วันที่ 17 ก.พ.27 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 07.30 น. ผู้ชุมนุมกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศ ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ที่เวทีแยกปทุมวัน ได้เดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตลอดสองข้างทางมีประชาชนมารอต้อนรับโบกมือและเป่านกหวีดให้กำลังใจ โดยมีนายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท. และนายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสาน คปท. มารอต้อนรับและเดินนำนายสุเทพพร้อมแกนนำ กปปส. เดินเยี่ยมพื้นที่การชุมนุม คปท. บนถนนพิษณุโลก จนถึงเวทีปราศรัย คปท. สะพานชมัยมรุเชฐ
จากนั้นเวลา 09.15 นายสุเทพ ขึ้นเวทีปราศรัย คปท.ว่า
ได้ข่าวว่าร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผอ.ศรส. จะพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกฯ เข้าทำเนียบรัฐบาล พวกตนเลยยกกำลังมาเสริม คปท. ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์หมดความชอบธรรมด้านการเมืองและด้านกฎหมาย สมควรออกไปจากตำแหน่งทั้งคณะ แต่ดื้อด้านจึงทำให้พวกเราต้องเหนื่อย ซึ่งตนประเมินว่ากลุ่ม น.ส.ยิ่งลักษณ์ใกล้จนตรอกแล้ว ไม่มีทางเลือกหรือทางออก จะอ้างว่าเป็นรัฐบาลอยู่แต่ปกครองบริหารราชการไม่ได้ และถ้าเราเดินหน้าสกัดกั้นต่อ ไม่ให้มีรายได้รัฐบาลนี้จะจอดในเวลารวดเร็ว และการที่รัฐบาลต้องไปใช้ไสยศาสตร์มนต์ดำให้มาช่วยถือว่าหมดท่าแล้ว การประกาศจะยึดสถานที่หลายแห่งคืนทำให้ตนท้าร.ต.อ.เฉลิมว่าให้มายึดและบอกร.ต.อ.เฉลิมว่าถ้าไม่มาเป็นลูกหมา วันนี้ลองวางกำลังล้อมทำเนียบรัฐบาลแล้วน่าจะล้อมได้พอดี และยังเหลือพี่น้องบางส่วนอีก 4 เวที จึงขอให้พี่น้องมั่นใจว่าถ้าเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินก็ให้ยันไว้ประมาณ 40-45 นาที เรามาทันแน่นอน
"การยึดทำเนียบนั้น รู้สึกเกรงใจทหาร ถ้าไม่เกรงใจก็ยึดแล้ว และฝากทหารปัดกวาดให้เรียบร้อยเพราะรัฐบาลประชาชนจะเข้ามาทำงาน และตอนนี้คิดแต่ว่าทำอย่างไรให้อำนาจมาเป็นของปวงชนชาวไทยเร็วที่สุด และวันที่ประชาชนชนะจะเป็นชัยชนะที่บริสุทธิ์รักษาบ้านเมืองได้ยั่งยืน และวันนี้ไม่เห็นทางไหนที่รัฐบาลจะชนะ เพราะทหารก็ไม่เอาด้วย ส่วนตำรวจชั้นผู้น้อยก็เจ็บใจที่พ่อแม่ถูกโกงค่าข้าวไม่มีใครอยากรับใช้รัฐบาลแล้ว ทำให้เหลือตำรวจไม่กี่คนที่รับใช้รัฐบาลอยู่ ซึ่งตระกูลชินวัตรต้องจบแค่นี้ หากไม่จบก็จะถึงไอ้โอ๊ค เอาขี้ยามาเป็นนายกฯ ไม่ไหว ขอให้พี่น้องมั่นใจ มีกำลังใจที่จะต่อสู้จนนาทีสุดท้าย จนได้ชัยชนะ" นายสุเทพ กล่าว
ทั้งนี้เมื่อปราศรัยเสร็จ นายสุเทพ และแกนนำ ได้ไปร่วมกิจกรรม "เทปูนปิดตายประตูทำเนียบรัฐบาล" กับแกนนำคปท. ที่ประตู 1และประตู 2