ศรส.จัดทีมคุย "เทือก"ไม่ให้ขัดขวางการเลือกตั้ง ให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์ จะจัดกำลังทหารตำรวจดูแลความปลอดภัยให้ พร้อมแก้ปัญหาม็อบปิดล้อมห้ามนำบัตรเลือกตั้งออกจากสำนักงานเขต
เมื่อวันที่ 30 ม.ค.เวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)
ที่ตั้งศูนย์รักษาความสงบ ศรส. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ในฐานะกรรมการ เลขานุการ ศรส.แถลงผลการประชุม ศรส. กล่าวว่า ขอให้พี่น้องประชาชนออกไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง ศรส.จะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเข้าดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยของ ประชาชนประจำทุกหน่วยเลือกตั้ง รวมทั้งจะมีชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าแก้ไขสถานการณ์ตามความจำเป็นและได้จัดคณะ เจรจาเข้าเจรจากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เพื่อไม่ให้ขัดขวางการเลือกตั้งในวันที่ 31 ม.ค.นี้ เวลา 14.00 น.ที่เวทีปทุมวัน
การที่กปปส.ประกาศจะระดมคนออกมาชุมนุมปิดล้อมหน่วยเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.นี้นั้น ศรส.
ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนอย่าได้ออกมาชุมนุมเพราะเป็นการกระทำที่ผิด กฎหมาย ทั้งนี้ยังมีข้อมูลว่าจะมีการนำคนจากภาคใต้ในบางจังหวัดขึ้นมากชุมนุมขัดขวางการเลือกตั้ง จึงขอเตือน กปปส.ว่ากำลังสร้างความขัดแย้งระหว่างคนภาคใต้กับคนในกรุงเทพมหานครจึงเป็น ทั้งเรื่องที่ผิดกฎหมายและสร้างความแตกแยกอย่างรุนแรง
ขณะนี้ศรส.มีข้อมูลแน่ชัดแล้วว่ากกปปส.จะนำกำลังไปปิดล้อมสำนักงานเขต ทั้ง 50 เขตเพื่อไม่ให้มีการนำบัตรเลือกตั้งออกไปศรส.ได้เตรียมการแก้ปัญหาดังกล่าว ไว้แล้ว
ส่วนการดำเนินการเพื่อสั่งระงับการทำธุรกรรมและตรวจสอบกลุ่มทุนที่สนับสนุน แกนนำ กปปส.ทาง ศรส.ได้ออกประกาศฉบับที่ 6 ไปแล้วเพื่อแจ้งเตือนกลุ่มทุนต่างๆและตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบการกระทำผิด ของกลุ่มต่างๆจะได้ออกคำสั่งของ ศรส.สั่งระงับการทำธุรกรรมและตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีต่อไป ด้านการเปิดสถานที่ราชการให้กลับมาบริการประชาชนนั้น ศรส.ประชุมกับหัวหน้าส่วนราชการทุกส่วนราชการได้ข้อสรุปว่าจะกลับมาเปิดให้ บริการแก่ประชาชนตามปกติโดยจะเริ่มได้ตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. เว้นแต่บางสถานที่ที่อยู่ในพื้นที่การชุมนุมที่อาจต้องใช้เวลาอีกระยะ หนึ่ง
สำหรับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและความเสียหายจากการชุมนุม ปิดกรุงเทพฯและได้เข้าไปแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจต่างๆ แล้วนำไป เป็นหลักฐานแสดงต่อธนาคาร บริษัท ห้างร้าน และคู่สัญญาต่างๆ ศรส.ก็ขอขอบคุณธนาคาร บริษัท ห้างร้าน กลุ่มธุรกิจต่างๆ เป็นอย่างยิ่งที่ยินดีให้การช่วยเหลือผ่อนผัน
ทั้งนี้เพื่อดำเนินการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน ศรส.
จึงได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการขอ ออกหมายจับแกนนำ กปปส.ที่กระทำผิดกฎหมายต่อไปทั้ง 16 คน โดยจะยื่นขออนุญาตศาลอาญาอีกครั้งหนึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ (30 ม.ค.) และจะเสนอพยานหลักฐานต่อศาลให้ครบถ้วนว่าหลังจากมีการประกาศใช้กฎหมายใน สถานการณ์ฉุกเฉินแกนนำ กปปส.ก็ยังคงกระทำผิดโดยการรวมกันไปปิดล้อมกีดกันขับไล่ไม่ให้มีการลงคะแนน เลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา