นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช.กล่าวว่า กรณีนายเอกณัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. แถลงว่า ตนพูดจาบิดเบือนกรณีที่ได้ระบุว่า นปช.ไม่มีส่วนในการแบ่งแยกดินแดนนั้น ตนอยากบอกว่า ให้นายเอกณัฏ กลับไปหาพ่อตัวจริงดีกว่าตามพ่อเลี้ยงไม่รุ่งและติดคุกแน่นอน ตนไม่อยากตอบโต้นายเอกณัฏ มันคนละระดับกัน คุณยังเป็นเด็ก อยู่ ๆ มาพูดว่า การแถลงข่าวของตนเป็นการโกหก อย่าเอาตัวอย่างไม่ดีมาพูด และให้ระวังตัวเองไว้ให้ดี
“ นายเอกณัฏ พูดถึงกรณี สปป.ล้านนาว่า ถ้าเป็นสมัชชาปกป้องประชาธิปไตยล้านนา ต้องมีตัวย่อ สปล. ขอถามว่าแล้วมันกงการอะไรของคุณเขาตั้งของเขาแบบนี้ สิ่งที่นายเอกณัฏคิดเป็นตรรกะแบบเผด็จการเหมือนชื่อคุณทำไมชื่อเอกณัฏ คำว่า ล้านนาก็มาต่อ สปป.คือสมัชชาปกป้องประชาธิปไตยที่เป็นเครือข่ายของนักวิชาการส่วนกลาง นายเอกณัฏ อย่าพูดในเรื่องที่ตัวเองไม่รู้เรื่องเพราะเราถือว่าคุณมันยังไม่ดำสนิทเหมือนผู้ใหญ่บางคนอย่าโจมตีโดยเลียนแบบคนรุ่นพ่อ ” นางธิดา กล่าว
นางธิดา กล่าวอีกว่า ฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตยเขาผนึกกำลังทำงานเป็นทีม ในสภาทำงานไม่ได้ก็มีภาคประชาชนมีกองทัพ องค์กรอิสระ นักวิชาการ นักธุรกิจที่ทำเป็นแผนเดียวกันหมด ในฝ่ายประชาธิปไตย ขอให้เข้าใจว่าขณะนี้เป็นวิกฤตอย่างยิ่งเรามีอิสระ เสรีภาพ แต่มีอุดมการณ์ร่วมกัน เป้าหมายเฉพาะหน้าคือการต่อสู้กับ กปปส.เป้าหมายระยะยาวเราไม่ต้องการระบอบอำมาตย์เราต้องการประชาธิปไตย ถือเป็นยุทธศาสตร์หลักที่เราต้องต่อสู้ร่วมกัน จึงขอให้พี่น้องเคลื่อนไหวด้วยคำพูดและการกระทำที่ระมัดระวังมากขึ้นเพราะจะกระทบกับเป้าหมายส่วนรวม
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์และแกนนำนปช. กล่าวว่า วันนี้มีนาย พล.ต.สมเกียรติ วัฒนวิกิจ แกนนำ กปปส.ราชบุรี ที่เป็นชาวนกหวีดโดยแท้ไปแจ้งความ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ตน และ แกนนำ นปช. ในข้อหาก่อกบฏในราชอาณาจักรตนนึกไม่ออกว่านายกรัฐมนตรีเกี่ยวข้องตรงไหน พี่น้องอย่าตกใจกับเรื่องนี้ เพราะเป็นอาการป่วยของคน จึงเดินขึ้นกองปราบไปแจ้งความจะเป็นกบฏไปได้อย่างไร เพราะเป็นการแสดงความเห็นของประชาชน และถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ วันนี้ นปช. กลายเป็นกบฏตัวย่อจากกรณี สปป.ล้านนา ทั้ง ๆ ที่เนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกับกบฏเลย
“ เป็นข้อหาที่เหลวไหล เลอะเทอะไม่มีทางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการจะสรุปสำนวนแล้วฟ้องร้องได้เพราะมีแค่ป้ายผ้าธรรมดา แนวทางการเคลื่อนไหวของเราเปิดเผยตรงไปตรงมา จะไปแบ่งได้ไทยเหนือไทยใต้ แกนนำ นปช.ไม่มีใครยอม แต่นายสุเทพ เข้าข่ายข้อหากบฏชัดเจนเพราะศาลอาญาอนุมัติหมายจับแล้วความชัดเจนต่างกันว่าใครอยู่ในสถานะที่ต้องดำเนินคดีในข้อหากบฏ ไม่ใช่ นปช. แน่ ๆ
อยากดูว่า กองทัพจะรวบรวมพยานหลักฐานอย่างไร เพื่อมาประกอบข้อกล่าวหากบฏของ นปช. และขอให้ดำเนินการเบา ๆ ด้วยเพราะจะได้ไม่อายในภายหลัง ” นายณัฐวุฒิกล่าวและว่า อย่างไรก็ตามฝากข้อสังเกตไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ว่า สถานการณ์ตอนนี้ละเอียดอ่อน ขอให้มีการพิจารณาปรับจำนวนบังเกอร์ของทหารให้น้อยลง เพราะกปปส.รวมไปชุมนุมที่สวนลุมพินีเหลือเพียงจุดเดียวไม่มีความจำเป็นต้องตั้งกองกำลังทหารจำนวนมาก
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ออกระเบียบรับสมัครเจ้าหน้าที่ 457 อัตราของ ป.ป.ช.โดยเป็นการรับสมัครภายใน ไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษานั้นกรณีนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับ ป.ป.ช.ชุดเก่า ในกรณีออกระเบียบขึ้นเงินเดือนตัวเองซึ่งมีคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้มีโทษจำคุก 2 ปี แต่ให้รอลงอาญา และป.ป.ช.ทั้ง 9 คนต้องพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ กรณีนี้ก็เช่นกัน ออกระเบียบภายในรับคนมาทำงานรู้กันเองเฉพาะพวกของตัว ไม่ประกาศผ่านราชกิจจานุเบกษา มีการรับคนเข้ามาบรรจุแล้วบางส่วนแสดงว่าความผิดสำเร็จ และกรณีนี้ก็มีการนำไปฟ้องร้องต่อศาลแล้ว ซึ่งตนนำมาเทียบเคียงให้ดูว่ากรณีเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว