จำคุกสมัคร-ดุสิต คดีหมิ่น สามารถ 24 เดือน ไม่รอลงอาญา

ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีที่ นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายดุสิต ศิริวรรณ สองผู้ดำเนินรายการ "เช้าวันนี้...ที่เมืองไทย"

ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

การที่จำเลยทั้ง 2 จัดรายการกล่าวหาโจทก์ว่าทุจริต ซึ่งขณะนั้นโจทก์เป็นผู้บริหาร กทม.ดูแลงานโยธา ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย

จึงพิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง ประกอบกับก่อนหน้านี้จำเลยเคยต้องโทษมาแล้วและอยู่ระหว่างรอลงอาญา

แต่จำเลยไม่ได้ประพฤติตนให้ดีขึ้น และกลับมากระทำความผิดซ้ำอีก จึงพิพากษาให้จำคุกจำเลยทั้ง 2 เป็นเวลา 24 เดือนโดยไม่รอลงอาญา และให้ทั้ง 2 คนลงแก้ข่าวในหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับ คือ ไทยรัฐ และมติชน ฉบับละ 3 วันด้วย

และขณะนี้จำเลยทั้งสองอยู่ระหว่างยื่นหลักทรัพย์คนละ 2 แสนบาท เพื่อขอประกันตัวต่อศาล

โดยระบุในฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 1-19 ม.ค.2549 จำเลยทั้งสองร่วมกันจัดรายการ "เช้าวันนี้...ที่เมืองไทย"

โดยจำเลยที่ 2 กล่าวระหว่างดำเนินรายการว่า "มีผู้บริหารกรุงเทพมหานครบางคน ออกรถบีเอ็มฯ ซีรีส์ 7 ใช้ชื่อภรรยาเป็นเจ้าของ ที่แท้มีผู้รับเหมาซื้อให้"

และจำเลยที่ 1 กล่าวว่า "เอาเงินผู้รับเหมามา ทุเรศ" ซึ่งต่อมาจำเลยทั้งสองยังได้พูดซ้ำข้อความดังกล่าวอีกในระหว่างดำเนินรายการ "สมัคร-ดุสิต คิดตามวัน" ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ทีวี ช่อง 9 อสมท

ระหว่างดำเนินรายการ "เช้าวันนี้...ที่เมืองไทย" จำเลยที่ 2 กล่าวด้วยว่า

"โครงการประมูลของ กทม.10 โครงการ มันกินกัน 12-13% เกือบ 3,000 ล้านบาท อย่างนี้น่าเป็นห่วงพรรคประชาธิปัตย์"

ขณะที่จำเลยที่ 1 กล่าวต่อว่า "เอาเงินมาซื้อบีเอ็มฯ คันละ 8 ล้านบาท"

และในวันที่ 17 ม.ค.2549 จำเลยที่ 2 ยังกล่าวด้วยว่า

"ขออ่านจากข่าวนะ นายสามารถชี้แจงว่าไม่เคยสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาล็อกสเปก ขอถามคุณสมัครหน่อยว่า ใครจะกล้ารับว่าตัวเองเป็นคนสั่ง"

เพราะความจริงแล้วโจทก์และภรรยาเป็นผู้ซื้อรถบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 เองเมื่อเดือน ก.ค.2548 ก่อนที่ กทม.จะเปิดประมูลโครงการก่อสร้าง

ซึ่งข้อความอันเป็นเท็จที่จำเลยทั้งสองกล่าวในรายการ ทำให้ประชาชนที่รับชมรายการเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี เรียกรับทรัพย์สินบนเพื่อประโยชน์ของตนเอง โจทก์จึงนำคดีมายื่นฟ้องเพื่อให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองตามกฎหมาย

โดยจำเลยที่ 1 เคยถูกศาลพิพากษาลงโทษมาแล้วหลายคดีในความผิดฐานหมิ่นประมาท แต่จำเลยที่ 1 ยังคงกระทำอีก โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองในสถานหนัก

พร้อมกับให้ร่วมกันลงโฆษณาคำพิพากษาย่อในหนังสือพิมพ์จำนวน 8 ฉบับ เป็นเวลา 15 วันด้วย.

ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์