ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 ก.พ. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า "Yingluck Shinawatra" โดยระบุถึงความสำคัญของการมีประชาคมอาเซียนที่ส่งผลต่อการค้าชายแดน
โดยข้อความระบุว่า "ในยุคที่เศรษฐกิจโลกมีความเชื่อมโยง และมีความเสรีในการไหลเวียนของข้อมูลข่าวสาร เงินทุน แรงงานมากขึ้น
ประเทศไทยจึงต้องให้ความสำคัญกับการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ASEAN และการค้าชายแดนถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจจากการค้าระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน โดยใน 2 - 3 ปีที่ผ่านมาการค้าชายแดนมีบทบาทต่อการค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องข้อมูลกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ช่วงเดือน ม.ค. - พ.ย. ปี 2556 ภาพรวมการค้าชายแดนของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน มูลค่าถึง 8.4 แสนล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้สะท้อนประโยชน์ด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมทั้งภาคการผลิตของผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP ของไทย
ประเทศไทยจึงต้องให้ความสำคัญกับการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ASEAN และการค้าชายแดนถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจจากการค้าระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน โดยใน 2 - 3 ปีที่ผ่านมาการค้าชายแดนมีบทบาทต่อการค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องข้อมูลกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ช่วงเดือน ม.ค. - พ.ย. ปี 2556 ภาพรวมการค้าชายแดนของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน มูลค่าถึง 8.4 แสนล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้สะท้อนประโยชน์ด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมทั้งภาคการผลิตของผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP ของไทย
ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขัน โดยมีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์
ที่จะได้รับประโยชน์จากการเชื่อมโยงทางการค้าระหว่างประเทศในภูมิภาค ASEAN และเพื่อสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอย่างยั่งยืน รัฐบาลไทยได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้กรอบความร่วมมือต่างๆ เช่น ระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS Economic Corridors) และยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ระหว่างกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ ไทย และเวียดนาม (ACMECS)
ที่จะได้รับประโยชน์จากการเชื่อมโยงทางการค้าระหว่างประเทศในภูมิภาค ASEAN และเพื่อสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอย่างยั่งยืน รัฐบาลไทยได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้กรอบความร่วมมือต่างๆ เช่น ระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS Economic Corridors) และยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ระหว่างกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ ไทย และเวียดนาม (ACMECS)
โดยได้มีความพยายามในการส่งเสริมการสร้างความเชื่อมโยงทางด้านโลจิสติกส์และโครงข่ายการคมนาคมทั้งบก เรือ และอากาศ
รวมทั้งส่งเสริมการร่วมกันในการอำนวยความสะดวกทางด้านการค้า และธุรกิจระหว่างกัน เช่น การแก้ไขกฎระเบียบ มาตรการด้านภาษี รวมทั้งแนวคิด National Single Window เป็นต้น เพื่อให้ความเชื่อมโยงที่เกิดขึ้นนำมาชึ่งโอกาสทางเศรษฐกิจ ทั้งการเข้าสู่ตลาดที่ขนาดใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะตลาดแถบจีนตอนใต้ที่กำลังมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในวันนี้
รวมทั้งส่งเสริมการร่วมกันในการอำนวยความสะดวกทางด้านการค้า และธุรกิจระหว่างกัน เช่น การแก้ไขกฎระเบียบ มาตรการด้านภาษี รวมทั้งแนวคิด National Single Window เป็นต้น เพื่อให้ความเชื่อมโยงที่เกิดขึ้นนำมาชึ่งโอกาสทางเศรษฐกิจ ทั้งการเข้าสู่ตลาดที่ขนาดใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะตลาดแถบจีนตอนใต้ที่กำลังมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในวันนี้
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุด้วยว่า ตนได้เดินทางไปมาตรวจราชการ
และติดตามงานในพื้นที่ภาคเหนือตามที่ทางจังหวัดเสนอและได้ทราบถึงการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การสร้างท่าเรือเชียงแสน แห่งที่ 2 สะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ – ห้วยทราย) รวมทั้งการสร้างรถไฟรางคู่ มีความก้าวหน้าอย่างน่าพอใจ และโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้จะเสริมศักยภาพพื้นที่ชายแดนไทยที่เชื่อมต่อกับลาวในการพัฒนาเพื่อให้สอดรับกับแนวคิดเรื่องพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ
และติดตามงานในพื้นที่ภาคเหนือตามที่ทางจังหวัดเสนอและได้ทราบถึงการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การสร้างท่าเรือเชียงแสน แห่งที่ 2 สะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ – ห้วยทราย) รวมทั้งการสร้างรถไฟรางคู่ มีความก้าวหน้าอย่างน่าพอใจ และโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้จะเสริมศักยภาพพื้นที่ชายแดนไทยที่เชื่อมต่อกับลาวในการพัฒนาเพื่อให้สอดรับกับแนวคิดเรื่องพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ
นายกฯ ระบุอีกว่า อย่างไรก็ดี นอกจากโอกาสที่เกิดขึ้นจากการเชื่อมโยงระหว่างประเทศที่มีมากขึ้นแล้ว
รัฐบาลก็ได้ให้ความสำคัญกับการระมัดระวังมิให้เกิดการแสวงหาประโยชน์จากการเชื่อมโยงในทางที่ผิด โดยเฉพาะอาชญากรรมข้ามชาติ และยาเสพติด ซึ่งในวันนี้ก็ได้มีโอกาสประชุมในประเด็นนี้ และได้ทราบว่าทั้งสองประเทศได้มีความมุ่งมั่นในการร่วมมือแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ขอชื่นชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมมือกันสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนอย่างเข้มแข็ง นอกจากนี้โครงการในพระดำริต่างๆ ในพื้นที่ก็เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน เช่น โครงการปลูกพืชทดแทน ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติดแล้วยังช่วยปรับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ให้มีรายได้มั่นคงขึ้น
รัฐบาลก็ได้ให้ความสำคัญกับการระมัดระวังมิให้เกิดการแสวงหาประโยชน์จากการเชื่อมโยงในทางที่ผิด โดยเฉพาะอาชญากรรมข้ามชาติ และยาเสพติด ซึ่งในวันนี้ก็ได้มีโอกาสประชุมในประเด็นนี้ และได้ทราบว่าทั้งสองประเทศได้มีความมุ่งมั่นในการร่วมมือแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ขอชื่นชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมมือกันสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนอย่างเข้มแข็ง นอกจากนี้โครงการในพระดำริต่างๆ ในพื้นที่ก็เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน เช่น โครงการปลูกพืชทดแทน ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติดแล้วยังช่วยปรับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ให้มีรายได้มั่นคงขึ้น
"เพื่อให้การพัฒนาทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคอาเซียนเป็นไปอย่างยั่งยืน ประเทศสมาชิกจำเป็นจะต้องส่งเสริมให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนในภูมิภาค (People to People Connectivity) ผ่านการเรียนรู้ด้านภาษา วัฒนธรรม นอกจากนี้เสถียรภาพทางการเมืองนับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้เกิด สร้างโอกาสในการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ และการพัฒนามิติอื่นๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในประเทศสมาชิกโดยรวม" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุผ่านเฟสบุ๊ค
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
