"วรงค์" แฉจีทูจีลวงโลก ล้มสัญญา เพราะกลัวติดคุก เผยมีขบวนการโยนบาปหาแพะตัดตอนฝ่ายการเมือง บี้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินชาวนา
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลกพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวถึงกรณีที่นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล องนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ยอมรับบริษัทจีนในเครือเป่ยต้าหวงล้มสัญญาซื้อข้าวจากรัฐบาลไทยว่า เป็นการซื้อขายแบบหน้าคลังโดยไม่มีสัญญาจริง แต่เป็นเครือข่ายที่มาทำเหมือนกับสยามอินดิก้า เป็นเครือข่ายม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี เพราะการซื้อขายหน้าคลังแบบจีทูจีไม่มีประเทศไหนในโลกเขาทำกัน นอกจากรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนกระทั่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกมาชี้มูลเรื่องจีทูจีเก๊ ก็เลยทำให้เกิดความกลัวว่าจะติดคุกที่นำจีทูจีปลอมมาอ้างเป็นความผิดซ้ำซาก ตนจึงขอย้ำว่าสัญญาดังกล่าวไม่มีจริง จึงล้มเพราะกลัวติดคุก ทั้งนี้เห็นว่าถึงเวลาที่รัฐบาลต้องพูดความจริงแทนคำโกหก
นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีข้าวเหนียวจากโรงสีอุดรประเสริฐผล ที่ส่งโรงสีโชควรลักษณ์และโรงสีสิงห์โตทอง
โดยในส่วนที่สูญหายคือข้าวที่ต้องส่งให้โรงสีโชควรลักษณ์ จำนวน3.4ล้านตัน หายไปในระหว่างการขนส่งระหว่างวันที่ 5 มี.ค. 56 เหตุการณ์เกิดนานแล้วเหตุใดจึงเพิ่งมีการแจ้งว่าสูญหาย ทั้งนี้ข้าวเหนียวดังกล่าวให้บรรจุถุงขาย 1.8 ล้านตัน ทยอยขายเดือนละ 3 แสนตัน นับตั้งแต่เดือนม.ค.56 เป็นต้นไป ดังนั้นการขนย้ายเดือนมี.ค. เป็นสัญญาที่เซ็นในเดือนก.พ. แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีการทำข้าวเหนียวถุงจริงเพียง10 % นอกนั้นมีแต่กระดาษเท่านั้น ทำให้เกิดไฟลนก้นเพราะประชาธิปัตย์ยื่นร้องต่อ ป.ป.ช.ช่วงที่ผ่านมาจึงพยายามหาแพะปัดความรับผิดชอบจากฝ่ายการเมืองและข้าราชการระดับสูงให้หลุดจากการทุจริตข้าวถุง โดยอ้างว่าข้าวหายเพื่อหาแพะมารับผิดชอบแทนในระหว่างที่ ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบ
นพ.วรงค์ กล่าวด้วยว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเห็นใจชาวนา เร่งหาเงินมาจ่ายให้กับชาวนา เพราะเป็นรัฐบาลรักษาการมีอำนาจจำกัด
ขณะนี้ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์แจวเรือหนี มีการทำหนังสือของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) ถึง รมว.พาณิชย์ให้ รมว.คลังยืนยันว่าจะเดินหน้าหรือชะลอกู้เงิน เพราะหมิ่นเหม่ต่อการขัดรัฐธรรมนูญ แต่ รมว.พาณิชย์ ยืนยันเดินหน้า ทั้งที่เป็นรัฐบาลรักษาการ ดังนั้นชาวนาจึงไม่มีทางได้เงินเพราะรัฐบาลต้องขายข้าวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ถ้ามีรัฐบาลใหม่เข้ามาจะแก้ปัญหาให้ชาวนาได้ ซึ่งการขายข้าว รัฐบาลต้องกล้ายอมรับความจริงว่าข้าวในโกดัง 17 ล้านตัน มีปัญหาข้าวเสื่อมสภาพ ข้าวเน่า สต๊อคลม ดังนั้นต้องแยกสินทรัพย์คุณภาพดีและเสื่อมสภาพเพื่อให้เกิดความมั่นใจวงการค้า ทำให้มีประสิทธิภาพในการขายให้ได้เงินมาชำระหนี้ชาวนาได้ง่ายมากขึ้น
นอกจากนี้ขอเสนอแนะให้โรงสีปล่อยกู้ให้รัฐบาล 1,000 แห่ง แห่งละ 100 ล้าน รวม 1 พันล้านบาท และคนแดนไกลและรัฐบาลให้กู้อีก 3 หมื่นล้านบาท
ก็จะทำให้รัฐบาลได้เงินมาจ่ายชาวนา เพราะคนเหล่านี้ได้ประโยชน์จากโครงการจำนำข้าวบนความทุกข์ยากของชาวนามานานแล้ว และขอให้รัฐบาลเร่งหามาตรการรองรับข้าวนาปรับที่จะมาถึงในวันที่ 1 มี.ค.นี้ ซึ่งรัฐบาลมีเวลาเหลือแค่ 3 สัปดาห์ ที่ต้องเร่งแก้ปัญหานี้และบอกให้ชัดว่าข้าวนาปรังจะเข้าโครงการจำนำข้าวหรือไม่.