'ขวัญชัย'ยันไม่เป็นอัมพาตตามข่าวลือ
เสื้อแดงอุดรฯบวงสรวงกรมหลวงประจักษ์ ตามกำหนดเดิมที่ "ขวัญชัย" กำหนดไว้ ขณะที่ "ขวัญชัย" ยืนยันอาการยังปกติดี ไม่เป็นอัมพาตตามข่าวลือ
วันที่ 26 ม.ค.57 เมื่อเวลา 09.30 น. บริเวณอนุสาวรีย์ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม สมาชิกชมรมคนรักอุดร กว่า 400 คน นำโดย นายประสิทธิ์ วิชัยรัตน์ หรือ ดีเจ จ.ใจเดียว นายจักรพงษ์ แสนคำ หรือ ดีเจก้อง นักจัดรายการประจำสถานีวิทยุชุมชนคนรักอุดร มือขวาของนายขวัญชัย สาราคำ หรือ ขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร และ ประธานชมรมคนรักภาคอีสาน 20 จังหวัด และ นายกรวีร์ สาราคำ บุตรชายนายขวัญชัย ร่วมทำพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณของ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ผู้สร้างเมืองอุดรธานี เพื่อให้ดวงวิญญาณของพระองค์ฯ ปกป้องประเทศไทยและประชาชนชาวไทย ให้อยู่รอดปลอดภัย
การจัดพิธีบวงสรวงครั้งนี้ เป็นไปตามเจตนารมณ์ของนายขวัญชัย ที่ประกาศก่อนถูกคนร้ายใช้อาวุธสงครามลอบยิง เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า จะนำคนเสื้อแดง มาร่วมทำพิธีบวงสรวง ดวงพระวิญญาณของ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม โดยในพิธีพราหมณ์ของคนเสื้อแดง ทำพิธีอัญเชิญดวงพระวิญญาณของ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม รับเครื่องเซ่นไหว้ จากนั้นเป็นการสวดมนต์ เพื่อให้พระองค์ท่านปกป้องคนเสื้อแดง และคนเสื้อแดงที่มาร่วมทำพิธี จุดธูป 9 ดอก และเทียน ร่วมทำพิธีบวงสรวง ก่อนที่จะเดินทางไปสักการะศาลหลักเมืองอุดรธานี
ส่วนอาการของนายขวัญชัย หลังจากมีข่าวออกมาว่า เส้นเลือดในสมองตีบ ทำให้ร่างกายเป็นอัมพาตครึ่งซีก ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ห้องวีไอพี ชั้น 7 โรงพยาบาลเอกอุดร ที่หน้าห้องยังมีตำรวจยืนรักษาความปลอดภัย โดยประตูหน้าห้องยังติดป้าย งดเยี่ยม แต่ก็ยังมีคนเสื้อแดงทยอยเดินทางมาขอเข้าเยี่ยมและสอบถามอาการ แต่ต้องได้รับอนุญาตจากนางอาภรณ์ สาราคำ ภรรยานายขวัญชัยฯ ก่อน
ในเช้าวันนี้ นายขวัญชัย ได้ให้สื่อมวลชนเข้าสอบถามอาการ หลังจากมีข่าวออกมาว่า นายขวัญชัยมีอาการเส้นเลือดในสมองตีบ ความดันสูง จนเป็นอัมพาตนั้น สภาพโดยรวมในวันนี้มีสีหน้าสดชื่น หลังจากแพทย์สั่งงดเยี่ยมและได้พักผ่อนเต็มที่ โดย นายขวัญชัย ได้ยกเท้าซ้ายและมือซ้ายโชว์ พร้อมกับบอกว่า "ไม่ได้เป็นอัมพาตอย่างที่เวที กปปส.บอก ตนยังปกติดี นอนหลับ กินข้าวได้อร่อย ฝากเตือนพี่น้องเสื้อแดงอย่าไปเชื่อเวที กปปส.ให้มาก เพราะเวทีนี้ตอแหล ชอบปลุกระดมให้มวลชนจงเกลียดจงชังตนอยู่แล้ว และโกหกพกลม ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ทำให้ไปใช้สิทธิ์กันไม่ได้ ทำตัวยิ่งใหญ่คับประเทศ คับบ้านคับเมือง ทำเหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป และขอเรียกร้องให้ประชาชนไปใช้สิทธิล่วงหน้ากันให้มากๆ และตนจะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้แน่นอน"
“ผมยังไม่ขอไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ ตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยากให้ไป และนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำ นปช.มาชวน เพราะว่าตนยังเชื่อในฝีมือแพทย์ที่นี่ และที่นี่สะดวกสบาย บริการดี และที่สำคัญอบอุ่นกว่ามาก เพราะมีพี่น้องคนเสื้อแดง ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนรู้จักมักคุ้น มาคอยดูแลและให้กำลังใจตลอดเวลา”
ส่วนความคืบหน้าการสืบสวนของคดี เจ้าหน้าที่สืบสวนทั้ง 4 ชุด จะมีการนัดประชุมกัน เพื่อรายงานความคืบหน้า โดยล่าสุดสามารถติดตามพยานที่ต้องการได้แล้ว คือชายที่ขี่จักรยานยนต์ล้มเพราะตกใจเสียงปืน มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่สืบสวน ภ.จว.อุดรธานี และพยานตามเส้นทางคนร้ายหลบหนี ยืนยันคนร้ายที่ลงจากรถ 2 คน จากที่นั่งข้างคนขับ กับกระบะหลัง สวมหมวกไหมพรม 1 คน หลังจากก่อเหตุขึ้นบนกระบะทั้งคู่ หลังจากรถคนร้ายวิ่งออกไป คนร้ายได้เอาผ้าพลาสติกคลุมตัวเองไว้ และเอาออกหลังผ่านชุมชน จากนั้นได้เลี้ยวขวาก่อนถึง มรภ.อุดรธานี วิทยาเขตสามพร้าว ไป อ.หนองหาน
นอกจากนี้ทีมสืบสวน ได้เตรียมรวบรวมภาพกล้องวงจรปิด ก่อนและหลังเกิดเหตุให้ละเอียด ตลอดเส้นทางถนนอุดรธานี-บ้านสามพร้าว , พื้นที่ ทต.หนองหาน อ.หนองหาน และจุดสำคัญๆ ทั้งของภาครัฐ , องค์กรปกครองท้องถิ่น และเอกชน และสืบสวนที่มาของอาวุธปืน เบื้องต้นพบว่า กระสุนปืนผลิตในปี 2001 และจากปลอกกระสุนที่เก็บได้ ร่องรอยที่ปลอกน้อยมาก เชื่อว่าปืนอาจจะมีสภาพใหม่ หรือไม่ค่อยใช้งาน พร้อมสั่งการให้ พล.ต.ต.สุรพล พินิจชอบ รอง ผบช.ภ.4 หัวหน้าชุดสืบสวน เป็นผู้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนเท่านั้น
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
