หลังไอเดียบรรเจิด พากลุ่มผู้ชุมนุมแรลลี่ไปขอเปิดห้องพักกว่า 10 ห้องรวด อ้างต้องการให้ชาวนาสบายบ้าง เจอปฏิเสธเสียงแข็ง เลยฝันสลาย
เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลวงปู่พุทธะอิสระนำมวลชนกปปส.ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ
เคลื่อนขบวนด้วยรถบัสและรถปิคอัพอีกจำนวนหนึ่งออกจากพื้นที่ชุมนุมไปตั้งแต่ ช่วงเช้าประมาณ 07.45 น. เพื่อมุ่งหน้าไปยังอาคารชินวัตร 3 รอสมทบกับขบวนกปปส.จากเวทีอื่น ๆ โดยมีเป้าหมายกดดันธุรกิจตระกูลชินวัตร ทั้งนี้ หลังกปปส.จากเวทีปทุมวันเคลื่อนขบวนมาสมทบการชุมนุมที่หน้าอาคารชินวัตร 3 หลวงปู่ฯได้สั่งมวลชนที่เดินทางมาจากศูนย์ราชการ ให้เก็บสัมภาระขึ้นรถ จากนั้นได้เคลื่อนขบวนออกจากอาคารชินวัตร 3 มุ่งหน้าไปทางสามเหลี่ยมดินแดง แต่ยังไม่เปิดเผยเป้าหมายว่าจะเคลื่อนขบวนไปชุมนุมกดดันในจุดใด ทำให้มวลชนที่ติดตามแตกขบวนหลงทางไปในสายเส้นทาง บางส่วนจึงมุ่งหน้ารวมตัวไปที่เวทีราชประสงค์.และเวทีปทุมวัน ในที่สุดเวลา 11.45 น. รถขบวนของหลวงปู่ฯเข้ามาปักหลักชุมนุมที่หน้าโรงแรมเอสซีปาร์ค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อขบวนผู้ชุมนุมกปปส.มาปักหลักชุมนุมที่หน้าโรงแรม
ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่งเดินออกมาจากโรงแรมเพื่อถ่ายภาพขณะมวลชนมาถึงหน้า โรงแรม ทำให้การ์ดเข้าล้อมชายคนดังกล่าวไว้และยึดกล้องมาตรวจสอบภาพ. จากนั่นได้สั่งให้ลบภาพทิ้งทันที เพราะอนุญาตเฉพาะสื่อมวลชนบันทึกภาพเท่านั้น
ต่อจากนั้น หลวงปู่ฯเดินมายังประตูด้านหน้าโรงแรม แต่ผู้จัดการโรงแรมไม่อนุญาตให้เข้าไปภายใน หลวงปู่ฯจึงแจ้งว่าได้จองห้องพักไว้ 10 ห้อง
โดยชำระเงินค่าห้องพักไว้แล้วพร้อมนำใบเสร็จออกมาแสดง ระบุว่าจ่ายค่าจองไปแล้ว 4,200 บาท นอกจากนี้ยังขอจองห้องสัมมนาเพิ่มด้วย เพื่อจัดเป็นเวทีสัมมนาหัวข้อ “ทุกข์ของชาวนาที่โดนรัฐบาลโกง” นอกจากนี้ยังต้องการให้ชาวนาได้นอนพักสบายๆ หลังจากต้องนอนกลางแดดกลางฝนมาหลายวัน และจะพักในโรงแรมจนกว่าเงินจะหมด แต่โรงแรมยังไม่อนุญาตให้หลวงปู่ฯและผู้ชุมนุมเข้าไปใช้ห้องพักและห้อง สัมมนาในโรงแรม การ์ดจึงนำเก้าอี้มาให้หลวงปู่ฯนั่งคอยที่ด้านหน้าโรงแรมแทน
อย่างไรก็ตาม การเดินทางออกมานอนพื้นที่ของหลวงปู่ฯครั้งนี้ถือเป็นเรื่องเสี่ยงต่อการถูก จับกุม เนื่องจากหลวงปู่ฯมีหมายจับของศาลข้อหาขัดขวางการเลือกตั้งอยู่