สุนัยร้องกปปส.-เสื้อแดงปลดอาวุธ

สุนัยร้องกปปส.-เสื้อแดงปลดอาวุธ

'สุนัย'เรียกร้อง'กปปส.-เสื้อแดง'ปลดอาวุธ ต้องปฏิเสธความรุนแรง ด้าน'คำรบ'เผยมีร่องรอยกระสุนที่ยิงจากทั้งสองฝั่ง


4 ก.พ.57 นายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาองค์กรฮิวแมนไรต์ วอตซ์ ประจำประเทศไทย กล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ทางสปริงนิวส์ ว่า ตนได้รับการร้องขอให้เป็นตัวเชื่อมในการเจรจาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หลักสี่เมื่อวันที่ 2 ก.พ. แต่กลับเป็นเงื่อนไขที่ต่างฝ่ายไม่ยอมลงให้แก่กัน โดยคนเสื้อแดงชุมนุมกันที่วัดหลักสี่จุดยืนชัดเจนว่า การเลือกตั้งในเขตหลักสี่ต้องเกิดขึ้น ต้องนำบัตรและหีบบัตรเลือกตั้งออกมาได้ ขณะที่ หลวงปู่พุทธะอิสระได้ปิดล้อมสำนักงานเขตหลักสี่ 

ยืนยันว่า การเลือกตั้งนำไปสู่ปัญหา กลุ่มเสื้อแดงจึงมีการระดมคนเข้ามายังวัดหลักสี่มากขึ้น ดังนั้นจึงขอให้หลวงปู่ฯอพยพคนเข้าไปยังสำนักงานเขต และมีการประกาศขอกำลังเสริมจากกปปส.เข้ามา ส่วนใครเป็นตัวเริ่มก่อนนั้นไม่ชัด เพราะกำลังง่วนอยู่กับการอพยพคนเข้าไปสำนักงานเขตฯ ระหว่างนั้นก็มีการยิงปืนตอบโต้กัน โดยต้องยอมรับว่า ทั้งสองฝ่ายมีอาวุธทั้งคู่ ตราบใดที่เผชิญหน้ากันอย่างนี้ และมีกองกำลังติดอาวุธ ถ้ามีจุดยืนการเมืองอย่างนี้ต้องปฏิเสธความรุนแรง และต้องถามย้อนว่า เมื่อสถานการณ์การเมืองเป็นแบบนี้ ทำไมจึงไม่มีการยับยั้งกองกำลังที่ติดอาวุธ 

ส่วนบทบาทของทหารนั้น ไม่มีการติดอาวุธเข้ามามีเพียงเสื้อและหมวกกันกระสุนเท่านั้น โดยช่วยอำนวยความสะดวก ดูแลการรักษาพยาบาล ลำเลียงคนเจ็บทั้งสองด้าน ส่วนที่ไม่ยับยั้งเหตุที่เกิดขึ้นนั้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่มีบทบาทใดๆ ต้องได้รับคำสั่งจาก ศรส. เพราะทหารเป็นเพียงกำลังเสริม 

ด้าน พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กล่าวว่า ได้มีการตรวจสอบที่เกิดเหตุ 2 รอบ พบว่า มีร่องรอยของกระสุนปืนที่ยิงจากทั้งสองฝั่ง 42 รอย ซึ่งได้มีการจำลองทิศทางพบว่าสถานการณ์วันนั้น กลุ่มที่เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งจะอยู่บริเวณไอทีสแควร์ ส่วน กปปส.จะอยู่ฝั่งแจ้งวัฒนะ ทิศใต้ พบว่า มีแนวกระสุนจากทิศทางยิงจากไอทีสแควร์ทั้งหมด 3 รอย ขณะเดียวกัน พบทิศทางยิงจากแจ้งวัฒนะไปยังไอทีสแควร์ทั้งหมด 39 รอย ส่วนจะเป็นกระสุนชนิดใดยังระบุได้ไม่ชัดเจน กระสุนทั้งหมดที่ตรวจยึดได้มี 25 รายการ โดยมีปืนทั้งหมด 7 ชนิด อาทิ ปืนคาร์บิน หัวกระสุน กระสุนคาร์บิน หัวกระสุนทาร์โว เอ็ม 16 หัวกระสุนอาร์ก้า 

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์