สุรนันทน์ การันตี แม้ว ไม่ทำผิด กม.เลือกตั้ง จี้ กกต.เคลียร์ด่วน
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 มีนาคม 2549 12:30 น.
สุรนันทน์ ยัน ทักษิณ แยกแยะสถานะตัวเองถูก ลั่นไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง พร้อมแจงข้อกล่าวหาทุกประเด็น ปัดแจกเงินงานพลังอาชีวะฯ จี้ กกต.เร่งเคลียร์ข้อเท็จจริงด่วน ขณะเดียวกันขอตรวจสอบคำปราศรัย สนธิ ก่อนดำเนินการ
วันนี้ (29 มี.ค.) นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวถึง 60 อาจารย์คณะนิติศาสตร์จาก 14 สถาบันการศึกษา เข้าชื่อยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นเวลา 10 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 47 ในการใช้อำนาจรัฐให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง และทำผิดมาตรา 44 ในลักษณะจงใจและสัญญาว่าจะให้เพื่อจูงใจให้ไปเลือกตั้งว่า ขอยืนยันว่าพรรคไทยรักไทยพร้อมชี้แจงต่อ กกต.ทุกกรณี และขอให้ กกต.เร่งสอบสวนและเร่งหาข้อเท็จจริงเพื่อเคลียร์ปัญหาข้อข้องใจ และเรายืนยันว่าไม่ได้ใช้อำนาจรัฐในทางที่ผิดอย่างแน่นอน เนื่องจากนายกฯ มีความระมัดระวังอย่างมากและมีการแยกแยะได้ว่าช่วงใดเป็นการหาเสียง ช่วงใดเป็นเรื่องการทำงาน
นายสุรนันทน์ กล่าวด้วยว่า โดยมีการกล่าวหาว่านายกฯ ไปแจกเงินเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ อิมแพค เมืองทองธานี โดยมีการลงภาพในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งว่ามีการแจกเงิน ความจริงแล้วพรรคได้มีการประสานตั้งแต่แรกว่าข้อเท็จจริงไม่มีแจกเงิน ในวันดังกล่าวนายกฯ ได้ไปร่วมงานเพื่อสนับสนุนพัฒนาโครงการของนักศึกษา พลังอาชีวะสร้างชาติ 2006
วันนั้นทางสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษาได้จัดทำหนังสือรายสัปดาห์ Vocationnal Magazine ซึ่งนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคฯ ได้สมัครเป็นสมาชิกในนามของพรรคและได้มีการกรอกใบสมัครซึ่งมีใบเสร็จรับเงินค่าสมัครเป็นสมาชิกเป็นเงิน 20,000 บาท เดือนละ 40 เล่มๆ ละ 50 บาท เพื่อแจกจ่ายให้สาขาพรรคต่างๆ เนื่องจากพรรคมีโครงการห้องสมุด
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มพลังประชาชนและรถแท็กซี่ แจ้งความนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปราศรัยและให้สัมภาษณ์ในลักษณะหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่มีการลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์คมชัดลึกว่า เป็นเรื่องที่กำลังตรวจสอบอยู่ เพราะว่าถ้าพาดพิงในสิ่งที่ไม่เหมาะสมก็ต้องดูอยู่แล้ว เข้าใจว่าสื่อมวลชนน่าจะมีข้อมูลมากกว่ารัฐบาล เพราะอยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าละเอียดอ่อน ดังนั้น ในแต่ละคำพูดต้องมีขั้นตอนตรวจสอบที่ชัดเจนก่อนที่จะดำเนินการอะไร
เท่าที่ได้สอบถามเห็นว่ามีการพูดทั้งบนเวที และการให้สัมภาษณ์ข้างเวที ซึ่งตรงนี้ผมยังไม่อยากให้ความเห็นอะไร ขอดูเทปให้ชัดก่อน และใครที่มีหลักฐานหรือข้อมูลน่าจะส่งมาให้ตรวจสอบ ซึ่งทางพรรคเองก็ต้องตรวจสอบเช่นกันเพราะมีคนสอบถามเข้ามาเยอะ ซึ่งไม่อยากกล่าวหาใคร วันนี้ไม่ว่าฝ่ายใดขึ้นเวที ทั้งผู้ชุมนุมและนักการเมือง เพราะทุกคนถือว่าเป็นบุคคลสาธารณะ การพูดจึงต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะการพูดถึงสถาบันที่เคารพรักของพวกเราทุกคน และยิ่งเป็นปีมหามงคลอย่างนี้ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ควรพาดพิงถึงในสถานการณ์เช่นนี้ นายสุรนันทน์ กล่าว