ห้ามแตะ สถาบัน ฟางเส้นสุดท้ายปรามม็อบป่วนเมือง

เริ่มส่งสัญญาณสอดประสานเสียงแข็งกร้าวใส่บรรดาขบวนการม็อบป่วนเมืองด้วยการยื่นคำขาดขีดเส้นการเคลื่อนไหวห้ามจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงเด็ดขาด พร้อมทั้งส่งสัญญาณเตือนว่า รัฐบาลและคมช.กำลังจะหมดความอดทน

ผู้ซึ่งก่อนหน้านี้ออกมาส่งสัญญาให้จับตาสถานการณ์ทางการเมืองช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมนี้ให้ดีเพราะอุณหภูมิการเมืองจะเดือดพล่านถึงขั้นจากการเปิดศึกขั้นแตกหักของขบวนการอำนาจเก่าที่จ้องล้มรัฐบาลและคมช. มาครั้งนี้ รมว.กลาโหม

โดยเฉพาะจากบรรดาม็อบต่างๆ ที่มีเจตนาจุดชนวนสร้างความแตกแยกและความวุ่นวายในบ้านเมืองซึ่งอาจทำให้รัฐบาลตัดสินใจใช้พระราชกำหนด(พ.ร.ก.)บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งให้อำนาจรัฐบาลอย่างกว้างขวางในการห้ามชุมนุมหรือปราบปรามผู้ก่อความวุ่นวายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

เคยเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เสนอให้รัฐบาลออกพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่นายกรัฐมนตรี เห็นว่าสถานการณ์ยังไม่จำเป็นถึงขั้นต้องออกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่หากเกิดเหตุวุ่นวายก็พร้อมที่จะประกาศใช้ ซึ่ง พล.อ.บุญรอด อธิบายถึงสถานการณ์ที่ถึงจุดจะต้องใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า ในกรณีที่ทางการห้ามชุมนุมแล้วม็อบกลุ่มต่าง ๆ ยังดื้อดึงไม่ปฏิบัติตามจนฝ่ายตำรวจและทหารต้องเข้าระงับเหตุ แต่สถานการณ์ยังลุกลามบานปลายออกไปจนกระทบต่อความมั่นคงซึ่งจุดนั้นถือว่าจำเป็นต้องออกพ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

เหมือนเป็นการปรามม็อบพีทีวีที่ก่อนหน้านี้จัดชุมนุมปราศรัยโจมตีรัฐบาล คมช. และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อย่างรุนแรงและนำไปสู่การล่ารายชื่อเถื่อถวายฎีกาให้ถอดถอด "ป๋าเปรม" โดยกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ

ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าก่อตั้งโดยอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยไม่ว่าจะเป็น นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจักรภพ เพ็ญแข และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ถูกตั้งข้อสงสัยได้รับการต่อท่อสนับสนุนจากผู้นำกลุ่มอำนาจเก่าที่พลัดถิ่นอยู่ในต่างแดนขณะนี้

ม็อบที่ออกมาเคลื่อนไหวได้รับการต่อท่อสนับสนุนจากกลุ่มอำนาจเก่าทั้งจากภายในและนอกประเทศเพื่อล้มล้างรัฐบาลและคมช.แน่นอน เพราะกลุ่มอำนาจเก่ากำลังจะเข้าตาจนจากการถูกตรวจสอบเรื่องทุจริตจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอด ซึ่งนั่นคือหาทางโค่นล้มรัฐบาลและคมช.

ในประเด็นที่การเคลื่อนไหวของม็อบกลุ่มต่างๆ เริ่มเหิมเกริมพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูง โดยประณามผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองว่าเป็นพวกขายชาติ ซึ่งรัฐบาลและกองทัพจะยอมไม่ได้อย่างเด็ดขาดกับการเคลื่อนไหวใดๆ ที่จะกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

และผู้ช่วยเลขาธิการคมช. ออกมาแสดงท่าทีสไตล์บู๊ด้วยการประกาศว่า ใครที่ออกมาเคลื่อนไหวจาบจ้างเบื้องสูงต้องตบปากมัน เพราะตอนนี้เริ่มมีการเบนเป้าไปยังสถาบันสูงสุดที่เราเคารพ "ดังนั้นต้องงัดมาตรการที่สำคัญมาจัดการ บางครั้งอาจจะต้องใช้ปืนกลยิงหมาตัวหนึ่ง ซึ่งปกติเขาจะไม่ใช้กัน แต่บางครั้งมันจำเป็นเพราะถ้าเป็นหมาบ้าเดี๋ยวจะไปกัดคนอื่นเขาเดือดร้อน จึงต้องใช้อาวุธที่ร้ายแรงเด็ดขาด "

แต่ม็อบพีทีวีและบรรดาแนวร่วมทั้งหลายโดยเฉพาะกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการยังเดินหน้าท้าทายจัดชุมนุมปราศรัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่เปราะบางและจะต้องจับตาอย่ากะพริบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการปราศรัยโจมตีพาดพิงถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองซ้ำซากและลามปามไปถึงสถาบันเบื้องสูง เมื่อนั้นประชาชนที่จงรักภักดีอาจทนไม่ไหวรวมพลังกันออกมาเผชิญหน้ากับม็อบป่วนเมืองโดยไม่รอน้ำยาจากรัฐบาลและคมช. ซึ่งนั่นนับเป็นสัญญาณอันตรายสำหรับวิกฤติแห่งความรุนแรงในชาติรอบใหม่

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์แนวหน้า