พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในพิธีวันสถาปนา นรด.ครบรอบ 66 ปี
ถึงการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ว่า มีความเรียบร้อยน่าพอใจอยู่ในระดับหนึ่ง และถือว่า ดีที่สถานการณ์ไม่เป็นไปอย่างที่ประเมินไว้ ไม่มีการสูญเสียหรือมีคนตาย แต่จะให้เห็นด้วย หรือไม่กับการเลือกตั้ง คงไม่ตอบ เพราะไม่ได้มอบหน้าที่ให้ตนจัดการเลือกตั้ง
ถามถึงกรณีที่ พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.)
พล.อ.วิมล วงศ์วานิช อดีต ผบ.ทบ. และอดีตนายทหารระดับสูงจัดตั้งกลุ่มรัฐบุคคล เพื่อหาทางออกให้กับประเทศ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ท่านเกษียณอายุไปแล้ว ท่านคงนัดเจอกันบ้าง เพราะมีห่วงใยชาติบ้านเมือง แต่ท่านไม่ได้มายุ่งเกี่ยวอะไรกับพวกตน ไม่ได้มาสั่งอะไร มีแต่ให้กำลังใจ ท่านก็แค่นั่งกินกาแฟ และแสดงความคิดเห็น อาจไม่รู้จะคุยอะไรกันจึงคุยบ้านเมือง กองทัพบ้าง ส่วนท่านจะพูดอะไร เป็นความคิดเห็นของท่าน ท่านหมดหน้าที่จากกองทัพไปแล้ว คิดว่าท่านคงไม่มาสั่งอะไรใคร แต่ความคิดของคนห้ามกันไม่ได้
ถามว่า กดดันหรือไม่ที่มีผู้ใหญ่หลายฝ่ายกดดันให้กองทัพทำรัฐประหาร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ใครจะมากดดันตน ผู้ใหญ่ที่ไหนไม่มี อย่าพูดให้ท่านเสียหาย ตนทำงานด้วยระบบและกติกา ตนคงไม่ฟังอะไรที่นอกเหนือจากกติกาของกองทัพบก ดังนั้น ไม่มีใครชักจูงได้
ถามถึงกรณีที่นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำกลุ่ม นปช.ปทุมธานี
ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์สั่งให้ทหารสังหาร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เขาเป็นใคร ไม่ให้ความสนใจขนาดนั้น เจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำอะไรนอกกฎหมายได้อยู่แล้ว ควรไปคิดว่า ควรเชื่อเขาหรือเชื่อตน ส่วนจะฟ้องร้องดำเนินคดีหรือไม่ เป็นเรื่องของกฎหมายที่ต้องว่ากันไป ตนคงไม่ให้อภัย เพราะไม่ได้เป็นศัตรูกัน
สำหรับเหตุการณ์การใช้อาวุธในการปะทะที่บริเวณแยกหลักสี่นั้นก็จะต้องมีการตรวจสอบทั้งสองฝ่าย
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาวุธที่ใช้เป็นของทหารนั้น จะออกมาได้อย่างไร เพราะปืนทหารทุกกระบอกต้องอยู่ในคลัง และปืนทหารไม่ได้ถือติดตัว ทุกวันนี้ทหารมีระเบียบ มีกฎกติกา การเบิกอาวุธออกมาจากคลังต้องมีผู้รับผิดชอบ ถ้าไม่ได้รับคำสั่งให้มีการเคลื่อนย้ายหรือใช้อาวุธ ปืนทุกกระบอกของทางราชการต้องอยู่ในคลังทั้งหมด ถ้าจะเอาออกมามี 2 อย่าง คือ ขโมยออกมา หรือ ไม่ใช่ของทหาร แต่เอามาจากที่อื่น
จากการตรวจสอบไม่พบว่าปืนหายออกไป มีแต่ปืนที่หายไปตั้งแต่ปี 53 และยังไม่ได้คืน ขอให้ช่วยกันหาว่า ปืนเอ็ม 16 และทราโว่อยู่ที่ไหน ทุกคนทราบดีว่าหายไปไหน ภาพก็มีอยู่ ให้ไปหาผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงว่า ปืนหายไปไหน และเอาไปยิงใครบ้างแล้วก็ไม่รู้
“การจะพูดอะไรหรือเป็นข่าวอะไร ขอให้ตรวจสอบด้วย การเป็นทหารไม่ใช่ว่านึกอยากทำอะไรก็ทำ เรามี 2 สถานะ คือ การเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเมื่อเป็นเจ้าหน้าที่ต้องเคารพกฎหมาย ถ้าเราไม่ยึดถืออะไร ทำตามชอบใจ คงไม่ใช่กองทัพ และจะอันตราย ยืนยันว่าทหารไม่ได้มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปะทะ บางคนเคยเป็นพลทหารแล้วออกมาเป็นพลเรือน ท่าขว้างระเบิดก็ไม่ยากอะไร หลับตาขว้างก็เหมือนกัน อย่ามองให้เป็นยุทธวิธีกันไปเสียหมด"
ถามว่า การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นเพราะคนไม่เคารพกฎหมาย ปี 53 ก็มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่แก้ไขไม่ได้ แต่จำเป็นต้องใช้ เพราะสถานการณ์มีความรุนแรงมากขึ้นก็ต้องมีการใช้กฎหมาย แต่ขึ้นอยู่กับว่าคนจะเชื่อฟังกฎหมายหรือไม่ และผู้ปฏิบัติจะดำเนินการได้ถูกต้อง รัดกุม รอบคอบ ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายหรือไม่