นางธิดา กล่าวอีกว่า ในส่วนขององค์กรอิสระคือ กกต. ก็ยังทำหน้าที่อย่างมีปัญหา
สำหรับ ป.ป.ช.ระวังตัวเอาไว้ให้ดีไม่ได้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยแต่ระวังว่า ครั้งนี้การเลือกปฏิบัติไม่ดำเนินการกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในโครงการประกันราคาข้าวที่สร้างความเสียหายแสนกว่าล้านบาทแลป.ป.ช.ได้ส่งหนังสือเตือนตั้งแต่ปี 53 มันก็คล้ายๆกัน แต่ทำไมจึงเตรียมฟันน.ส.ยิ่งลักษณ์ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่ไปหอมแก้มและจูบปากนายอภิสิทธิ์ จะตัดสินอะไรก็ตัดสินแต่คนไทยทั้งหมดกำลังจับจ้องดังนั้นพวกคุณจะต้องถูกเอ๊กซเรย์และผลงานของคุณจะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองไทยทั้งนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. และนายวิชา มหาคุณ ป.ป.ช. ขอให้เตรียมพร้อมอนาคตที่ไม่น่าจะรุ่งโรจน์ของท่าน
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช. พาณิชย์ และแกนนำ นปช.กล่าวในการแถลงข่าวถลกหนังเทือกตอนหนึ่งว่า
ขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์และขยายผลทางการเมืองถึงการเคลื่อนไหวของ นปช. ซึ่งเราขอยืนยันว่า การเคลื่อนไหวของเราจะไม่มีความรุนแรงและไม่มีการใช้กำลังทำลายชีวิต ไม่มีการสะสมกองกำลังป๊อปคอร์นเหมือนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขา กปปส. กำลังทำอยู่ ทั้งนี้กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา ผบ.ทบ.มีความวิตกกังวลและให้แม่ทัพภาคต่างๆ เชิญ ผวจ.มาหารือเนื่องจากเกรงว่า สถานการณ์จะบานปลายมีการปลุกระดมประชาชนให้เกิดความแตกแยกนั้น ตนเข้าใจความวิตกของพล.อ.ประยุทธ์ แต่ขอให้พิจารณาให้รอบครอบหากเห็นว่า
" เหตุใด พล.อ.ประยุทธ์ เลือกกังวลแต่กับสิ่งนี้แต่ไม่กังวลกับสิ่งที่นายสุเทพ ดำเนินการมา 4 เดือนบ้าง และไม่เชิญกลุ่มคนที่สนับสนุนกปปส.มาพูดคุยบ้าง นายสุเทพขึ้นเวทีปลุกระดมทุกวันเหตุใดจึงเลือกกังวลเพียงข้างเดียว สิ่งที่นายสุเทพประกาศคือการก่อกบฏในเมืองหลวง เป็นการปฏิวัติประชาชนฉีกรัฐธรรมนูญและเป็นการทำรัฐประหาร เหตุใดไม่กังวลใจ ทั้งที่น่าจะกังวลที่มีกองกำลังติดอาวุธปรากฏตัวขึ้นมีการประกาศตั้งอาสาสมัครชายฉกรรจ์ 500 คนไล่ล่านายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้บังคับบัญชาตัวเอง สิ่งนี้ทำได้หรือ แต่ถ้าคนเสื้อแดงประกาศขออาสาสมัครจับนายสุเทพ พล.อ.ประยุทธ์ คงกังวลเช่นกัน เวลาที่เราจะเคลื่อนพลก็ไม่น่ามาทำให้ประชาชนสับสนหรือกังวลใจเรารับผิดชอบต่อการเคลื่อนไหว พวกผมไม่ได้มีเป้าหมายฉีกรัฐธรรมนูญ แบ่งแยกแผ่นดินหรือทำลายใครมีเป้าหมายให้ทุกอย่างดำเนินไปตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น" นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า เวลานี้ฝ่ายการเมืองไม่คาดหวังใช้บริการสุเทพแล้วเพียงให้เป็นโชว์รูมหน้าร้าน
แต่หวังให้องค์กรอิสระดำเนินการกับรัฐบาลถ้าดำเนินการยุติธรรมรัฐบาลก็ยอมรับได้ไม่เลือกข้างเลือกฝ่ายก็ไม่มีปัญหาแต่ของจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น เรื่องที่ตนกำลังจะพูดเกิดขึ้นที่ป.ป.ช. โดยตนได้รับข้อมูลคือกรรมการป.ป.ช.มีความพยายามเอาคนใกล้ชิดโอนย้ายเข้ามาบรรจุเป็นข้าราชการ ป.ป.ช.เอาคนของตัวเองเข้ามากินอัตราว่างแล้วก็ปิดทางคนภายในไว้ โดยมีการประกาศรับสมัครภายในองค์กรไม่มีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา จนทำให้ข้าราชการใน ป.ป.ช.ร้องเรียนและกรรมการป.ป.ช.พยายามปกปิดความผิด ซึ่งนายณรงค์ รัฐอมฤต สมัยเป็นเลขาธิการ ป.ป.ช.ได้เรียกประชุมข้าราชการ เพื่อทำความเข้าใจแต่ข้าราชการเขาไม่ยอม
ขณะนี้กรรมการ ป.ป.ช.เก้ๆ กังๆจะเดินหน้าถอยหลังก็ไม่ได้ มีการบรรจุคนส่วนใหญ่ในภาคใต้บางคนขึ้นบัญชีรายชื่อไว้แล้วถอนตัว
เพราะกลัวจะโดนร่างแหติดคุกไปด้วยเรื่องนี้มีมติประชุมกรรมการ ป.ป.ช.มีเอกสารหลักฐานหมด เรื่องรับโอนคนมาทำงาน ตนเห็นเอกสารแล้วขนลุกมองไม่ออกว่ากรรมการ ป.ป.ช. จะรอดได้อย่างไร โดยตนได้ส่งไม้ให้คนทำงานต่อตนมีหน้าที่ถลกหนังแล้วส่งต่อให้หน่วยอื่นเขาแล่เนื้อเอาเกลือทาข้อมูลนี้ได้มีคนนำไปยื่นร้องต่อกรมสวบสวนคดีพิเศษแล้วในวันนี้ และจะมีการนำไปฟ้องร้องดำเนินคดีต่อศาลด้วย
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ตนสงสัยว่าถ้า ป.ป.ช.ถือดาบอาญาสิทธิ์ชี้มูลใครคนนั้นปางตาย มาเจอคดีเช่นนี้จะรับผิดชอบอย่างไร
ถ้ากรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่าไม่ผิดเหตุใดไม่บรรจุข้าราชการเหล่านั้นเข้าทำงาน แต่คงรู้ว่าผิดกฎหมายแล้วคนจับได้ ตนมีรายชื่อกรรมการ ป.ป.ช.ที่เอามาดำเนินคดีในกรณีนี้ได้แก่ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. นายใจเด็ด พรไชยา นายประสาท พงษ์ศิวาภัย นายภักดี โพธิศิริ นายปรีชา เลิศกมลมาศ นายวิชัย วิวิตเสวี นายวิชา มหาคุณ และ พล.ต.อ.สถาพร หลาวทองกรรมการ ป.ป.ช.
“ เว้นนายกล้านรงค์ จันทิก อดีตกรรมการ ป.ป.ช. ที่เราไม่ฟ้องอย่ามาถามว่าทำไมไม่ฟ้อง ผมเป็นคนไม่มีเหตุผล ผมพูดแปลกๆ เพราะที่มาของเรื่องนี้มันไม่ธรรมดาจะได้รู้ว่ากรรมการ ป.ป.ช.มีทั้งหมด 9 คน มีบางคนเขาไม่เห็นด้วย และเราอยากกันไว้เป็นพยานส่วนเราจะกันใคร ใครไม่เห็นด้วยและเอาเรื่องมาให้ผม ผมไม่มีวันบอก เรื่องที่ผมพูดเป็นเรื่องที่ป.ป.ช.ทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบขัดรัฐธรรมนูญว่า ด้วย ป.ป.ช. และขัดระเบียบปฏิบัติของ ป.ป.ช. เอง ผิดขนาดนี้ยังมีหน้าตรวจสอบคนอื่นอยู่ได้ผมถามผู้เชี่ยวชาญฝ่ายกฎหมายเห็นตรงกันว่า ไม่รู้ว่าจะไปรอดช่องไหน โครงการจำนำข้าวก็ต้องไต่สวนโครงการต่าง ๆ ที่ป.ป.ช.จะเล่นงานรัฐบาลก็ต้องมีการตรวจสอบต่อไป แต่เรื่องนี้ที่เรียกว่าน็อคมืดคามือจะทำอย่างไรขอประชาสัมพันธ์ไปยังเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เมื่อมีการดำเนินคดีในศาลแล้วมีการเชิญมาให้ข้อมูลกรุณาให้ความร่วมมือด้วย อย่าให้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นห่วงรู้สึกผิดหวัง ” นายณัฐวุฒิกล่าว.