ปูวอนเห็นใจ!ยันถอยทุกอย่างแล้ว

ปูวอนเห็นใจ!ยันถอยทุกอย่างแล้ว

'ยิ่งลักษณ์' วอนเห็นใจ! ชี้ถอยมาทุกอย่างแล้ว ยันทิ้งหน้าที่ไม่ได้ ไม่วิจารณ์ถูกองค์กรอิสระรุมล้มรัฐ เชื่อหากเลือกตั้งเข้าระบบ มีรัฐบาลใหม่ความเชื่อมั่นจะกลับมา

7 มี.ค.57 เมื่อเวลา 12.20 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้มีการตีความว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.2557 เป็นโมฆะหรือไม่ว่า คงต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ เพราะในส่วนของรัฐบาลก็ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งเป็นแม่งานหลักในการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งเราก็ช่วยกันและพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองหรือไม่ว่าถูกองค์กรอิสระรุมเล่นงานเพื่อล้มรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า
 
คงไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นนี้ คงขอให้ทุกฝ่ายทำงานโดยไม่ตั้งมุ่งมั่นในธงหรือในเป้าหมาย แต่มุ่งมั่นให้ประเทศมีทางออก มีความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ถ้าทุกฝ่ายที่เป็นฝ่ายอำนายความยุติธรรมและตอบโจทย์ของสังคมได้ แก้ปัญหาให้บ้านเมืองเดินได้อันนี้จะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพราะวันนี้เราหาทางออกให้ประเทศได้ยาก หากผู้ที่ที่จะให้ทางออกมีความคลี่คลายในทางที่สงบและสันติก็จะเกิดประโยชน์โดยรวมมากกว่า

ส่วนกรณีที่ภาคเอกชนและภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากการชุมนุมและไม่ต้องการให้การชุมนุมลากยาวไปกว่านี้เพราะนักลงทุนต่างชาติก็อาจจะย้ายฐานการผลิตนั้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นสัญญาณที่ตนเคยบอกไว้แล้ว แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามประคับประคองไม่ให้การชุมนุุมมีความรุนแรงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ดังนั้นการชุมนุมที่ยืดเยื้อจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลพยายามประคัประคองเศรษฐกิจ แต่ลำพังรัฐบาลฝ่ายเดียวคงไม่ได้ จึงต้องขอความร่วมมือหลายส่วน ทั้งส่วนของผู้ชุมนุม ที่ต้องขอความกรุณาที่มีการปรับลดจุดการชุมนุมแล้ว ถ้าไม่ได้มาชุมนุมในจุดที่กีดขวางการจราจรและชุมนุมโดยสงบแล้วก็ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่น และนอกจากนี้การทำให้กลไกการเลือกตั้งได้เข้าสู่ระบบเถอะ ถ้าเราไม่มีระบบการเลือกตั้งเราก็จะมีปัญหาอยู่อย่างนี้ว่าจะเดินไปทางไหน
"การชุมนุมก็ยืดเยื้อ รัฐบาลใหม่ก็มาไม่ได้ ถ้าเราจะเริ่มจากการเลือกตั้งให้กลไกการเลือกตั้งกลับเข้าสู่ระบบเพื่อให้รัฐบาลใหม่มาทำงานได้ ความเชื่อมั่นต่างๆก็จะกลับมา" นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่ากกต.มีการทำหน้าที่เต็มที่หรือยังเพื่อจะให้มีการเลือกตั้ง นายกฯ กล่าวว่า
 
ประชาชนคงทราบอยู่แล้ว ซึ่งก็ต้องดูกัน เพราะว่าตนก็หวังว่าทุกฝ่ายจะทำงานอย่างเต็มที่ จึงขอร้องว่าหลังจากนี้เรามาทำงานกันอย่างเต็มที่ แต่จริงๆก็ต้องเห็นใจว่าไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือกกต.ก็ต้องขอร้องผู้ชุมนุมด้วย เพราะการที่เราขัดขวางไม่ให้มีการเลือกตั้งก็เท่ากับว่าเราไม่สามารถทำให้ประเทศเดินตามครรลองของประชาธิปไตยได้

เมื่อถามว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าคู่ขัดแย้งจะมานั่งเจรจากันออกอากาศสดทางโทรทัศน์เหมือนปี 2553

นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในส่วนของคู่ขัดแย้งแม้ว่าวันนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.บอกว่าตัดสินใจแทนมวลมหาประชาชนไม่ได้ จริงๆก็ต้องถามคนส่วนใหญ่น่าจะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กว่า ถ้าบอกว่าให้คู่ขัดแย้งต่างคนต่างมาคุยดีกว่า เพราะคนที่ดูอยู่และคนที่จะอยู่ร่วมกันคือประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ

"ทำไมเราไม่รับฟังเสียงของทุกคนว่าอะไรคือความต้องการของเสียงคนส่วนใหญ่ นั่นคือสิ่งที่เราบอกว่าการรับฟังเสียงของคนส่วนใหญ่ ต่างคนต่างบอกว่าเราบอกว่าเรามีประชาชน มีเเสียงส่วนใหญ่อยู่ก็ไม่สามารถให้คำตอบและวัดผลได้ว่าเสียงส่วนใหญ่คืออะไร จึงขอเรียนว่ากติกาการเลือกตั้ง หรือการทำประชามติในส่วนของปฏิรูปก็ตามอันนี้จะเป็นสิ่งที่ตอบได้อย่างชัดเจนและได้รับการยอมรับว่าเสียงส่วนใหญ่นั้นมีความคิดเห็นอย่างไรค่ะ" นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่าทุกวันนี้เรียกว่านายกฯยอมจนหลังชนฝาแล้วหรือไม่

นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า "ค่ะ จริงๆแล้วดิฉันเรียนว่าในสู่จุดที่เราทำได้เราก็ถอยมาทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการยุบสภาก็ดี ณ วันนี้ในการยุบสภาแล้วเราก็ต้องมีหน้าที่ในการรักษาการของรัฐบาลนี้เพื่อส่งมอบให้รัฐบาลใหม่ เมื่อกระบวนการเลือกตั้งถูกขัดขวางไม่ให้สามารถที่จะเดินได้ตามกลไก ก็ไม่สามารถที่จะเอาใครมารักษาการได้ เราจึงจำเป็นต้องมีหน้าที่ เหมือนคนเราเนี่ยมีหน้าที่รับผิดชอบอยู่ เราอยู่ๆจะทิ้งหน้าที่กลางคันไม่ได้ ก็ขอความเห็นใจให้ดิฉันเถอะค่ะ อะไรที่ดิฉันทำได้ดิฉันทำเยอะแล้ว"
"ก็ขอเรียนว่าดิฉันเองยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า เราไม่ได้อยู่วันนี้เพื่อที่จะบอกว่าครองอำนาจหรือเพื่อตัวเอง แต่การที่เราอยู่คือการรักษาประชาธิปไตย การรับผิดชอบตามหน้าที่ที่จะต้องส่งมอบให้ผู้ที่มารับหน้าที่ใหม่นั่นคือการเลือกตั้งที่จะได้มีคณะรัฐมนตรี (ครม.) และรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งถ้าทุกฝ่ายปล่อยให้กลไกทุกอย่างเดินได้เราก็จะได้เริ่มนับหนึ่งในการแก้ปัญหา" นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่าในเมื่อนายกฯและคนในตระกูลชินวัตรเดินในกทม.ไม่ได้เลยแล้วจะทำอย่างไร นางสาวยิ่งลักษณ์

เริ่มกล่าวเสียงสั่นและตาแดงๆว่า "ก็ดิฉันถึงถามว่า เราจะเป็นอย่างนี้กันหรือ เราจะเป็นคนไทยที่ไม่มองหน้ากันอีกแล้วหรือ เราจะเป็นคนไทยที่มีแต่ความเกลียดชังปลูกฝังความเกลียดชังให้กันและกันตลอดไป ดิฉันก็เชื่อว่าแม้ดิฉันเดินไปไหนก็ตาม ดิฉันเองในส่วนของกทม.ดิฉันไม่อยากที่จะมาเป็นเป้า ไม่อยากที่จะมาท้าทายให้กับพี่น้องประชาชน ดิฉันหลีกเลียงมาทำงานต่างจังหวัด แต่ขณะเดียวกันดิฉันไม่เคยละเลยปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวม แต่หลายอย่างขึ้นอยู่กับความร่วมมือ วันนี้หน่วยงานราชการทำงานไม่ได้เลย ถามว่าวันนี้จะให้เศรษฐกิจเดินอย่างไร เพราะทุกฝ่ายปิดขวางหน่วยราชการ ต้องไปทำงานแต่ละที่ วันนี้เอกสารสักฉบับยังเอาไม่ได้แล้วจะให้ขับเคลื่อนประเทศได้อย่างไร นี่คือคำถามค่ะ ขอบคุณค่ะ"

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้หันหลังให้กับวงสัมภาษณ์ของสื่อมวลชนและเดินออกไปทันที

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์