'ยิ่งลักษณ์' วอนเห็นใจ! ชี้ถอยมาทุกอย่างแล้ว ยันทิ้งหน้าที่ไม่ได้ ไม่วิจารณ์ถูกองค์กรอิสระรุมล้มรัฐ เชื่อหากเลือกตั้งเข้าระบบ มีรัฐบาลใหม่ความเชื่อมั่นจะกลับมา
ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้มีการตีความว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.2557 เป็นโมฆะหรือไม่ว่า คงต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ เพราะในส่วนของรัฐบาลก็ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งเป็นแม่งานหลักในการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งเราก็ช่วยกันและพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่
คงไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นนี้ คงขอให้ทุกฝ่ายทำงานโดยไม่ตั้งมุ่งมั่นในธงหรือในเป้าหมาย แต่มุ่งมั่นให้ประเทศมีทางออก มีความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ถ้าทุกฝ่ายที่เป็นฝ่ายอำนายความยุติธรรมและตอบโจทย์ของสังคมได้ แก้ปัญหาให้บ้านเมืองเดินได้อันนี้จะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพราะวันนี้เราหาทางออกให้ประเทศได้ยาก หากผู้ที่ที่จะให้ทางออกมีความคลี่คลายในทางที่สงบและสันติก็จะเกิดประโยชน์โดยรวมมากกว่า
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นสัญญาณที่ตนเคยบอกไว้แล้ว แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามประคับประคองไม่ให้การชุมนุุมมีความรุนแรงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ดังนั้นการชุมนุมที่ยืดเยื้อจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลพยายามประคัประคองเศรษฐกิจ แต่ลำพังรัฐบาลฝ่ายเดียวคงไม่ได้ จึงต้องขอความร่วมมือหลายส่วน ทั้งส่วนของผู้ชุมนุม ที่ต้องขอความกรุณาที่มีการปรับลดจุดการชุมนุมแล้ว ถ้าไม่ได้มาชุมนุมในจุดที่กีดขวางการจราจรและชุมนุมโดยสงบแล้วก็ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่น และนอกจากนี้การทำให้กลไกการเลือกตั้งได้เข้าสู่ระบบเถอะ ถ้าเราไม่มีระบบการเลือกตั้งเราก็จะมีปัญหาอยู่อย่างนี้ว่าจะเดินไปทางไหน
ประชาชนคงทราบอยู่แล้ว ซึ่งก็ต้องดูกัน เพราะว่าตนก็หวังว่าทุกฝ่ายจะทำงานอย่างเต็มที่ จึงขอร้องว่าหลังจากนี้เรามาทำงานกันอย่างเต็มที่ แต่จริงๆก็ต้องเห็นใจว่าไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือกกต.ก็ต้องขอร้องผู้ชุมนุมด้วย เพราะการที่เราขัดขวางไม่ให้มีการเลือกตั้งก็เท่ากับว่าเราไม่สามารถทำให้ประเทศเดินตามครรลองของประชาธิปไตยได้
นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในส่วนของคู่ขัดแย้งแม้ว่าวันนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.บอกว่าตัดสินใจแทนมวลมหาประชาชนไม่ได้ จริงๆก็ต้องถามคนส่วนใหญ่น่าจะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กว่า ถ้าบอกว่าให้คู่ขัดแย้งต่างคนต่างมาคุยดีกว่า เพราะคนที่ดูอยู่และคนที่จะอยู่ร่วมกันคือประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ
เมื่อถามว่าทุกวันนี้เรียกว่านายกฯยอมจนหลังชนฝาแล้วหรือไม่
นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า "ค่ะ จริงๆแล้วดิฉันเรียนว่าในสู่จุดที่เราทำได้เราก็ถอยมาทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการยุบสภาก็ดี ณ วันนี้ในการยุบสภาแล้วเราก็ต้องมีหน้าที่ในการรักษาการของรัฐบาลนี้เพื่อส่งมอบให้รัฐบาลใหม่ เมื่อกระบวนการเลือกตั้งถูกขัดขวางไม่ให้สามารถที่จะเดินได้ตามกลไก ก็ไม่สามารถที่จะเอาใครมารักษาการได้ เราจึงจำเป็นต้องมีหน้าที่ เหมือนคนเราเนี่ยมีหน้าที่รับผิดชอบอยู่ เราอยู่ๆจะทิ้งหน้าที่กลางคันไม่ได้ ก็ขอความเห็นใจให้ดิฉันเถอะค่ะ อะไรที่ดิฉันทำได้ดิฉันทำเยอะแล้ว"
เริ่มกล่าวเสียงสั่นและตาแดงๆว่า "ก็ดิฉันถึงถามว่า เราจะเป็นอย่างนี้กันหรือ เราจะเป็นคนไทยที่ไม่มองหน้ากันอีกแล้วหรือ เราจะเป็นคนไทยที่มีแต่ความเกลียดชังปลูกฝังความเกลียดชังให้กันและกันตลอดไป ดิฉันก็เชื่อว่าแม้ดิฉันเดินไปไหนก็ตาม ดิฉันเองในส่วนของกทม.ดิฉันไม่อยากที่จะมาเป็นเป้า ไม่อยากที่จะมาท้าทายให้กับพี่น้องประชาชน ดิฉันหลีกเลียงมาทำงานต่างจังหวัด แต่ขณะเดียวกันดิฉันไม่เคยละเลยปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวม แต่หลายอย่างขึ้นอยู่กับความร่วมมือ วันนี้หน่วยงานราชการทำงานไม่ได้เลย ถามว่าวันนี้จะให้เศรษฐกิจเดินอย่างไร เพราะทุกฝ่ายปิดขวางหน่วยราชการ ต้องไปทำงานแต่ละที่ วันนี้เอกสารสักฉบับยังเอาไม่ได้แล้วจะให้ขับเคลื่อนประเทศได้อย่างไร นี่คือคำถามค่ะ ขอบคุณค่ะ"