17 ก.พ. 57 ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการ ศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.) กล่าวว่า
ทางศรส.ขอแจ้งความคืบหน้าของการเข้าตรวจสอบพื้นที่การชุมนุมเพื่อติดตามจับกุมแกนนำ กปปส.ที่ศาลได้ออกหมายจับและการจับกุมว่า ศรส.ได้กำหนดพื้นที่ที่จะปฏิบัติการรวม 5 แห่ง 1.บริเวณทำเนียบรัฐบาล 2.บริเวณศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ 3.บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 4.กระทรวงพลังงาน และ 5.กระทรวงมหาดไทย โดยได้กำหนดอัตรากำลังเข้าปฏิบัติ หัวหน้าผู้รับผิดชอบ และยุทธวิธีซึ่งจะเป็นไปตามสถานการณ์เพื่อความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ไป โดยขอย้ำว่า การปฏิบัติการนี้ไม่ใช่การสลายการชุมนุม ไม่ใช่การกระชับพื้นที่ และไม่ใช่การขอคืนพื้นที่ แต่เป็นการปฏิบัติการเพื่อคืนความสงบสุขให้สังคม
ทางศรส.ขอแจ้งความคืบหน้าของการเข้าตรวจสอบพื้นที่การชุมนุมเพื่อติดตามจับกุมแกนนำ กปปส.ที่ศาลได้ออกหมายจับและการจับกุมว่า ศรส.ได้กำหนดพื้นที่ที่จะปฏิบัติการรวม 5 แห่ง 1.บริเวณทำเนียบรัฐบาล 2.บริเวณศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ 3.บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 4.กระทรวงพลังงาน และ 5.กระทรวงมหาดไทย โดยได้กำหนดอัตรากำลังเข้าปฏิบัติ หัวหน้าผู้รับผิดชอบ และยุทธวิธีซึ่งจะเป็นไปตามสถานการณ์เพื่อความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ไป โดยขอย้ำว่า การปฏิบัติการนี้ไม่ใช่การสลายการชุมนุม ไม่ใช่การกระชับพื้นที่ และไม่ใช่การขอคืนพื้นที่ แต่เป็นการปฏิบัติการเพื่อคืนความสงบสุขให้สังคม
ทั้งนี้ ศรส.ขอแจ้งประชาชนถึงยอดผู้ชุมนุมของ กปปส. สูงสุดเมื่อคืนวานนี้ ทุกเวทีรวมประมาณ 7,500 คน
ซึ่งได้ลดน้อยลงเป็นลำดับอย่างต่อเนื่อง ศรส. ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความร่วมมืองดการเข้าร่วมชุมนุม การสนับสนุนด้านการเงิน และการช่วยเหลือต่างๆ ซึ่งจะทำให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ที่ไม่สงบขณะนี้ยุติไปได้ในที่สุด
ซึ่งได้ลดน้อยลงเป็นลำดับอย่างต่อเนื่อง ศรส. ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความร่วมมืองดการเข้าร่วมชุมนุม การสนับสนุนด้านการเงิน และการช่วยเหลือต่างๆ ซึ่งจะทำให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ที่ไม่สงบขณะนี้ยุติไปได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม นายธาริต กล่าวต่อว่า ศรส.ได้รับรายงานจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลและตำรวจภูธรภาค
ถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับแกนนำ กปปส.และแนวร่วม กรณีร่วมกันกระทำผิดด้วยการขัดขวางการเลือกตั้งด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีจำนวนคดีประเภทขัดขวางการเลือกตั้งทั่วประเทศ จำนวน 160 คดี คดีประเภทเป็นเจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้งหน้าที่ไม่จัดการเลือกตั้ง จำนวน 169 คดี รวมคดีทั้งสิ้น 329 คดี และศาลได้ออกหมายจับ ให้แล้วจำนวน 72 คน
ถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับแกนนำ กปปส.และแนวร่วม กรณีร่วมกันกระทำผิดด้วยการขัดขวางการเลือกตั้งด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีจำนวนคดีประเภทขัดขวางการเลือกตั้งทั่วประเทศ จำนวน 160 คดี คดีประเภทเป็นเจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้งหน้าที่ไม่จัดการเลือกตั้ง จำนวน 169 คดี รวมคดีทั้งสิ้น 329 คดี และศาลได้ออกหมายจับ ให้แล้วจำนวน 72 คน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
