สนธิหักดิบทักษิณปัดใบสั่งโยกย้ายกลางปีดันตท.10ผงาดส่งท้าย
รอยร้าวระหว่างรัฐบาลกับกองทัพในยามที่บ้านเมืองเข้าสู่วิกฤติการณ์ร้อนแรง มีความชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ
เนื่องด้วยความคิดเห็นที่ค่อนข้างไม่ไปในแนวทางเดียวกัน ระหว่างรักษาการนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร กับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.
ถือเป็นมวยใหญ่ถูกคู่ แม้ฝ่ายหนึ่งจะเป็นผู้บังคับบัญชาที่มาจากฝ่ายการเมืองก็ตาม...
แต่อีกฝ่ายหนึ่งก็คุมกำลังหลักในการปกป้องความมั่นคงและอธิปไตยของชาติ ด้วยพลังหนุนที่เปี่ยมล้นด้วย...
คุณธรรมและศักดิ์ศรี...!!!
ยิ่งสถานการณ์การเผชิญหน้าของม็อบหนุนและไล่รักษาการนายกฯ ทำให้ทั้งสองคนต้องเพิ่มความระแวดระวังซึ่งกันและกันขึ้นด้วย
หลายครั้งที่ สนธิ ไม่ยอมสนองแนวทางรัฐบาล ทั้งการใช้ พ.ร.บ.ฉุกเฉิน หรือหากมีการประกาศใช้จริง ทหารอาจจะยืนอยู่เฉยๆ ก็ได้
นั่น !...ถูกนำไปตีความว่า สนธิ ไม่เห็นด้วยหากจะมีการใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรกู้ชาติ
ด้วยเหตุที่ไม่สนองนี้ด "นาย" เช่นนี้ จึงเกิดกระแสข่าวปลด ผบ.ทบ.คนนี้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
ความไม่พอใจดังกล่าวทับถมมาตลอด หลังมีรายชื่อแหกโผรัฐบาลเข้ามาดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ.ของสนธิ
รวมถึงความพยายามในการเข้ามารื้อโผแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ของรักษาการนายกฯ ที่ข้ามหัวรุ่นพี่ได้ดิบได้ดีในการคุมกำลังพล
ไล่เรียงให้เห็นระดับหัวๆ เช่น พล.อ.พรชัย กรานเลิศ ผช.ผบ.ทบ. ซึ่งถูกวางตัวให้เป็น ผบ.ทบ.คนต่อไป และเป็นผู้นำในการแสดงพลัง ตท.10 จนเกิดกระแสข่าวปฏิวัติ
นอกจากมียังมีคนดังอย่าง พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต หน.ฝสธ.รมว.กห. พล.ท.จิรสิทธิ์ เกษะโกมล แม่ทัพน้อยที่ 1 พล.ต.ศานิต พรหมาศ ผบ.พล.ม.2 รอ.
พล.ต.พฤณฑ์ สุวรรณทัต ผบ.พล.1 รอ. พล.ต.ทวนชัย พันธ์เพิ่มศิริ รอง จก.ทหารช่าง พล.ต.กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธ์ จก.สวัสดิการทหารบก พล.ร.ท.วัลลภ เกิดผล รอง เสธ.ทร.
ทหารน้ำก็ใช่ย่อย มี พล.ร.ท.สีวิชัย สิริสาลี ผบ.นย. พล.ร.ต.ชัยวัฒน์ เอี่ยมสมุทร ผบ.สอ/รฝ.
หรือจะเป็นทัพฟ้า หน่วยกำลังหลักที่คุมภาคพื้นดินทั้งหมด มี พล.อ.ท.สุเมธ โพธิ์มณี ผบ.อย.
อย่างไรก็ตาม โผการแต่งตั้งนายทหารกลางปีนี้ ที่ผู้นำรัฐบาลพยายามดันเพื่อนพ้อง ตท.10 เป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับกำจัดเสี้ยนหนามให้พ้นวิถีแห่งกองทัพ
แต่เผอิญผู้บัญชาการทั้ง 4 เหล่าทัพ ยังคงเป็น ตท.6 ที่ผนึกกำลังต่อต้านอย่างเข้มแข็ง ด้วยเห็นว่าไม่ยุติธรรมกับรุ่นพี่ที่ถูกข้ามหัว
ยุทธการหักดิบจึงเกิดขึ้น โดยบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายหนนี้ แทบจะไม่มี ตท.10 ได้ขยับขึ้นไปคุมกำลังเลย
แต่ปัญหาตกอยู่กับ พล.ท.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แม่ทัพภาคที่ 1 ที่ได้แรงหนุนจากทักษิณ แต่กลับมีแนวคิดสวนทางกับเพื่อนร่วมรุ่น
ด้วยใบสั่งการเมืองต้องการเขี่ย พล.ท.อนุพงษ์ ไปเป็น ผบ.นสร.หรือผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการกำลังสำรอง โดยให้ พล.ท.จิรสิทธิ์ ขึ้นแทน
เนื่องด้วยต้องการสั่งสอนที่แตกแถว ไม่ยอมยืนเคียงข้างเพื่อนยามเกิดวิกฤติ...!!!
ขณะที่ พล.ท.อนุพงษ์ เอง ก็ถูกหมายปองจากเพื่อนอีกซีกหนึ่งใน ตท.10 รวมทั้งบรรดานายทหารรุ่นพี่ๆ ในระดับ ผบ.เหล่าทัพ จะให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ.อีกด้วย
"ขอให้ผมพิจารณาด้วยระบบสายการบังคับบัญชาที่ให้แต่ละหน่วยเสนอรายชื่อขึ้นมา"
คำปฏิเสธนิ่มๆ แต่หนักหน่วงที่ พล.อ.สนธิ เอ่ยกับ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รักษาการ รมว.กลาโหม เมื่อครั้งเรียกพบเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา
คัดค้านใบสั่งของผู้นำรัฐบาลที่กำกับแบบทิ้งทวนมาในหลายตำแหน่งหลายบุคคล เพราะไม่เพียงจะสร้างความเสื่อมเสียให้กองทัพเท่านั้น
แต่ยังทำให้เสียภาพลักษณ์และอนาคตบนเส้นทางสีเขียวขี้ม้าของ ตท.10 ที่อาจจะพังได้...
...หากรังสีเพื่อนร่วมรุ่นที่มาใหญ่ในตำแหน่งนายกฯ เสื่อมถอยไป...!!!
เห็นว่าโผโยกย้ายเที่ยวนี้ พล.อ.สนธิ ได้ถ่วงดุลโดยวางคนหน่วยรบพิเศษของตัวเอง ก้าวขึ้นมาคุมกำลังในหลายตำแหน่ง
ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง ที่กองทัพถือเป็นตัวละครหลักที่จะชี้เป็นชี้ตายด้วย "กำลังพล" และ "สรรพาวุธ"ในมือ
คงต้องจับตาดูโผโยกย้ายนายทหารกลางปี ที่ รักษาการ รมว.กลาโหมจะส่งให้ทักษิณในวันจันทร์นี้
ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อจะได้ประกาศทันภายในเดือนนี้หรือไม่...?
เนื่องเพราะเคยมีตัวอย่างให้เห็นถึงผลที่การเมืองเข้ามาล้วงลูกโผโยกย้ายของกองทัพ...
จนทำให้บางคนต้องกลายเป็นแม่สายบัวแต่งตัวรอเก้อมาแล้ว...!!!
นักข่าวหมายเลข 21