารณาว่าตระกูลชินวัตรเป็นอย่างนี้เชียวหรือ ดิฉันคิดว่าเราอย่าพูดกันอย่างนี้เลย เราพูดกันอย่างนี้เดี๋ยวก็จะมีตระกูลนั้นตระกูลนี้ แล้วคุณจะไม่ให้คนไทยอยู่ด้วยกันแล้วหรือ คุณจะบอกว่าจะต้องไม่มีตระกูลนี้จากประเทศไทยหรือ คุณจะเป็นกันอย่างนี้แล้วหรือ นี่คือสิ่งที่ต้องถาม"

เมื่อถามว่าขณะที่รัฐบาลพยายามหาเงินมาจ่ายให้กับชาวนาแต่เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มกปปส.กลับไปปิดล้อมกระทรวงพาณิชย์ทำให้กระบวนการประมูลข้าวต้องล้มไป จะส่งผลต่อความเสียหายมากน้อยแค่ไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ถ้าบอกว่ารักและสงสารชาวนาทำไมไม่แยกกกระบวนการความเห็นต่าง ความคิดทางการเมืองออกไปแล้วทุกคนก็มุ่งเป้ามาช่วยกันแก้ปัญหาให้ชาวนา ที่ผ่านมาหลายคนอาจไม่เห็นด้วยกับโครงการรับจำนำข้าว เราก็มีกลไกของป.ป.ช.ในการตรวจสอบรัฐบาล

แต่ทำไมต้องใช้กระบวนการนี้มาทำให้กระบวนการการจ่ายเงินให้กับชาวนาถูกริดรอนออกไปอีก เราถูกเรียกร้องขัดขวางตั้งแต่กระบวนการการทำงานของ ธกส. รวมทั้งธนาคารของรัฐที่ทำงานร่วมกับกระทรวงการคลัง ไม่ได้รับความร่วมมือเลย จนกระบวนการไม่สามารถเดินไปได้ วันนี้ไม่สามารถเดินหน้าในกระบวนการระบายข้าวได้ ทั้งๆที่เป็นกระบวนการที่ถูกต้องแต่กลับถูกขัดขวางแล้วอย่างนี้ชาวนาจะได้รับเงินได้อย่างไร หรือแม้แต่กระบวนการการฟ้องร้อง ถ้าเป็นคดีความในการฟ้องร้องเงินตรงนั้นไม่สามารถจ่ายให้กับชาวนาได้ เพราะอยู่ในขั้นตอนของกฎหมาย ต้องรอให้ขั้นตอนเป็นที่สิ้นสุดก็จะยิ่งทำให้ชาวนาได้รับงินช้าลง

"ดังนั้นเป็นไปได้หรือไม่ที่จะแยกเรื่องความคิดเห็นที่แตกต่างกับการเมืองออกจากกันได้หรือไม่ จะลงโทษรัฐบาลก็มีกระบวนการอยู่แล้ว แต่อย่าไปลงโทษชาวนาเลย อย่าเอารัฐบาลมาทำให้ชาวนาเดือดร้อน หลายคนอาจจะบอกว่ารัฐบาลนี้ไไม่มีความเชื่อมั่นเหมือนกับรัฐบาลอื่น แต่ดิฉันเชื่อว่าในทุกรัฐบาลก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการเช่นนี้ แต่ทำไมจะต้องทำให้เกิดกระบวนการที่ส่งผลให้เกิดความล่าช้า แล้วเดินหน้าโครงการไม่ได้จนชาวนาต้องเดือดร้อน" นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าว

เมื่อถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบอย่างมาก รัฐบาลจะมีอะไรที่เด็ดขาดออกมาบ้างหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ความเด็ดขาดแล้วเราจะได้อะไร ความเด็ดขาดมีอยู่สองอย่าง คือหนึ่งการใช้กำลัง สองการบังคับใช้กฎหมาย แล้ววันนี้มีคำตอบหรือเปล่า การใช้กำลังก็ไม่เกิดผลดีกับประเทศไทย

การใช้กฎหมายห้่ำหั่นก็ไม่เกิดผลดี และวันนี้คนก็ไม่เกรงกลัวกฎหมายกันแล้ว การที่ทำถูกกติกาไม่สามารถอยู่ได้ การที่คนที่ทำนอกกติกากลับสามารถอยู่ได้ แล้วเราจะเดินหน้ากันในสังคมอย่างไร" เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรกับคำที่ว่ารัฐบาลกำลังถูกตุลาการภิวัฒน์ ซึ่งนายกฯไม่ตอบคำถามและเดินแหวกวงสัมภาษณ์ออกไปทันที

เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก