นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ ว่าการที่รัฐบาลเป็นฝ่ายไม่เคารพกฎหมาย การชุมนุมต่อต้านเพื่อเรียกร้องการปฏิรูปจึงเกิดขึ้น
สำนักข่าวบีบีซีประจำประเทศไทยรายงานเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ให้สัมภาษณ์กับนายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ว่าการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ไม่สามารถทำให้ได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพียงพอสำหรับการเปิดสภาได้ และการเลือกตั้งที่ไม่สามารถเสร็จสิ้นได้โดยสมบูรณ์ตามกำหนดถือเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐบาลควรยอมรับในจุดนี้ และเร่งคิดหาแนวทางอื่นเพื่อขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าโดยเร็ว
นายอภิสิทธิ์เชื่อว่า ทุกฝ่ายต้องการให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น แต่ติดอยู่ตรงที่แนวทางปฏิรูประบบการเมืองก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเท่านั้นเอง เพื่อเป็นการรับรองว่า การเลือกตั้งในอนาคตจะโปร่งใสและมีความยุติธรรมจริง
เมื่อเฮดแย้งว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายเลี่ยงที่จะเข้าร่วมกระบวนการทางประชาธิปไตย ซึ่งก็คือการเลือกตั้งครั้งนี้
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรรคต้องการนำเสนอทางเลือกอื่น นั่นคือการปฏิรูปประเทศ แต่รัฐบาลยังคงไม่ยอมรับแนวทางดังกล่าว นอกจากนี้ รัฐบาลยังเป็นฝ่ายไม่เคารพกฎหมายเสียเอง อาทิ การออกมาปฏิเสธคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ต่อมาเกี่ยวกับเหตุการปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเฮดยืนยันว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมีอาวุธด้วย นายอภิสิทธิ์ยืนกรานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พกอาวุธ และไม่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษจากใคร เพียงแต่ต้องการเคลื่อนไหวให้สังคมเห็นว่า รัฐบาลชุดนี้หมดความชอบธรรมและความน่าเชื่อถือในสายตาประชาชนแล้ว ดังนั้น รัฐบาลควรหยุดเพื่อให้เกิดการปฏิรูป จากนั้นประเทศก็จะเดินหน้าต่อไป
คำถามต่อไปเกี่ยวกับการที่พรรคประชาธิปัตย์จะทำอย่างไร เพื่อให้กลับมาคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งอีกครั้ง หลังชนะครั้งสุดท้ายเมื่อ 20 ปีที่แล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า แม้จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่คะแนนนิยมของพรรคกระเตื้องขึ้นในการเลือกตั้งทุกครั้ง และคะแนนนิยมล่าสุดเรียกได้ว่าเฉือนชนะพรรครัฐบาลด้วย เฮดจึงแย้งว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เพราะเหตุใดพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่ลงเลือกตั้ง ในเมื่อรัฐบาลก็ต้องการ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า เป็นเพราะต้องการปฏิรูประบบการเมืองที่กำลังเป็นอยู่ก่อน คำกล่าวที่ว่า จังหวัดที่ลงคะแนนให้พรรครัฐบาลจะได้รับความช่วยเหลือก่อนเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และถือเป็นการไม่ให้เกียรติเสียงส่วนน้อย
นายอภิสิทธิ์ยืนยันว่า ตนและพรรคให้โอกาสรัฐบาลบริหารประเทศมานานกว่า 2 ปี ด้วยเงื่อนไขว่า ต้องไม่มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม แต่ในเมื่อรัฐบาลยกเรื่องนี้ขึ้นมา การประท้วงจึงต้องเกิดขึ้น ถ้าทุกพรรคเคารพกฎหมายและกติกา เหตุการณ์เช่นนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้น ส่วนกรณีของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ลาออกจากพรรคไปนำการชุมนุมนั้น เป็นเพราะมีทัศนคติต่างกันในบางเรื่อง แต่เรื่องหนึ่งที่เห็นตรงกัน นั่นคือประเทศต้องเข้ารับการปฏิรูปอย่างจริงจังก่อนเดินหน้าต่ออย่างเต็มที่