รัฐยุ ปชช.ประณามม็อบกู้ชาติ - จี้ จำลอง รับผิดชอบหากมีคนตาย

รัฐยุ ปชช.ประณามม็อบกู้ชาติ - จี้ จำลอง รับผิดชอบหากมีคนตาย

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 มีนาคม 2549 15:45 น.

โฆษกรัฐบาลออกโรงยุประชาชนประณามกลุ่มพันธมิตรกู้ชาติ ปักหลักหน้าสยามพารากอน สร้างความเดือดร้อน ซัด จำลอง หาเกิดเหตุรุนแรง ห้ามปฏิเสธความรับผิดชอบเหมือนครั้งพฤษภา 35 อ้างรัฐมีสิทธิ์ตาม กม.สั่งสอบ สนธิ หากยกเบื้องสูงมาอ้างจริง


วันนี้ (29 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงกรณีเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เตรียมเคลื่อขบวนปักหลักบริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ในเวลา 15.00 น.วันนี้ว่า เป็นการเคลื่อนไปชุมนุมในพื้นที่ศูนย์กลางเศรษฐกิจและการจราจร และใกล้เขตพระราชฐาน รัฐบาลจึงขอวิงวอนแกนนำว่าอย่าถือความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ ขอให้แสดงความคิดเห็นตามกติการัฐธรรมนูญ อย่าทำสิ่งที่กระทบต่อสิทธิคนอื่น ถึงแม้มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น แต่ทุกคนมี 1 เสียงเท่ากัน ไม่ว่าเป็นใคร เป็นนายกฯ เป็นผู้สื่อข่าว เป็น พล.ต. หรือประชาชนทั่วไปก็เท่ากัน ส่วนความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการชุมนุมดังกล่าวชัดเจนว่า เป็นเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจในบริเวณดังกล่าวได้ประเมินความเสียหายทางธุรกิจแล้วว่า ตกวันละ 300-400 ล้านบาท เป็นส่วนเฉพาะค่าเช่าที่เท่านั้น ยังไม่รวมรายได้จากการขาย และความสิ้นเปลืองอื่นๆอาทิ น้ำมัน

นพ.สุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเหตุระเบิดไม่ว่าเป็นที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ พุทธสถานสันติอโศก บ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ซึ่งทุกฝ่ายเห็นแล้วว่าเป็นความพยายามของคนที่ไม่ต้องการให้ทุกอย่างคลี่คลาย ต้องการให้ลุกลามต่อ อย่างไรก็ตาม ระเบิดเป็นสิ่งที่เห็นได้ แต่การชุมนุมที่จะเกิดขึ้นเป็นระเบิดที่มองไม่เห็น เป็นระเบิดที่มีอานุภาพทำลายล้างเศรษฐกิจและวิถีชีวิตของสังคมเมือง และไม่รู้ว่าจะมีอานุภาพทำลายล้างไปมากเพียงใด แต่รัฐบาลยืนยันที่จะไม่ใช่ความรุนแรง จะใช้รัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ร่วมกัน ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุด คือ หากมีการดึงดันปักหลักและสร้างความเสียหาย ทุกคนต้องช่วยกันตำหนิ ประณามผู้ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ ทั้งทางวาจา และรูปแบบอื่น เพราะถ้ามีกลุ่มที่ทำได้ ต่อไปกลุ่มอื่นก็ทำได้หมด อีกทั้งเอแบคโพลล์สำรวจมาแล้วว่าประชาชนถึง 71% ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม ดังนั้น การชุมนุมดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิที่กระทบต่อสิทธิของคนอื่นอย่างรุนแรง และขณะนี้มีความพยายามของบางกลุ่มที่ต้องการให้เกิดความรุนแรง จึงต้องระวังในเรื่องการสร้างสถานการณ์ โดยเฉพาะตำรวจต้องไม่ตกเป็นเครื่องมือ

ที่ผ่านมา พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำ ระบุว่าไม่ได้พาคนไปตายในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 2535 แต่จากครั้งนี้ พล.ต.จำลองจะไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะที่ผ่านมามีการทัดทานจากทุกฝ่ายแล้ว และขอถามว่าการที่ พล.ต.จำลองเตรียมจะนำกลุ่มผู้ชุมนุมไปร่วมงานขบวนแรลลี่ฉลอง 60 ปี การครองสิริราชสมบัติ 60 ปี ที่หาดหัวหิน โรงแรมโซฟิเทล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 30 มี.ค. ไปด้วยเหตุผลอะไร พล.ต.จำลองเป็นคนที่มีหัวคิดรุนแรง ต้องการแตกหัก ซึ่งแตกต่างจากแกนนำคนอื่นๆ คือมี 3 ใน 5 แกนนำ ที่ต้องการความสงบ ซึ่งมีความคิดแตกต่างกันชัดเจน ดังนั้น ถ้ายังทำแบบนี้เชื่อว่าแนวร่วมก็จะลดลง นพ.สุรพงษ์ กล่าว

นพ.สุรพงษ์ กล่าวถึงกรณีแกนนำเครือข่ายพันธมิตรฯ ปราศรัยพาดพิงสถาบันเบื้องสูงว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลห่วง และจะได้ขอให้มีการสืบสวนสอบสวนให้มีความกระจ่างแจ้ง เป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่สามารถปล่อยปละละเลยได้ในฐานะผู้รักษากฎหมาย ซึ่งจะมีการติดตามว่าในการปราศรัยดังกล่าวมีการบันทึกเป็นเทปไว้ชัดเจนหรือไม่

หากมีข้อมูลชัดจะคิดว่าควรดำเนินตามกฎหมายอย่างไร ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ ระบุว่าคนในรัฐบาลเองก็มีการพูดจาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเช่นกัน นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องหมิ่นต่อเบื้องสูงที่จะได้รับการตรวจสอบตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมไม่ว่าเป็นใคร

นพ.สุรพงษ์ ยังกล่าวถึงกรณี 60 คณาจารย์คณะนิติศาสตร์ 14 สถาบัน เข้าชื่อยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นเวลา 10 ปี ว่า เป็นเรื่องที่ กกต.จะดำเนินการตรวจสอบตามข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งออกมา พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้กำชับหน่วยราชการ และข้าราชการทุกคนให้ทำหน้าที่เป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เป็นการย้ำออกเป็นมติคณัรัฐมนตรี (ครม.) ชัดเจน ดังนั้น การหาเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณจึงไม่ได้ใช้กลไกราชการเป็นเครื่องมือช่วยหาเสียง ส่วนที่โจมตีว่า พ.ต.ท.ทักษิณแจกเงินในงานอาชีวะสร้างชาติ นั้น ความจริงแล้วเป็นเรื่องของการจ่ายค่าสมัครสมาชิกนิตยสาร Vocational ซึ่งมีใบเสร็จรับเงินถูกต้องชัดเจน จึงไม่ได้ผิดต่อกฎหมายเลือกตั้ง ดังนั้น ในข้อกล่าวหาต่างๆ จึงสามารถอธิบายได้ชัดเจน

นพ.สุรพงษ์ กล่าวถึงการยกเลิกการปราศรัยของพรรคไทยรักไทย ในวันที่ 31 มีนาคม ที่ลานหน้าอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินีว่า สาเหตุเพราะไม่สามารถทราบได้ว่าการชุมนุมของเครือข่ายพันธมิตรจะยืดเยื้อยาวนานแค่ไหน ดังนั้น ถ้าวันดังกล่าวมีคนมาฟังปราศรัยที่สวนลุมฯ เป็นจำนวนมาก อาจเกิดการเผชิญหน้ากันได้ ส่วนเนื้อหาที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะปราศรัยในวันดังกล่าวจะถูกนำไปพูดในรายการกรองสถานการณ์ เวลา 20.30 น.ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ในวันนี้ (29 มี.ค.) โดย พ.ต.ท.ทักษิณจะพูดจาก จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นไปตามที่ กกต.เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองได้นำเสนอนโยบายต่อประชาชน ทราบว่ามี 3 พรรคการเมือง ที่ต่อคิวกันพูดผ่านรายการกรองสถานการณ์ในแต่ละวัน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์