(การเมือง)"เพื่อไทย" ซัด "สุเทพ" รักษาสิทธิ หวังลงการเมือง ไม่นำมวลชนเอง
วันที่ 26 ม.ค.57 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ปลุกระดมมวลชนไปขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้าในเขต กทม.และต่างจังหวัดว่า ถือเป็นการปิดกั้นสิทธิของคน กทม.โดยเฉพาะเขตบางกะปิกว่า 8 หมื่นคนที่รอใช้สิทธิ ถือเป็นการวางแผนโดยอ้างว่าจะกู้ชาติ แต่นี่ถือเป็นการทำลายชาติมากกว่า ไม่เคารพสิทธิของประชาชนและระบอบประชาธิปไตย ไม่ฟังเสียงส่วนใหญ่ เป็นเผด็จการเสียงข้างน้อย ผู้นำที่ต้องการปฏิรูปแต่กลับแสดงพฤติกรรมดิบ เถื่อน ถ่อย ผิดกฎหมายเลือกตั้งชัดเจน โทษจำคุกถึง 5 ปี ปรับ 2 แสนบาท และผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ด้วย ดังนั้นขอเรียกร้องประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ ขอให้แจ้งความเอาผิดนายสุเทพและพวกรวมทั้งผู้ที่ขัดขวาง ขณะที่พรรคเพื่อไทยจะให้ผู้สมัคร ส.ส.ได้ถ่ายภาพผู้ที่ขัดขวาง เพื่อแจ้งความเอาผิดแกนนำ กปปส.แต่ละพื้นที่และในจังหวัดอื่นๆ ที่ขัดขวางการเลือกตั้งทันที
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาส่วนหนึ่งมาจาก กกต.เพราะตั้งแต่กลุ่ม กปปส.เข้าขัดขวางตั้งแต่การรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จนถึงการบุกโรงพิมพ์บัตรและการอบรมกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ผ่านมา 33 วันแล้วแต่ กกต.ก็ยังไม่ทำอะไร ถือเป็นละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่เอาผิดกลุ่ม กปปส.อ้างแต่ว่าอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ดังนั้น กกต.อย่าทำทองไม่รู้ร้อน ต้องแจ้งความเอาผิด ไม่เช่นนั้นการเลือกตั้งทั่วไป 2 ก.พ.จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ทั้งนี้ จากการตรวจสอบการใช้สิทธิเลือกตั้งในภาคอื่นๆ 92.5 เปอร์เซ็นต์ไม่มีการขัดขวาง มีปัญหาเพียง กทม.และภาคใต้เท่านั้น ดังนั้นตนได้รวบรวมหลักฐานการชุมนุมรวม 1200 กว่าหน้า เช่น คลิปบันทึกภาพการชุมนุมของกลุ่มนายสุเทพและพวก การถอดเทปคำให้สัมภาษณ์ของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งการบอยคอตของพรรคประชาธิปัตย์ การลาออกของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่ยอมทำหน้าที่ตาม มาตรา 4 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฯ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไปร่วมขึ้นเวทีที่ราชประสงค์ถือเป็นการสนับสนุน ซึ่งศาลอาญาออกหมายจับนายสุเทพข้อหากบฏ ซึ่งผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ทั้งนี้ ถือว่าผิดกฎหมายชัดเจน ดังนั้นวันที่ 31 ม.ค. เวลา 10.00 น.ตนจะเดินทางไปยื่นเรื่องต่อ กกต.เพื่อเอาผิดยุบพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป
" นอกจากนี้ทราบว่ามีคนใกล้ชิดและอดีตนักการเมืองในภาคใต้ ไปร่วมขัดขวางการเลือกตั้ง โดยนายสุเทพประกาศชัดให้สมาชิกและอดีต ส.ส.ไปปิดล้อมหน่วยเลือกตั้งต่างๆ ถือว่ากระทำผิดชัดเจน หากเป็นพรรคการเมืองอื่นกระทำการลักษณะนี้ คงถูกดำเนินการทางกฎหมายไปแล้ว ทั้งนี้ แปลกใจว่านายอภิสิทธิ์และสมาชิกพรรคมีดีอะไรนักหนาถึงกล้าทำ นายชวน หลีกภัย ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ อย่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง และขอตั้งข้อสังเกตที่นายสุเทพไม่เป็นผู้นำไปขัดขวาง ทำตัวเป็นอีแอบทางการเมือง ซ่อนตัวในเซฟเฮาส์ กลับปล่อยให้มวลชนไปปิดล้อมเอง แสดงว่าจะกลับมาเล่นการเมืองอีกหรือไม่ ทั้งนี้ สงสารประชาชนที่ไม่รู้โทษทางกฎหมายทั้งจำและปรับ " นายพร้อมพงศ์ กล่าว
ซัด "อิสระ" นำมวลชนขวางเลือกตั้ง แต่รักษาสิทธิตัวเอง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่นายอิสระ สมชัย แกนนำ กปปส.ร่วมกับผู้ชุมนุมประมาณ 200 คนเดินทางบุกเข้าไปใน รร.มัธยมประชานิเวศน์ ซึ่งมีการอบรมกรรมการประจำหน่วยเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นมีนักเรียนอยู่ภายในโรงเรียนพอสมควรว่า จึงไม่รู้สึกแปลกใจที่ผู้ชุมนุม กปปส.กล้าบุกไปเข้าไปถึงมัสยิด โรงเรียนสอนศาสนาในจังหวัดภาคใต้ ทั้งนี้ แทนที่เด็กๆ จะได้เรียนหนังสือกลับต้องหนีออกจากโรงเรียน ถือเป็นการกระทำที่เลยขอบเขตการใช้สิทธิเสรีภาพ โดยไม่คำนึงถึงเด็กๆ ดังนั้นขอเรียกร้องนายอภิสิทธิ์และนายชวนว่าสมควรที่จะต้องห้ามปราม นี้เป็นยุคตกต่ำของพรรคประชาธิปัตย์
ทั้งนี้นายอิสระบอกจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อรักษาสิทธิทั้งที่ขัดขวางการ เลือกตั้ง เมื่อบอยคอตการเลือกตั้งแล้วก็อย่าไปใช้สิทธิ หากไม่เคารพประชาธิปไตย ทำตัวขัดขวางแต่ยังรักษาสิทธิเพื่อหวังจะลงเลือกตั้ง นี่มันอะไรกัน เหนือคำบรรยายจริงๆ ไม่รู้ว่านายอภิสิทธิ์ และนายชวนกำลังคิดอะไร ตนขอท้าว่าเมื่อขัดขวางการเลือกตั้งและบอยคอตแล้ว ก็อย่าไปใช้สิทธิ เว้นวรรคไป 4 ปีเลย อย่าทำตัวเป็นพวกเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง
จี้ กกต.ตอบคำถาม 6 ข้อ ก่อนถก เลื่อนเลือกตั้ง
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ กกต.จะไปหารือกับนายกฯ ในวันที่ 28 ม.ค.นี้ว่า ตนในฐานะสมาชิกพรรคการเมืองที่ลงสมัคร เชื่อว่าจะมีผลกระทบกับประชาชนผู้ใช้สิทธิ์ในการลงคะแนนและสมาชิกพรรคการ เมือง รวมถึงพรรคการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้งถึง 53 พรรค จึงขอถาม กกต.6 ข้อให้ช่วยชี้แจงก่อนจะเลื่อนการเลือกตั้ง เพื่อป้องกันข้อขัดแย้งและการฟ้องร้องในภายหลัง รวมทั้งเพื่อให้ความกระจ่างกับประชาชน 6 ข้อ ดังนี้ 1.การเลื่อนวันเลือกตั้งทั่วไปจากวันที่ 2 ก.พ.ออกไป โดยกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปใหม่ ถามว่า กกต.จะใช้เวลาที่เลื่อนไปเพื่อดำเนินการอย่างไรบ้าง จุดประสงค์และเหตุผลความจำเป็นมีความชัดเจนหรือยังเพื่อให้การจัดการเลือก ตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และหากเลื่อนออกไปแล้ว กกต.ยืนยันได้หรือไม่ว่าปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบันจะไม่เกิดขึ้น หรือยุติลงก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นใหม่ เพราะขณะนี้กลุ่ม กปปส.ที่ชุมนุมอยู่ประกาศว่าจะขัดขวางการเลือกตั้งทุกรูปแบบ ดังนั้นการเลื่อนวันเลือกตั้งทั่วไปออกไปจากเดิมจะเกิดประโยชน์อย่างไรในการ บริหารจัดการการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า 2.พระราชกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมที่จะทำขึ้นใหม่ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมเฉพาะแก้มาตรา 4 ของพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ 56 เพื่อเลื่อนเฉพาะวันเลือกตั้งทั่วไปใช่หรือไม่ หรือพระราชกฤษฎีกาที่จะแก้ไขเพิ่มเติมเป็นการแก้ไขเพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ สามารถลงเลือกตั้งได้ และหากแก้ให้พรรคประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้งได้โดยไม่มีผู้คัดค้าน พรรคประชาธิปัตย์จะลงเลือกตั้งหรือไม่ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ชัดเจนในเรื่อง พ.ร.ฎ.เลือกตั้งใหม่ว่าจะแก้กี่ประเด็น อะไรบ้าง 3.การเลื่อนวันเลือกตั้งทั่วไป กกต. มีข้อยุติหรือยัง ในฐานะผู้บริหารการเลือกตั้งว่าจะใช้เวลาเท่าที่จำเป็นเท่าไหร่ในการเลื่อน วันเลือกตั้งทั่วไปออกไป และระยะเวลาที่เลื่อนออกไปนั้นจะเป็นระยะเวลาที่มากกว่า 60 วันตาม พรฎ.ยุบสภาฯ หรือไม่ และถ้าเกินกว่า 60 วัน ระยะเวลาที่เลื่อนไปจะขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 108 หรือไม่ เพราะห้ามมิให้มีการเลือกตั้งเกินกว่า 60 วัน ดังนั้นใครจะเป็นผู้ให้ความกระจ่างในเรื่องระยะเวลาที่จะเลื่อนออกไป เพราะทั้งนายกฯ และประธาน กกต .ในฐานะผู้รักษาการพระราชกฤษฎีกา จะต้องไม่กระทำผิดกฎหมายดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญก็มิได้วินิจฉัยไว้ หรือจะต้องไปสอบถามศาลรัฐธรรมนูญอีกหรือไม่ว่าสามารถจะเลื่อนได้อีกกี่วัน และหากทั้งสองฝ่ายเห็นว่ามีความจำเป็นต้องเลื่อน แต่ยังเห็นต่างกันในเวลาที่เลื่อนอีก ผู้ใดจะเป็นผู้ชี้ขาดเพาะปัญหายังไม่สิ้นกระแสความ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า 4.การเลื่อนวันเลือกตั้งทั่วไป ที่กกต.ไปร้องต่อศาล และศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า สามารถเลื่อนการเลือกตั้งได้ แต่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้วินิจฉัยว่าเลื่อนได้กี่วัน มากน้อยเท่าใด หากพรรคการเมืองอื่นที่ลงสมัครไม่ยอมให้เลื่อนวันเลือกตั้งโดยอ้างว่าเสีย ค่าใช้จ่ายไปแล้ว ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหาย และความรับผิดชอบตามกฎหมายฐานไม่รักษาการให้เป็นไปตาม พ.ร.ฎ.ยุบสภาฯ 5.รัฐธรรมนูญกำหนดหน้าที่ให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ต้องไปลงคะแนนในวันที่ 2 ก.พ.ถ้าประชาชนไม่ยอมและไปฟ้องต่อศาล ใครจะรับผิดชอบในการเลื่อนวันเลือกตั้ง เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นเพียงให้คำแนะนำว่าเลื่อนได้เท่านั้น แต่การใช้ดุลพินิจว่ามีเหตุจำเป็นต้องเลื่อนหรือไม่ เป็นหน้าที่ กกต. เพราะประชาชนในภาคเหนือ ภาคอีสานและภาคกลาง ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ รวมทั้งภาคใต้บางส่วนยังประสงค์ให้มีการเลือกตั้งอยู่ กกต.จะบริหารอย่างไรไม่ให้คนที่รักประชาธิปไตยเกิดความรู้สึกที่ไม่เป็นธรรม ว่า กกต.ไม่ละเมิดสิทธิของประชาชน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า และ 6.ค่าใช้จ่ายที่ กกต.เสียไปสำหรับการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.เป็นจำนวนเท่าใด ใช้ไปแล้วจำนวนเท่าใด ในกรณีใดบ้าง และหากเลื่อนการเลือกตั้งไปจะให้รัฐบาลหางบประมาณมาให้อีกหรือไม่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินมีหนังสือเตือนมาแล้ว กกต.จะปฏิบัติอย่างไรไม่ให้เกิดความรับผิดในทางกฎหมาย หากพรรคการเมืองและผู้สมัครมาฟ้องต่อศาลเรียกค่าเสียหายที่ต้องเสียไปในการ หาเสียง กกต.จะชี้แจงและรับผิดชอบหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ หาก กกต.ตอบคำถามเหล่านี้ได้ชัดเจน ก็จะเป็นการป้องกันความขัดแย้งในการเลื่อนการเลือกตั้งได้ และป้องกัน ทั้ง กกต.และ ครม.ถูกฟ้องร้อง ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้น หาก กกต.เลื่อนเฉพาะบางหน่วยเลือกตั้งน่าจะเหมาะสมกว่า
ยันออกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ชอบธรรม
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมากล่าวหารัฐบาลว่า ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มิชอบว่า เป็นเพียงเกมการเมือง ลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ทั้งนี้ ขอให้มองเหตุว่าเกิดจากอะไร เป็นเพราะนายสุเทพปลุกระดมมวลชนออกมาชุมนุม บุกยึดสถานที่ราชการ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ละเมิดสิทธิประชาชนทั้งที่อยู่ระหว่างพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง รัฐบาลจึงมีความชอบธรรมในการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อคุ้มครองสิทธิประชาชนและผู้ชุมนุม แทนที่จะกล่าวหารัฐบาลควรไปกล่าวหานายสุเทพ ไม่ใช่ปกป้องพวกเดียวกัน อีกทั้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก็ยังไม่ได้ละเมิดสิทธิใคร นายสุเทพก็ยังชุมนุมต่อได้ ดังนั้นไม่อยากให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะแบ่งหน้าที่กันทำกับทำนายสุเทพซึ่งไม่ถูกต้อง