“เทพเทือก” ท้า ตร.จะรอบุกให้เข้ามาจับ “สาทิตย์” ปูดวางแผนดักอุ้มแต่เหลว “ถาวร” ปิดสถานที่อบรม กก.เลือกตั้ง ชี้ไม่มีประโยชน์เพราะไม่มีการเปิดสภาแน่นอน “หลวงปู่พุทธะอิสระ” ท้าธาริตเข้ามาจับ แต่ไม่รับรองความปลอดภัย กปปส.ยกพลล้อม สนง.อัยการสูงสุดให้หยุดทำงาน “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” ถกผู้นำเหล่าทัพใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน วอน “เทพเทือก” เปิดโต๊ะเจรจาหาทางออก “เหลิม” เตรียมใช้อำนาจ พ.ร.ก.สั่งบุกจับแกนนำ เตือน “เทพเทือก” สนธิ-ลิ้มทำนายชะตาขาดระวังถูกฆ่าตาย อัดม็อบ คปท.อันธพาลรื้อป้าย สตช. เตรียมจ่อแจ้ง 2 ข้อหาหนักและไม่สนแม้จะทำป้ายใหม่มาให้ขู่นายทุนเจอเช็กบิลแน่ฐานให้การสนับสนุนเงิน ประสาน ปปง.สอบทรัพย์สิน ด้าน “ธิดา” ผวาทหารปฏิวัติสั่งระดมเสื้อแดงต้าน
“สุเทพ” ท้าตร.บุกจับแกนนำ
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 23 ม.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณเลขาธิการ กปปส.ได้เดินทางมาถึงเวทีแยกอโศก เพื่อนำมวลชนเดินขบวนชัตดาวน์กรุงเทพฯขับไล่รัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์โดยมีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ แกนนำ กปปส.มารอรับท่ามกลางเสียงปรบมือและเป่านกหวีดต้อนรับจากนั้นนายสุเทพได้เดินนำขบวนไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพ่อครัว-แม่ครัวตามซุ้มอาหารต่าง ๆ โดยมีประชาชนมาขอถ่ายรูปและร่วมบริจาคเงินกันเป็นจำนวนมาก
โดยนายสุเทพให้สัมภาษณ์ว่าถึงแม้ตอนนี้รัฐบาลจะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแต่ตนจะยังดำเนินการปิดสถานที่ราชการต่อไปให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ เมื่อทำสำเร็จครบถ้วนต่อไปจะดำเนินการกดดันรัฐบาลโดยการไปปิดล้อมบ้านของเหล่ารัฐมนตรี เพื่อให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลาออกจากการเป็นรัฐบาลรักษาการ ต่อข้อถามว่าหลังจากรัฐบาลออก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน มาเป็นวันที่ 2 จากนี้จะมีการบุกจับแกนนำจะทำอย่างไรต่อไปนายสุเทพตอบว่าให้มาจับสิผมอยู่ที่นี่ไม่ได้หนีไปดูไบ
จากนั้นนายสุเทพได้เคลื่อนขบวนออกจากเวทีแยกอโศกไปตามถนนสุขุมวิทขาเข้า ก่อนจะหยุดนั่งกินอาหารเช้าที่แยกชิดลม จากนั้นเคลื่อนขบวนไปทางหลังสวน ถนนสารสินผ่านถนนวิทยุ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราม 4 มุ่งหน้าแยกคลองเตยเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัชดาก่อนจะกลับมาที่เวทีแยกอโศกรวมระยะทางกว่า 6 กม. โดยระหว่างทางมีพนักงานบริษัทธนาคารออกมาเป่านกหวีดและมอบเงินให้กำลังใจบางคนนำแบงก์ร้อยมาผูกติดกันเป็นพวงมาลัยให้นายสุเทพอีกด้วย บางคนเข้ามาขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันเป็นจำนวนมาก
“สาทิตย์” ปูดแผนอุ้มเหลว
ด้านเวทีสี่แยกปทุมวันนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส.ได้ขึ้นเวทีปราศรัยพร้อมกับแจ้งกับผู้ชุมนุมว่านับเป็นวันที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นวันที่ 2 แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.
เรายังคงเดินหน้าทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง แม้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส.ต้องการจะบุกจับแกนนำเมื่อช่วงหัวคํ่าวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยสั่งให้ตำรวจดักซุ่มรอจับนายสุเทพระหว่างเดินทางมาขึ้นเวทีปราศรัยที่แยกอโศกโดยตำรวจได้ขับรถตู้มาจอดใกล้เวทีแต่ชาวบ้านรู้เลยยกพวกไปล้อมรถไว้ทั้งคืนดังนั้นทาง กปปส.จะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อ ร.ต.อ.เฉลิม และ น.ส.ยิ่งลักษณ์เช่นกันขอให้พี่น้องช่วยกันจับตาดู เพราะขณะนี้ตำรวจต้องการจะเข้ามาจับแกนนำแล้วหากพวกเราเห็นให้ไปล้อมรถตำรวจไว้เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องให้ลงจากรถจนถึงรุ่งเช้านอกจากนี้ทาง กปปส.จะให้ทนายฟ้องรัฐบาลฐานใช้ พ.ร.ก.
ฉุกเฉินต่อศาลรัฐธรรมนูญแพ่งและอาญาในวันที่ 24 ม.ค.นี้อีกด้วย
ส่วนกรณีมีคลิปเผยแพร่ที่กลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่ามีกลุ่มมวลชน กปปส.ไปเป่านกหวีดขณะที่ชาวมุสลิมกำลังทำพิธีละหมาด ที่มัสยิดบ้านสุโสะหมู่ 1 ต.สุโสะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เมื่อวันที่ 20 ม.ค. นั้นตนขอชี้แจงว่าไม่ได้มีการข่มขู่ชาวมุสลิมไม่ให้ทำละหมาดแต่เป็นเรื่องเข้าใจผิดของผู้ชุมนุม โดยตนได้ประสานไปยังพื้นที่โดยให้นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต ส.ส.ไปชี้แจงและขอโทษกับโต๊ะอิหม่ามแล้วว่าไม่ได้มีการแบ่งแยกศาสนา ไม่มีปัญหาบานปลาย ถือเป็นประเด็นเล็กน้อยแต่กลุ่มคนเสื้อแดงไปขยายผลให้ใหญ่โต
ปิดสถานที่ติว กก.เลือกตั้ง
ส่วนทางด้านเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิที่มีนายถาวร เสนเนียม เป็นแกนนำได้ขึ้นกล่าวปราศรัยจากนั้นในช่วงบ่ายได้นำมวลชนเคลื่อนขบวนไปทางถนนสามเหลี่ยมดินแดงเลี้ยวซ้ายถนนวิภาวดี-รังสิต ก่อนจะเลี้ยวขวาเข้าถนนมิตรไมตรีผ่าน สน.ดินแดง จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาสงเคราะห์ เพื่อมุ่งหน้าไปที่โรงเรียนวิชูทิศสถานที่จัดให้มีการอบรมคณะกรรมการประจำคูหาเลือกตั้งเขตดินแดงพอไปถึงได้ปิดทางเข้าออกพร้อมเรียกร้องให้คณะกรรมการประจำคูหาเลือกตั้งหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยขณะนั้นภายในโรงเรียนยังมีนักเรียนระดับชั้นอนุบาลกับ ม.3 กำลังเรียนกันอยู่ อย่างไรก็ตามทางการ์ด กปปส.อนุญาตให้เด็กและผู้ปกครองออกมาจากโรงเรียนได้อย่างปลอดภัยจากนั้นนายถาวรเข้าไปเจรจากับนายอิศราเมศร์ ครานุกูลย์ ผอ.เขตดินแดงก่อนจะตั้งโต๊ะแถลงถึงให้มีการเลือกตั้งต้องสูญเปล่าเพราะหลังการเลือกตั้งจะไม่สามารถเปิดสภาได้ เนื่องจากมีจำนวน ส.ส.ไม่ถึงร้อยละ 95 ทำให้การอบรมคณะกรรมการประจำคูหาไม่เกิดประโยชน์ การมาวันนี้ไม่ได้มาบุกรุกเพราะคนข้างในสมัครใจจะเดินออกจากโรงเรียนเอง
ด้านนายอิศราเมศร์กล่าวว่าวันนี้ได้ยกเลิกการอบรมคณะกรรมการประจำคูหาไปแล้วโดยกำหนดการเดิมจะมีการอบรมในเวลา 14.30 น. แต่ได้ยกเลิกไปก่อน ระหว่างนั้นคนสนิทของนายถาวรเข้ามากระซิบว่าได้มีการอบรมไปตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาโดยใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง ก่อนที่กลุ่ม กปปส.จะเดินทางมาถึง นายถาวรจึงกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่าอบรมแล้วก็อบรมไป ก่อนจะยกขบวนกันกลับเวทีตามเดิม
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเช้าทางกลุ่มของม็อบ กปปส.เวทีอนุสาวรีย์ฯ ได้มีการจัดกิจกรรม “บิ๊ก คลีนนิ่งเดย์” โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่ กทม.เขตราชเทวี ทำความสะอาดพื้นถนนเก็บขยะทั้งในที่ชุมนุมและรอบบริเวณโดยมีนายถาวรเป็นหัวขบวนทำความสะอาดในครั้งนี้ด้วย
“หลวงปู่” ท้าธาริตเข้ามาจับ
ขณะที่เวทีศูนย์ราชการถนนแจ้งวัฒนะ หลวงปู่พุทธะอิสระได้นำมวลชนจำนวนหนึ่งไปปิดที่ด้านหน้าอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)เพื่อจะขอขึ้นไปตรวจสอบหลังสังเกตเห็นมีกลุ่มบุคคลเข้าไปแฝงตัวบนอาคารและมีการยิงเลเซอร์ล็อกเป้าแกนนำบนเวทีที่ตั้งอยู่หน้ากรมการกงสุล ระหว่างนั้น พ.ท.สิทธิพร เจริญพุฒิ รอง ผบ.สำนักปฏิบัติการพิเศษดีเอสไอที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ได้เข้ามาเจรจาพร้อมกับแจ้งว่าประตูอาคารดังกล่าวล็อกใส่กุญแจและไม่อนุญาตให้ผู้ชุมนุมเข้าไปถ้าอยากเข้าไปให้ตัดกุญแจเข้าไปเอง แต่กลุ่มผู้ชุมนุมรู้ทันเพราะถ้าทำเช่นนั้นจะเจอข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ เลยให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอตัดกุญแจให้ สุดท้าย พ.ท.สุทธิพรต้องยอมรับรองกับม็อบ กปปส.ว่าไม่มีกำลังพลของหน่วยงานใดขึ้นไปบนอาคารแน่นอนกลุ่มผู้ชุมนุมจึงพอใจยกขบวนกลับไป
ส่วนบรรยากาศของเวทีแจ้งวัฒนะในวันนี้ยังมีผู้ชุมนุมบางตาเหมือนเช่นทุกวันทำให้เกรงว่าถ้ามีการบุกจับแกนนำหรือสลายม็อบ จะเป็นจุดแรกที่โดนก่อนเวทีอื่นจากนั้นหลวงปู่พุทธะอิสระได้ประกาศบนเวทีว่า หากเจ้าหน้าที่จะมีการดำเนินการใด ๆ กับการชุมนุมในจุดนี้ขอให้รีบทำจะได้จบเร็ว ๆ ผู้ชุมนุมจะได้ไม่ต้องวิตกกังวล อีกส่วนที่ดีเอสไอออกหมายเรียกอาตมาให้เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหากบฏนั้นขอให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เดินทางมาส่งหมายด้วยตัวเอง แต่ไม่รับรองความปลอดภัยอย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า รอบ ๆ บริเวณของการชุมนุมการ์ดยังคงตรวจตราความปลอดภัยตามจุดเข้าออกอย่างเข้มงวด
ม็อบกปปส.ปิดอัยการสูงสุด
ขณะเดียวกัน นพ.ระวีมาศ ฉนาดล นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสมบูรณ์ ทองบุราณ แกนนำ กปปส.ได้นำผู้ชุมนุมกว่า 100 คนขึ้นรถหกล้อติดเครื่องขยายเสียงมาปิดล้อมอาคารสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษกเพื่อเรียกร้องให้ข้าราชการอัยการหยุดทำงาน เพื่อไม่ให้รัฐบาลทำงานได้และหยุดรับใช้ระบอบทักษิณจากนั้นแกนนำได้เข้าไปพูดคุยกับนายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษและโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายกมล ธรรมเสรีกุล อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาจากนั้น นพ.ระวีได้ออกมา บอกกับผู้ชุมนุมว่า ได้ขอให้ข้าราชการอัยการและลูกจ้างหยุดทำงาน 1 วัน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้พนักงานอัยการและเจ้าหน้าที่ได้เล็งเห็นว่าการทำงานหลังจากนี้ขอให้พิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับประชาชนด้วยความเป็นธรรมเพราะที่ผ่านมามีหลายคดีที่ยังคลางแคลงสงสัยโดยเฉพาะคดีไม่สั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ข้อหาก่อการร้ายการไม่ยื่นฎีกาคดีคุณหญิงพจมาน กับพวกที่เลี่ยงภาษีบริษัทชินคอร์ป อย่างไรก็ตามทาง กปปส.ได้ยกเว้นให้อัยการและเจ้าหน้าที่บางส่วนที่เกี่ยวข้องกับคดีการฝากขังผู้ต้องหาการยื่นฟ้อง สำนักงานฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายทำงานต่อไปได้
“นายกฯปู” ถก ผบ.เหล่าทัพ
เมื่อเวลา 08.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พล.อ. ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.และนายทหารระดับสูงได้เดินทางมาประชุมสภากลาโหมแต่ระหว่างนี้ได้มีการหารือเรื่องการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินและการให้ความร่วมมือกับตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ช่วงกลางคืนโดยยํ้าเรื่องการเข้มงวดดูแลเหตุระเบิดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมกับมีการกำชับกำลังเรื่องการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ในฐานะประชาชนแต่อย่าลืมบทบาทหน้าที่ในความเป็นทหารที่ต้องอยู่ในระเบียบวินัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนที่คณะของนายกฯจะเดินทางมาถึงได้มีตุ๊กแกตัวหนึ่งมาเกาะที่ประตูทางเข้าอาคารที่ใช้ในการประชุมเจ้าหน้าที่ต้องรีบล้อมจับไปปล่อยที่อื่นจากนั้นหลังเสร็จสิ้นการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ได้เดินออกจากห้องมาพบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ที่จะเดินทางมาประชุม ครม.ที่ห้องใกล้เคียงกันเลยมีการจับไม้จับมือทักทายกัน ระหว่างนั้น ร.ต.อ.เฉลิม จะเดินเข้าไปจับมือกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ได้ชักมือกลับโดยไม่ยอมจับมือด้วย ทำให้ ร.ต.อ. เฉลิม มีสีหน้าเจื่อนไปเล็กน้อยก่อนจะแก้เขินด้วยการแกล้งต่อยที่ท้องของ พล.อ.ประยุทธ์ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินออกไปด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
วอน “เทพ” เปิดโต๊ะเจรจา
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า เป็นวาระการประชุมตามปกติโดยมีการรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ต่าง ๆ เบื้องต้นตนได้ชี้แจงกับผบ.เหล่าทัพว่าการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นเครื่องมือให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามขั้นตอนและตามกฎหมายโดยเน้นใช้การดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย มากกว่าการใช้กำลังทหาร พร้อมกับขอให้ทุกเหล่าทัพเตรียมหน่วยแพทย์พยาบาลให้พร้อมรวมถึงการตั้งจุดตรวจร่วมเพื่อความปลอดภัยของประชาชนนอกจากนี้ยังเน้นยํ้าให้ ผอ.ศรส.ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความละมุนละม่อมอย่าลุแก่อำนาจเกินความจริง
“ดิฉันอยากให้หลีกเลี่ยงการพูดจาที่จะทำให้เกิดความเกลียดชังหรือขัดแย้งกันเหมือนกับที่ ผบ.ทบ.พูดว่าเราจะโกรธจะเกลียดจะแรงกันไปถึงไหนวันนี้น่าจะถึงเวลาแล้ว ให้หันหน้ามาพูดคุยกันเพราะรัฐบาลพร้อมในการเปิดเวทีทุกประตูทุกเวลาในการพูดคุยที่ผ่านมาไม่เคยมีนายกฯคนไหนเจอขนาดนี้ ดิฉันเองยอมรับว่าต้องอดทนขอความเห็นใจจากผู้ชุมนุมว่าเราพร้อมรับฟัง แต่บางอย่างต้องเห็นใจถ้าเราสามารถปฏิบัติได้ยินดีให้ความร่วมมือวันนี้เราได้คืนอำนาจให้ประชาชนแล้วด้วยการยุบสภาส่วนในสิ่งที่ผู้ชุมนุมเรียกร้องนั้นเราไม่สามารถจะปฏิบัติได้ภายใต้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญขอเรียนยํ้าอีกครั้งว่าดิฉันไม่ใช่คนดื้อรั้นหรือไม่ยอมรับฟังอะไรเลยแต่บางอย่างไม่สามารถปฏิบัติเองได้ ต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาช่วยและพูดคุยกันน่าจะเป็นทางออกที่ดี” นายกฯปูเผย
“เหลิม” เผยสั่งจับแกนนำ
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน และ ผอ.ศรส. หรือผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ เปิดเผยว่าหลังประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปแล้วยังขอยืนยันว่าจะไม่ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมเพราะรัฐบาลต้องการให้เกิดความสงบและจะไม่สลายการชุมนุม ขอร้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ให้รวมเวทีชุมนุมให้อยู่ที่เดียวเพราะการกีดขวางการจราจรทำให้ประชาชนเดือดร้อน ตนจะไม่บ้าอำนาจและไม่ใช้อาวุธจริงรวมถึงจะทำงานอย่างเป็นระบบ ไม่สร้างปัญหาให้นายสุเทพมาฟ้องตนภายหลังเพราะตนจะไม่แสดงความไม่ฉลาดแบบ ศอฉ.ชุดที่ผ่านมาส่วนกรณีกลุ่ม คปท.ถอดป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นั้นตนเห็นว่าพวกนี้เป็นอันธพาล ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งนํ้าตา
ส่วนกรณีนำกองกำลังต่างชาติเข้ามาก่อเหตุนั้นตนไม่ทราบ คิดว่าตำรวจกำลังตรวจสอบอยู่ อย่างไรก็ตามตนได้เตือนนายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.แล้วว่าการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ฯ ควบคุมความเรียบร้อยได้ยากไม่ว่าคนที่เกลียดม็อบหรือเกลียดรัฐบาลไปโยนระเบิด รัฐบาลต้องรับผิดชอบอยู่ดีเขาบอกขอเวลาคิด อีกทั้งตนขอเตือนนายสุเทพที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม.เตือนว่านายสุเทพจะถูกฆ่าตายนั้นนายสนธิพูดไม่เคยผิดเพราะดูหมอดูบ่อยรวมถึงขอเตือนนายทุนถ้ายังไม่หยุดสนับสนุนอย่าหาว่าตนขู่ เพราะจะเช็กบิลแน่นอนขณะนี้มีรายชื่ออยู่แล้วว่ามีใครบ้างแต่ไม่ขอบอกกำลังตรวจสอบว่าถ้ามีความผิดเจอจับแน่ในฐานะสนับสนุนก่อการร่วมหรืออาจให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)พิจารณาเรื่องทรัพย์สิน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะบุกจับแกนนำเพื่อเชือดไก่ให้ลิงดูเมื่อไร่ ผอ.ศรส.ตอบว่า คงไม่ใช่ไก่แต่คงจับทั้งหมด พวกที่ทำผิดไม่จับเพียงบางคนโดยจะอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินควบคุมตัวไว้ 301 วัน ตนไม่เชื่อว่าประชาชนจะร่วมมือกับม็อบ กปปส.ไม่ให้มีการจัดการเลือกตั้งเพราะทั่วโลกเขาจะประณาม
จ่อแจ้ง 2 ข้อหารื้อป้ายสตช.
ส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร. พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกฯได้ร่วมกันแถลงข่าวสรุปผลการปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยว่าในวันนี้กลุ่มของกปปส.ได้เดินออกมาเรียกร้องประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมโดยใช้เส้นทางอโศก-ชิดลม-หลังสวน-สารสิน-วิทยุ-เพชรบุรีและไปจบที่อโศก ส่วนเรื่องการทำลายป้ายหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ขอใช้คำว่า “เป็นเรื่องที่ไม่น่าทำ” โดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้แจ้งที่ประชุมฝากให้ข้าราชการตำรวจทุกนายขอให้อดทนต่อความเจ็บใจต้องอดทนต่อการยั่วยุพร้อมจะดำเนินตามกฎหมายอย่างเต็มที่ โดยกำลังตรวจสอบภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวโดย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบด้านคดีเป็นผู้รับผิดชอบเบื้องต้นจะแจ้ง 2 ข้อหาคือทำให้เสียทรัพย์และทำลายทรัพย์สินราชการ มีอายุความ 10 ปี จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้กระทำความผิดไม่ตํ่ากว่า 21 ราย ส่วนป้ายใหม่ทาง ผบ.ตร.สั่งให้เร่งจัดทำให้เสร็จโดยเร็วพร้อมกับจะมีการทำพิธีเปิดป้ายใหม่อย่างยิ่งใหญ่ด้วยและจะไม่ขอรับข้อเสนอจากคปท.ที่จะทำป้ายใหม่มาให้
เสื้อแดงเคลื่อนไหว29ม.ค.
ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลลาดพร้าว นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ขณะนี้เป็นสถานการณ์ที่รอการรัฐประหาร เป็นที่ชัดเจนว่ากองทัพได้พูดออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่าถ้ามีสถานการณ์รุนแรงก็จะต้องจัดการออกมาแก้ไขปัญหา ซึ่งหมายถึงการเข้ามาควบคุมสถานการณ์พูดง่ายๆ คือการทำรัฐประหารด้วยกองทัพนั่นเอง ที่เก็บรถเกราะยูเครนไว้ในราบ 11 กะไว้รอใช้งานใช่หรือไม่ ดังนั้นในวันที่ 29 ม.ค. เราจะเคลื่อนไหวอย่างทั่วถึงกว้างขวางพร้อมเพรียงกัน เป็นการเคลื่อนพลใหญ่ทั่วประเทศ เนื่องจากใกล้กับวันเลือกตั้ง 2 ก.พ. ขอให้แกนนำแต่ละจังหวัดไปปรึกษาหารือกันว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไร ส่วนเวทีเราจะมีการกำหนดพื้นที่ให้เหมาะสมและแจ้งให้ทราบต่อไป ในส่วนของวันที่ 26 ม.ค. จะมีการเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่งจะเป็นการกำหนดว่าการเลือกตั้งจริงจะเป็นอย่างไร ขอให้ นปช. แต่ละจังหวัด โดยเฉพาะใน กทม. ได้ออกมาเป็นหูเป็นตาในการตรวจสอบการเลือกตั้ง แล้วรายงานมายัง นปช. ส่วนกลางด้วย
แห่ให้กำลังใจ ผอ.ถูกไล่
ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงหรือ นปช.พระนครศรีอยุธยา และกลุ่มแดงฟันเฟือง นำโดยนายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล ได้เดินทางไปที่โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย ฝั่งสวนสาธารณะบึงพระรามเพื่อแสดงจุดยืนในการสนับสนุนการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. และให้กำลังใจ นายเฉลิมศักดิ์ ธาระธัญญา ผอ.โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัยที่มีกระแสข่าวว่าเกณฑ์นักเรียนไปรณรงค์เลือกตั้ง และถูกเป่านกหวีดขับไล่โดยนายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนอยุธยาวิทยาลัยและการเดินทางมาเพื่อให้กำลังใจครู อาจารย์และอยากเรียกร้องให้กลุ่ม กปปส.หยุดการกล่าวโจมตีโรงเรียน และผู้อำนวยการโรงเรียนพร้อมกล่าวให้กำลังใจครู รวมทั้งจุดพลุตะไล ที่บริเวณหน้าโรงเรียนให้กำลังใจด้วย
จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนไปที่สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยาพร้อมปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง ให้กำลังใจ พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ในการปฏิบัติหน้าที่ และพร้อมจะปกป้องหากมีการบุกเข้ามาทำลายป้ายเหมือนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้นได้จุดพลุแสดงพลัง และแยกย้ายกันกลับไปอย่างสงบ