พท.เย้ยเทือกจัดเวทีปฏิรูปฯบังหน้า

พท.เย้ยเทือกจัดเวทีปฏิรูปฯบังหน้า


'พท.'เย้ย'เทือก'จัดเวทีปฏิรูปฯบังหน้า

"เพื่อไทย"เย้ย"สุเทพ"จัดเวทีปฏิรูปการเมืองบังหน้าหวังหนีหมายจับ3คดี ยัน รบ.รักษาการได้ชี้ ม.127ไร้บทลงโทษ ชี้"ผู้ตรวจการฯ"ไร้อำนาจส่งศาลรธน.วินิจฉัยลต.2กพ.โมฆะ


วันที่ 9 มี.ค.57 เมื่อเวลา 10.00 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส. เตรียมจัดเวที “มวลมหาประชาชนเดินหน้าเปลี่ยนประเทศ” เพื่อปฏิรูปประเทศไทย ว่า เป็นข้ออ้างพยายามหนีคดีและหนีหมายจับศาลอาญาของนายสุเทพที่ขณะนี้มีหมายจับ 3 คดีในข้อหากบฏ ฝ่าฝืนพ.รก.ฉุกเฉิน และคดีสลายการชุมนุมเสื้อแดงปี 53 จึงอ้างการปฏิรูปการเมืองมาบังหน้า ก่อนการปฏิรูปการเมืองอยากให้นายสุเทพทำตัวเป็นแบบอย่างไปมอบตัวตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ให้เป็นข้อกังขาในสังคม อย่าเล่นปาหี่จัดเวทีปฏิรูปการเมืองบังหน้า
ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเรื่องการสิ้นสภาพของรัฐบาลรักษาการ เพราะไม่สามารถเปิดสภาได้ภายใน 30 วัน ภายหลังการเลือกตั้ง ถือเป็นการทำเป็นขบวนการทั้งนายสุเทพ พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่ม 40 ส.ว. นักวิชาการที่รุมกินโต๊ะรัฐบาล แต่ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยมอง ว่า แม้รัฐธรรมนูญมาตรา 127 จะกำหนดให้เปิดสภาภายใน 30 วัน หลังการเลือกตั้ง แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่มีผลทางกฎหมายแต่ประการใด จึงไม่ส่งผลให้รัฐบาลรักษาการสิ้นสภาพ เพราะไม่ได้กำหนดบทลงโทษ
ทั้งนี้รัฐธรรมนูญ มาตรา 181 ระบุว่า หากรัฐบาลยุบสภา ก็ให้ทำหน้าที่รักษาการต่อไปจนกว่าจะมีครม.ชุดใหม่ ดังนั้นหากยังไม่มีรัฐบาลชุดใหม่ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องรักษาการต่อไป นายสุเทพอย่าฝันกลางวันให้มีนายกฯมาตรา 7 อย่ามาล้มรัฐบาลด้วยวิธีง่ายๆ นายสุเทพเป็นม็อบหมดมุกแล้ว
จี้ "อิสสระ" มอบตัว ข้อหาพยายามฆ่ารปภ.เสื้อแดง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ออกหมายจับนายอิสสระ สมชัย แกนนำกปปส.พร้อมพวกรวม 5 คน ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน กรณีร่วมกันรุมทำร้ายนายยืม นิลหล้า รปภ.ที่พกพบัตรนปช. แล้วจับมัดโยนแม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ขอเรียกร้องนายอิสสระว่า เมื่อกล้าทำต้องกล้ารับ เคยเป็นถึงอดีตรมว.พัฒนาสังคมฯ ต้องมีจิตใจสูงส่ง ควรไปมอบตัวสู้คดี อย่ามาอ้างว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง แล้วไม่ไปมอบตัว โดยรอให้เสร็จสิ้นการชุมนุมก่อน ถือว่าไม่มีความรับผิดชอบ ควรแสดงวุฒิภาวะผู้นำไปมอบตัว กล้าทำต้องกล้ารับ
ชี้ "ผู้ตรวจการแผ่นดิน" ไร้ อำนาจส่งศาลรธน.วินิจฉัยเลือกตั้ง 2 ก.พ. โมฆะ
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายกิตติพงศ์ กมลธรรมวงศ์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ยื่นร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะว่า นายกิตติพงษ์ มีความเชื่อมโยงกับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล มักมีความเห็นต่างกับรัฐบาลมาตลอด ทั้งนี้การที่ผู้ตรวจการแผ่นดินอ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 245 (1) ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะหรือไม่นั้น ไม่สามารถทำได้ เพราะมาตรา 245 (1) ระบุว่า การที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยทำได้กรณีเดียว คือ กรณีมีบทบัญญัติใดขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่กรณีการฟ้องเลือกตั้งเป็นโมฆะ ไม่ใช่การขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จึงไม่มีอำนาจส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ส่วนที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้กกต.ชะลอการเลือกตั้งออกไปก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาการเลือกตั้งเป็นโมฆะเสร็จนั้น อยากให้ไปเรียกร้องให้นายสุเทพหยุดขัดขวางการเลือกตั้งดีกว่า ถ้าการเลือกตั้งเป็นโมฆะต้องถามว่า ใครเป็นต้นเหตุให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ หากนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีความสุจริตใจจริง ควรใช้มติพรรคขับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. และอดีต 8 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นแกนนำ กปปส.ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าไม่กล้าแสดงว่าปกป้องพวกเดียวกัน เล่นการเมืองสองหน้า
จี้ "กกต." จัดเลือกตั้งส.ส.-ส.ว.วันเดียวกัน เชื่อไร้ปัญหา
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ระบุถึงผลการหารือระหว่างกกต.กับเจ้าหน้าที่จัดการเลือกตั้งที่จ.สงขลา เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่มีข้อสรุปไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้งส.ส.และส.ว.ในวันเดียวกัน ว่า รู้สึกแปลกใจ เพราะหลายฝ่ายต้องการให้มีการเลือกตั้ง เพื่อแก้สุญญากาศทางการเมือง หากกกต.ดำเนินการเลือกตั้งนานเกินไป จะเกิดปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว กกต.ควรสั่งให้เลือกตั้งเร็วที่สุด ขอให้ทบทวนข้อเสนอจากการประชุมที่จ.สงขลา ควรให้มีเลือกตั้งส.ส.พร้อมกับการเลือกตั้งส.ว.ในวันที่ 30 มี.ค.จะช่วยประหยัดงบประมาณ และแก้ปัญหาขัดขวางการเลือกตั้งจากกลุ่มกปปส.ได้ เพราะผู้สมัครส.ว.ภาคใต้ส่วนใหญ่เป็นญาติพี่น้องนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัครบางส่วนเป็นแกนนำกปปส. ที่ผ่านมามีคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 366 คดี แต่แปลกใจว่า เหตุใดกกต.ไม่ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเอาผิดนายสุเทพกับพวก ข้อหาขัดขวางการเลือกตั้ง ดังนั้นในวันที่ 10 มี.ค.พรรคเพื่อไทยจะไปแจ้งความต่อกองปราบเอาผิดกกต. ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์