เต้น เผยพท.เตรียมร้องศาลรธน.เอาผิดปชป.ขวางเลือกตั้ง

"เต้น" เผยพท.เตรียมร้องศาลรธน.เอาผิดปชป.ขวางเลือกตั้ง ซัด "มาร์ค" ประกาศไม่ไปเลือกตั้งเพราะเห็นทุกอย่างเป็นไปตามแผน ชี้กกต.ต้องรับผิดชอบถ้าการเลือกตั้งขัดรธน.จริง

เมื่อวันที่ 1 ก.พ.  ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถนนแจ้งวัฒนะ  นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)

กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าจะไม่ไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.นี้ ว่า การจะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งหรือไม่นั้นถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ไม่ขัดกฎหมาย แต่การที่นายอภิสิทธิ์ระบุว่าเหตุผลของการไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเป็นเพราะ การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญนั้น ตนคิดว่านายอภิสิทธิ์ ต้องหยุดสร้างความเสียหายให้กับการเลือกตั้งครั้งนี้ได้แล้ว เพราะตั้งแต่เริ่มประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์หรือพรรคประชาธิปัตย์ไปขัดขวางการรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้ง ไปจนถึงการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้า และยังออกมาให้สัมภาษณ์แสดงท่าทีที่ทำให้ประชาชนสับสน รวมถึงทำลายความชอบธรรมของการเลือกตั้งอยู่ตลอด อย่างไรก็ตาม ทุกขั้นตอนในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าขัดกับรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้การเลือกตั้งมีปัญหา ซึ่งจะมีผู้นำไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ คือการร่วมมือกันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ กับกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) ไปขัดขวางการเลือกตั้ง 

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า การที่นายอภิสิทธิ์ประกาศไม่ไปลงคะแนนเลือกตั้งนั้นคงเป็นเพราะสิ่งที่ตัว เองได้วางแผนไว้นั้นได้ถูกทำครบหมดแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ใน 28 เขตเลือกตั้งในภาคใต้ การที่บัตรเลือกตั้งยังถูกล้อมไว้ในหลายพื้นที่ของภาคใต้ ซึ่งตนคิดว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์และกปปส.ที่ขัดขวางการเลือกตั้งเป็นความ ผิดสำเร็จแล้ว และแม้พรรคประชาธิปัตย์ จะไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ แต่พรรคเพื่อไทยกำลังรวบรวมข้อมูลเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญภายหลังการเลือกตั้ง ให้เอาผิดกับนายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ที่ร่วมกับกปปส.ในการขัดขวาง การเลือกตั้ง ซึ่งตนหวังว่า ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะหยิบเรื่องนี้มาพิจารณาก่อน เนื่องจากการเลือกตั้งมีความวุ่นวายเป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์ขัดขวางและไม่ ให้ความร่วมมือ

" ดังนั้นถ้าคุณอภิสิทธิ์ คิดว่าหนังเรื่องเดิมเมื่อปี 2549 ที่มีการไปร้องว่า การเลือกตั้งเป็นโมฆะและจากนั้นนำไปสู่การรัฐประหารนั้น จะถูกกลับมาฉายซ้ำใหม่อีก ผมยืนยันว่า คิดผิด และไม่มีใครในประเทศยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และผมคิดว่าประเทศไทยจะได้เห็นหนังเรื่องใหม่ อย่างไรก็ตามพรรคประชาธิปัตย์ต้องรับผิดชอบและชดใช้ในความเสียหายต่างๆเกิด ขึ้นกับระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทย"นายณัฐวุฒิ กล่าว

เมื่อถามว่ามีข่าวว่าแกนนำกลุ่มนปช.บางคน อาทิ

นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ" โกตี๋ " แกนนำนปช.ปทุมธานี เข้าไปในพื้นที่ที่เตรียมจัดการเลือกตั้ง ซึ่งเกรงว่าอาจเกิดการปะทะกับฝ่ายตรงข้าม นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า อย่ามากล่าวหากลุ่มนปช.แบบนี้ เพราะเราไม่มีการเตรียมกองกำลังใด ๆ และไม่ประสงค์ความรุนแรง เนื่องจากเราต้องการให้มีการเลือกตั้ง แต่ถ้าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความวุ่นวาย ก็จะเกิดความเสียหายกับฝ่ายประชาธิปไตย โดยในวันนี้ (1 ก.พ.) จะไม่มีใครบุกเข้าไปในหน่วยเลือกตั้ง แต่วันพรุ่งนี้(2 ก.พ.) เราจะไปหน่วยเลือกตั้งอย่างแน่นอน

ต่อข้อถามว่ากังวลว่าจะมีการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มนปช.กับ กปปส.ที่หน้าสำนักงานเขตหลักสี่ซึ่งถูกปิดล้อมไม่ให้มีการนำบัตรเลือกตั้ง ออกมา

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า อยากขอให้ใครก็ได้ช่วยนิมนต์หลวงปู่พุทธอิสระออกจากประตูสำนักงานเขตหลักสี่ เสียที เพราะภาพที่เกิดขึ้นกับพระภิกษุรูปนี้ไม่ใช้แค่การทำลายการเลือกตั้ง แต่เป็นการทำลายพุทธศาสนา ดังนั้นพุทธศาสนิกชนที่เห็นภาพนี้ คงไม่มีใครยังสบายใจอยู่ได้ เพราะนี่ไม่ใช้กิจของสงฆ์  

เมื่อถามถึงบทบาทของกองทัพ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นบทบาทที่ประชาชนยอมรับได้

ทั้งนี้ ตนทราบว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการเหล่าทัพต่าง ๆ ได้กำชับให้กำลังพลออกไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง และยังวางตัวอยู่ในจุดที่เป็นกลางให้ประชาชนได้แสดงออกกันทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าหลังจากการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.นี้ไปแล้ว ก็คงเป็นการต่อสู้กันระหว่างฝ่ายการเมืองต่อไป.