สุเทพยุชาวนาฟ้องแพ่ง-อาญาปู

หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง สุเทพยุชาวนาฟ้องแพ่ง-อาญาปู

'สุเทพ'ติง'ปู'อย่าเอาการเมืองมากลบทุกข์ชาวนา ยุชาวนาฟ้องแพ่ง-อาญา เชื่อเดินขบวน2ครั้งได้มากกว่า 10 ล้านแน่

7ก.พ.2557เมื่อเวลา 19.35 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ปราศรัยที่เวทีแยกปทุมวันว่า ตั้งแต่เดินขบวนมา วันนี้เป็นวันที่ได้รับเงินมากที่สุด ปกติจะได้เงินประมาณ 9-10 ถุง แต่วันนี้ได้ 12 ถุง กับอีก 2 กระสอบ ตั้งใจจะเดินอีกในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เพื่อรวบรวมเงินเป็นทุนต่อสู้ของชาวนา เชื่อว่าจะระดมทุนได้ 10 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย เพราะตนตั้งเวทีมา 3 เดือนเศษ รู้ดีว่ามีความจำเป็นต้องใช้เงินมาก

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กที่ระบุว่าเพราะปัญหาทางการเมืองต้องยุบสภาและมีข้อจำกัดในการทำงานและมีเกมการเมืองนอกระบบต้องการล้มล้างรัฐบาล ทำให้รัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือชาวนาได้ พร้อมขอร้องว่าอย่าเอาปัญหาชาวนามาเป็นปัญหาการเมือง ตนอยากบอกน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าอย่าเอาเรื่องการเมืองมากลบทุกข์ชาวนา

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า และการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์บอกว่า เพราะม็อบมาชุมนุมจึงไม่มีเงินช่วยชาวนานั้น อยากฝากถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า รัฐบาลเบี้ยวหนี้ชาวนามาครึ่งปีแล้ว ขณะที่ กปปส.เพิ่งชุมนุมได้ 3 เดือนเอง รัฐบาลปิดบังไม่บอกตัวเลขที่แท้จริงว่ามีข้าวเท่าไร บอกแต่ว่ามี 18 ล้านตัน ถ้ามี 18 ล้านตันจริง ก็ให้เอาไปขาย ได้เงินมากกว่า 1.3 แสนล้านแน่ ซึ่งขอตั้งข้อสงสัยไว้ 2 ประการ 1.ทำตัวหมาหวงก้าง เอาข้าวเก็บไว้ให้พรรคพวก-บริษัทสมุนบริวารของตัวเอง หวังผูกขาดการค้าข้าวคนเดียว 2.ข้าวเหลือไม่ถึง 18 ล้านตันตามที่รัฐบาลประกาศไว้ อย่างไรก็ตามเมื่อเราเดินหาเงินให้พี่น้องชาวนา 10 ล้านบาท พี่น้องชาวนาก็มีทุนต่อสู้แล้ว

"ผมแนะนำให้เอา 10 ล้านใช้เป็นค่าดำเนินคดี เอาทนายเก่งๆ ไปฟ้องศาล บอกว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์และสมุนบริวาร มีความผิดทางแพ่ง เพราะซื้อข้าว มีสัญญา มีหลักฐานใบประทวน แต่ถูกรัฐเบี้ยวไม่จ่ายเงิน นี่ผิดสัญญา มีความผิดทางละเมิด บังคับให้จ่ายดอกเบี้ยที่เสียเวลาไปครึ่งปีด้วย และอาจผิดอาญา ฐานฉ้อโกงอีกต่างหาก ขอคุ้มครองชั่วคราวอายัดทรัพย์สินยิ่งลักษณ์และบริวารให้หมดเลย หนี้ของพี่น้องก็จะไม่สูญ ท่านจะไม่ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว แต่เราจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง เดี๋ยวมันหาว่าเรายุยง" นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพยังชี้แจงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ระบุว่า นายแทน เทือกสุบรรณ ลูกชายของตน เอาเงินบริจาคไปซื้อที่ดินว่า พวกตนไม่ได้หากินกับความทุกข์ของประชาชนเหมือนณัฐวุฒิ เพราะลูกชายตนทำธุรกิจมีรายได้ของตัวเอง ตนได้เรียกลูกมาถาม เขาทำเรื่องซื้อขายที่ดินตั้งแต่มิถุนายนปีที่แล้ว ก่อนจะมีชุมนุมเสียอีก เพียงแต่เจ้าของที่ดินเพิ่งจะสะดวกที่จะทำเรื่องโอนให้

เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก