สุเทพขย่มรัฐบาลใกล้หมดอายุ ขู่ปูระวังไม่มีแผ่นดินอยู่

เมื่อเวลา 20.25 น. วันที่ 6 มี.ค. ที่เวทีกปปส. สวนลุมพินี  นายสุเทพ  เทือกสุบรรณ  เลขาธิการกปปส. 

กล่าวปราศรัยว่า  ช่วง 1-2 วันนี้มีเรื่องที่คนพูดคุยกันมาก ขณะเดียวกันมีคนที่พยายามพูดให้เกิดความเข้าใจผิดหรือไขว้เขว โดยเฉพาะอย่างยิ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่พูดในทำนองตัดพ้อต่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. หลายครั้งช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ว่าทหารเลือกปฏิบัติ  โดยทหารดำเนินการเอาจริงเอาจังกับกรณีคนที่เป็นพวกของน.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือฝ่ายนปช. แต่กลับดูแลฝ่ายมวลมหาประชาชนเป็นอย่างดี

ตนรู้สึกเห็นใจกองทัพที่ถูกน.ส.ยิ่งลักษณ์พูดจาแดกดัน  ทั้งที่คนของนายกรัฐมนตรีมีความโอหังด้วยการประกาศแบ่งแยกประเทศ
 
แต่การที่พวกเราออกมาต่อสู้กับระบอบทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วยวิธีการที่สันติ ไม่ใช้ความรุนแรง ศาลได้รับรองว่าการต่อสู้แบบนี้เป็นการต่อสู้ที่บทบัญญัติรัฐธรรมนูญรับรองสิทธิเอาไว้ว่าประชาชนมีสิทธิต่อสู้กับรัฐบาลทรราช

ดังนั้น นายกฯจะไปต่อว่าผบ.ทบ.และแม่ทัพภาคที่ 3 ได้อย่างไร แต่ฝ่ายสมุนของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
 
เห็นว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไปไม่รอดแล้ว จัดชุมนุมที่จ.นครราชสีมา ประกาศว่าจะไปปิดสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และศาลรัฐธรรมนูญ  อีกทั้งบอกว่าจะเอากองกำลังติดอาวุธมาต่อสู้ชิงเมือง แต่ถ้าสู้ไม่ได้ก็จะแบ่งแยกประเทศหรือไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นในต่างประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการกระทำผิดรัฐธรรมนูญชัดเจน

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ตนขอให้ประชาชนแยกแยะให้ดี เพราะพวกเราไม่ได้ก่อความวุ่นวายใดๆ สู้อย่างสงบสติ

แต่คนพวกนั้นก่อความวุ่นวายและความรุนแรงขึ้นมาทั้งนั้น  ซึ่งพวกเราเป็นฝ่ายถูกกระทำทั้งนั้น จะเอาเราไปเปรียบเทียบกับกลุ่มนปช.ไม่ได้ เพราะนปช.ก้าวร้าวและข่มขู่คนไทยทั้งประเทศว่าจะทำสงครามกลางเมือง  ที่จริงแล้วถ้าจะเอาผิดก็ต้องเอาผิดกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะอ้างตัวเป็นนายกรัฐนตรี และยังนิ่งเฉยทั้งที่รู้ว่าคนของพวกตัวเองกำลังก่อเหตุร้าย

อีกทั้งล่าสุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกมาพูดในวันนี้(6 มี.ค.)ว่าการที่กองทัพนำเจ้าหน้าที่ทหารออกมาทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพพจน์ประเทศไทย ซึ่งตนขอชื่นชมกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ที่ตอบโต้นายกรัฐมนตรีว่าจะให้ทาสีบังเกอร์เป็นสีชมพูและติดดอกไม้หรือ ตนขอให้ติดรูปน.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย

วันนี้ถือว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์มีอาการหันรีหันขวาง กล่าวโทษคนอื่น
 
ซึ่งที่จริงทหารสมควรออกมาตั้งบังเกอร์ ดูแลประชาชน เพราะสมุนบริวารของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกมาก่อความรุนแรงต่อประชาชน ส่วนการที่ระบุว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศตกใจนั้น ที่จริง เขาตกใจตั้งแต่วันที่รัฐบาลประกาศใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 

ส่วนกรณีที่นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำเสื้อแดง จ.ปทุมธานี ขึ้นป้ายผ้าประกาศแบ่งแยกแผ่นดินนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่พูดถึงเลย และเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับระบุว่าจะเชิญให้โกตี๋มาชีี้แจง พร้อมกับระบุว่าสิ่งที่โกตี๋กระทำนี้เป็นการสื่อถึงความไม่เท่าเทียมกันในสังคมเท่านั้น

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ การที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.) ลาราชการ 3 วัน

ซึ่งมีข่าวว่าเดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์นั้น ตนอยากถามว่าร.ต.อ.เฉลิมไปเพื่อหาที่ลี้ภัยใช่หรือไม่ หรือไปเบิกเงินจากพ.ต.ท.ทักษิณ  อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าร.ต.อ.เฉลิมหวั่นไหวเต็มที ขณะเดียวกัน รัฐบาลเริ่มระส่ำระสาย โดยในช่วงกลางเดือนนี้้ ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญและป.ป.ช.จะวินิจฉัยออกมาอย่างไร ขอให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก้มหน้ารับคำตัดสิน ตนขอบอกว่าถ้าครั้งนี้ยังดันทุรังอยู่ เขาจะมีไม่มีแผ่นดินอยู่แน่นอน เพราะประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ใครที่คิดร้ายต่อบ้านเมืองก็ย่อมมีอันเป็นไป

นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า ตนเชื่อว่าการต่อสู้ของเรางวดเข้ามาเต็มที 

ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค.นี้ เราต้องทำงานหนักมากขึ้นในการระดมความคิดเห็นของคนไทยทุกกลุ่มในการปฏิรูปประเทศ แล้วนำมาจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจน ทันทีที่อำนาจถูกคืนสู่ประชาชนแล้ว นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะมีแนวทางปฏิบัติต่อไปได้  โดยวันที่ 10 มี.ค.นี้ เราจะเริ่มที่การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม จะเปิดโอกาสให้นักวิชาการนำเสนอผลงานวิจัยต่างๆที่เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ให้ผู้แทนองค์กรต่างๆและผู้แทนกลุ่มประชาชนช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์

พวกเรายืนยันว่าจะขับเคลื่อนบ้านเมืองของเราเพื่อคนไทยทุกคนในทุกจังหวัด ทุกภาค ขอให้ประชาชนทุกคนมั่นใจว่าพวกเราสู้เพื่อชาติจริงๆ ไม่มีผลประโยชน์อะไรแอบแฝง