ที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศรส.) กองบัญชาการปราปรามยาเสพติด เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 5 มี.ค.
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการ ศรส. เปิดเผยว่า การที่แกนนำกลุ่ม กปปส. นำผู้ชุมนุมไปปิดล้อมบ้าน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ถือเป็นการข่มขู่คุกคามลักษณะละเมิดสิทธิของผู้อื่น ไม่ใช่การกระทำของผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ส่วนเหตุคนร้ายขว้างระเบิดใส่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปชช. ผบก.ภ.นนทบุรี รายงานว่า ผู้ก่อเหตุมีความชำนาญพื้นที่เพราะสามารถหลบหนีได้ ทั้งที่มีการตั้งจุดตรวจของทหารยังเล็ดลอดเข้าไปได้
ขณะที่เหตุการณ์คนร้ายลอบขว้างระเบิดใส่บ้าน นายณัฎพล ทีปสุวรรณ แกนนำ กปปส.แต่ระเบิดไม่ทำงาน
ยืนยันว่า เป็นการสร้างสถานการณ์และป้ายความผิดให้รัฐบาล ยอมรับว่าการตรวจสอบที่มาของระเบิดที่ถูกนำมาใช้ก่อเหตุในช่วงนี้เป็นไปได้ยาก แต่สิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นจากทั้งสองเหตุการณ์นี้ การชุมนุมของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เชื่อว่า นายสุเทพ ก็รู้ว่าไปต่อไม่ได้เพราะนายทุนที่สนับสนุนและมวลชนก็ลดน้อยลง จึงต้องการถามกลับไปว่า กลุ่ม กปปส.มีเป้าหมายต้องการเรียกร้องการปฏิรูปการเมือง หรือ ล้มรัฐบาล หรือต้องการใช้องค์กรอิสระในการล้มรัฐบาล
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ความขัดแย้งทางการเมืองยังไม่จบลงในตอนนี้แน่
แต่เห็นว่าหากการเมืองจะสงบได้ ต้องจัดการเลือกตั้งและได้รัฐบาลชุดใหม่บริหารราชการช่วงสั้นๆ และจัดให้มีการปฏิรูปการเมือง ซึ่งส่วนตัวประเมินสถานการณ์จากนี้ไปต้องดูที่การทำงานขององค์กรอิสระทั้ง ปปช.และศาลรัฐธรรมนูญ หากผลการวินิจฉัยถูกใจฝ่ายนายสุเทพอีกฝ่ายก็ต้องไม่เห็นด้วย หรือหากผลการวินิจฉัยไม่ถูกใจความขัดแย้งทางการเมืองคงไม่จบสิ้นลงง่ายๆ ส่วนคดีที่แม่ทัพภาคที่ 3 มอบหมายให้ตัวแทนเข้าแจ้งความว่ามีกลุ่มบุคคลมีความพยายามในการแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่ภาคเหนือนั้น ทาง ผบช.ภ. 5 รายงานว่า ตำรวจได้เรียกกลุ่มดังกล่าวมาสอบสวนและสืบสวนหาหลักฐานเบื้องต้นยังไม่ปรากฏหลักฐานการแบ่งแยกดินแดนแต่ทางตำรวจก็ยังเดินหน้าตรวจสอบต่อไป