“ตู่” บี้ กกต.ให้เปิดรับสมัครส.ส.ในเขตที่ขาดให้ได้ก่อนเลือกตั้ง 2 ก.พ.

“ตู่” บี้ กกต.ให้เปิดรับสมัครส.ส.ในเขตที่ขาดให้ได้ก่อนเลือกตั้ง 2 ก.พ.

ขู่หากไม่ทำโดน 157 แน่ พร้อมบอกหากพบว่ามีคนฉีกบัตรเลือกตั้งกกต.ก็ต้องดำเนินคดีให้หมดทุกคนมีเป็นแสนตามที่ " สมชัย " บอกก็ต้องจัดการ

เมื่อวันที่ วันที่ 19 ม.ค. ที่ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ มีการจัดแถลงข่าว " ถลกหนังเทือก " โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯกปปส. ปิดกรุงเทพฯและปิดภาคใต้ ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ คนที่จะเดือดร้อนก็เป็นคนกรุงเทพฯและภาคใต้ ไม่ใช่คนภาคเหนือหรือภาคอีสาน หากมีกระบวนการทำให้การเลือกตั้งดำเนินไปไม่ได้ หรือการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเป็นโมฆะ ก็จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพื่อรักษาประชาธิปไตย จะใช้งบประมาณเท่าไหร่ก็ต้องยอมเพราะดีกว่าเอางบประมาณไปให้คณะรัฐประหารกับคณะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. และหากมีคนฉีกบัตรเลือกตั้ง ก็เป็นหน้าที่ของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ต้องดำเนินคดี คนที่ฉีกบัตรก็ต้องไปขึ้นศาล อย่างที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กลัวว่า จะมีคนกว่าแสนคนไปฉีกบัตรเลือกตั้ง ตำรวจก็ต้องจับทั้งแสนคน เพราะไม่มีข้อกฎหมายละเว้น ส่วน กกต.ต้องจัดการบริหารจัดการเลือกตั้ง และต้องประกาศรับสมัครเขตเลือกตั้งที่เหลือให้ทันในวันที่ 2 ก.พ. และต้องจัดการเลือกตั้งให้พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 2 ก.พ. หากไม่ทำก็จะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เมื่อนายสุเทพจะประกาศตัวเป็นรัฏฐาธิปัตย์ เอาบ้านเมืองไปอยู่ในมือของตัวเอง และจะปฏิรูปด้วยมือตัวเอง
 
โดยไม่ให้มีการเลือกตั้ง กำลังจะมามีอำนาจเหนือประชาชนทุกคนและเหนือรัฐบาล ทั้งที่นายกรัฐมนตรี ที่มาจากการเลือกตั้ง ยังไม่มีอำนาจเท่ากับสิ่งที่นายสุเทพต้องการจะเป็น ดังนั้น นายสุเทพต้องตอบคำถามและอธิบายให้ได้ว่าเงินที่ซ่อนไว้มาจากไหน ถ้ายังไม่มีคำอธิบาย ก็อย่ามาบอกว่าจะปฏิรูปประเทศ และอย่ามาดูถูกประชาชนว่าไม่มีการศึกษา และซื้อได้อีกต่อไป ที่บอกว่าจะปฏิรูป เพราะรังเกียจกระบวนการเลือกตั้งในปัจจุบัน ต้องการการเมืองที่สุจริตโปร่งใส และมีนักการเมืองที่มีคุณภาพ แต่นายสุเทพเล่นการเมืองมา 35 ปี ทำไมไม่พูดและไม่เคยคิดจะทำ แต่เพิ่งจะมาคิดทำตอนนี้

นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า การที่ นายสุเทพบอกว่า ให้เอาอำนาจมาจะจัดการเอง และการเมืองข้างหน้าต้องมีนักการเมืองที่เป็นคนดีและมีความสามารถ

แล้วขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกฯ ทำไมกระทรวงใหญ่ ๆ อย่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงคมนาคม ถึงให้พรรคภูมิใจไทยดูแล ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็เป็นพรรคชาติไทยพัฒนา ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ดูแลแค่กระทรวงศึกษาธิการ หากจะอธิบายว่าจัดสรรกระทรวงต่างๆ ตามความรู้ความสามารถ ก็ควรจะยุบพรรคประชาธิปัตย์ไปเลย เพราะไม่มีคนในพรรคประชาธิปัตย์ที่มีความสามารถในการดูแลกระทรวงใหญ่ได้ หรือไม่เช่นนั้นก็แสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์สมคบคิดกันนอกระบบ โดยการจัดสรรประโยชน์ทางการเมืองกับฝ่ายต่าง ๆ ที่ร่วมกระบวนการ

" เราจะเชื่อมั่นได้อย่างไรกับนายสุเทพที่เป็นคนเดียวกับการเดินเกมพลิกขั้วการเมืองเมื่อปี 2551 จะมาเป็นคนปฏิรูป และตั้งนายกฯ รวมถึงจัดตั้งรัฐบาลเอง พรรคการเมืองอื่น ๆ ที่ลงเลือกตั้ง เขาก็เสนอบุคคลและเสนอนโยบาย ถ้าประชาชนจะเลือกเบอร์ไหนก็จะรู้ทันทีว่า ใครจะเป็น ส.ส. หรือนายกฯ แต่นายสุเทพไม่บอกอะไรเลย แต่บอกอย่างเดียวว่า ถ้าปฏิรูปประเทศจะปฏิรูปตำรวจใหม่ จะให้ทุกจังหวัดมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ หากจะทำอย่างนั้นก็ประกาศเป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ แล้วลงเลือกตั้ง ดูว่า คนจะเลือกหรือไม่ " นายณัฐวุฒิกล่าว.








เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์