ได้แถลงถึงกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯกปปส. ประกาศขัดขวางการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. ว่า การขัดขวางการเลือกตั้งถือเป็นการล้มล้างการปกครองฯ เป็นปฏิปักษ์กับรัฐธรรมนูญและประชาชน เพราะการขัดขวางการเลือกตั้งเป็นการละเมิดสิทธิ์ประชาชน และข้อเรียกร้องที่จะปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งนั้น ไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยแต่เป็นอนาธิปไตย ดังนั้น ตนขอเรียกร้องให้ประชาชน ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันมากๆ เพื่อให้นายสุเทพได้เห็นว่าประชาชนไม่เอาอำนาจนอกระบบ แต่ต้องการประชาธิปไตย โดยการตัดสินใจของประชาชน และเรียกร้องให้นายสุเทพ เลิกปลุกระดมมวลชนและหลอกประชาชนว่าจะปฏิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่ สมบูรณ์เสียที เพราะขนาดคนจะออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง กปปส.ยังขัดขวาง
และเตรียมแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา กบฏ ต่อ กองบังคับการปราบปราม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในวันที่ 3 ก.พ. นี้ ส่วนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่สนับสนุนการชุมนุม กปปส. ก็จะมีการร้องต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองเพิ่มเติม เพื่อยุบพรรคประชาธิปัตย์ เพราะการสนับสนุนการชุมนุมดังกล่าว ถือเป็นการกระทำที่ผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง และโดยจะยื่นเรื่องในวันที่ 3 ก.พ. ด้วยเช่นกัน
ในรถสุขาของกทม. ที่ส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้งาน ในกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ว่า แม้ผู้ว่าฯกทม.จะออกมาระบุแล้วว่าการติดตั้งกล้องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการ สอดแนม ศรส. แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ควรมีการติดตั้งกล้องในห้องสุขาเพราะถือเป็นการละเมิด สิทธิ์ประชาชน และอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย และเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรตรวจสอบว่าเป็นการสอบแนมหรือไม่ หากเป็นการสอดแนมก็จะถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายด้วย
ขอให้พูดให้ชัดว่าที่จะออกมานั้น ออกมาอย่างไร เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นการเข้าทางกปปส. และหากออกมาเหมือนปี 49 เชื่อว่าประชาชนก็รับไม่ได้ และจะกลายเป็นการซ้ำเติมปัญหาคนที่ต้องการเลือกตั้งเขาก็คงไม่ยอม