นายพรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก วิพากษ์วิจารณ์การแถลงข่าวของนายธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดังนี้
ผมอ่านคอมเม้นต์ของ "อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี" ด้วยความเคารพนะครับขออนุญาตเห็นต่างและต้องย้ำด้วยว่าสิ่งที่จะวิพากษ์วิจารณ์ต่อไปนี้อยู่บนหลักวิชา ผมดีเฟนด์เพื่อหลักวิชาที่ถูกต้อง ไม่ใช่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
1. ผมพูดมาอยู่หลายครั้งแล้วว่าการวิพากษ์การเมืองปัจจุบันผ่านรัฐบาลเพื่อไทย โดยบอกว่าเป็นการเมืองที่ยึดถือหลักความมีอำนาจสูงสุดของรัฐสภานั้นเป็นการวิพากษ์ที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน เป็นการวิพากษ์โดยมองข้ามระบอบรัฐธรรมนูญ กล่าวคือ ด้วยระบอบรัฐธรรมนูญปัจจุบัน (สืบเนื่องมาจากรัฐธรรมนูญ 40 ) เรามิได้ยึดถือหลักอำนาจสูงสุดเป็นของรัฐสภา (Supremacy of Parliament) แต่เรายึดถือหลักอำนาจสูงสุดของรัฐธรรมนูญ (Supremacy of Constitution) ทั้งนี้เนื่องจากเรามีการวางกลไกขององค์กรตุลาการเข้ามาตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายนิติบัญญัติ เช่น การตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ (Judicial Review) ในการตรากฎหมายต่างๆ เป็นต้น มิได้ปล่อยให้รัฐสภาใช้อำนาจได้ตามอำเภอใจ ดังนั้น สิ่งที่อาจารย์ธีรยุทธพูดมาจึงคลาดเคลื่อนจากหลักวิชาอย่างมาก เป็นการพูดในเชิงรูปแบบ มิใช่ในเชิงเนื้อหา
2. การที่อาจารย์กล่าวถึงการเรียกร้องให้คนที่เรียกร้องให้เคารพสิทธิของคนอื่นให้หันมาเคารพในสิทธิของตนเอง เพราะมีการไปเลือกพรรคการเมือง (พรรคเพื่อไทย) ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่าอาจารย์อาจเข้าใจคำว่า "สิทธิ" ตามหลักวิชาอย่างผิดพลาดคลาดเคลื่อน เนื่องจาก "สิทธิ" จะมีลักษณะก่อให้เกิด "หน้าที่" ต่อบุคคลอื่นที่จะไม่ให้ใครเข้ามาแทรกแซงหรือขัดขวางการใช้สิทธิของตนเอง การตั้งคำถามของอาจารย์นั้นมีลักษณะเป็นการผิดฝาผิดตัว
3. อาจารย์ประดิษฐ์ถ้อยคำอย่าง "สันติภิวัฒน์" ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่าอาจารย์เห็นว่าการชุมนุมครั้งนี้มีลักษณะของการชุมนุมที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญเพราะมีความสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ ซึ่งในความเห็นตามหลักวิชากฎหมายรัฐธรรมนูญผมเห็นว่าไม่ใช่ กล่าวคือ ไม่้ได้เป็นการใช้เสรีภาพในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ เพราะจะเห็นได้ว่ามีการบุกยึดสถานที่ราชการต่างๆ บังคับขู่เข็ญล่วงละเมิดต่อสิทธิของบุคคลอื่นๆ ละเมิดต่อตัวบทกฎหมาย ผมจึงไม่เห็นพ้องด้วยว่าจะสามารถใช้คำว่า "สันติภิวัฒน์" ได้
(ด้วยความเคารพนะครับ อาจารย์เคยประดิษฐ์ถ้อยคำอย่าง "ตุลาการภิวัฒน์" โดยแปลมาจากคำว่า "Judicial Review" ซึ่งเป็นการผิดพลาดจากหลักวิชาการอย่างมาก)
4. อาจารย์วิเคราะห์ว่ามวลมหาประชาชนอาจแพ้ในการเรียกร้องในครั้งนี้ เพราะมีชนชั้นนำไม่กล้าที่จะปฏิรูป ผมขออนุญาตไม่เห็นด้วยนะครับ อาจเป็นการวิเคราะห์ที่ผิวเผินเกินไป คำถามในทางวิชาการคือ การแพ้ชนะครั้งนี้ หากคุณมองว่าเป็นการเรียกร้องเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศจริง มวลมหาประชาชนเป็นคนหมู่มากของประเทศจริง ปัจจัยที่จะส่งผลต่อความพ่ายแพ้ก็คือ คุณมิได้เรียกร้องเพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศใช่หรือไม่ มวลมหาประชาชนมิใช่คนหมู่มากของประเทศจริงใช่หรือไม่ ตรงนี้ผมว่ามันคือประเด็นเรื่องของความยอมรับนับถือ ความเห็นพ้องด้วยกับการเรียกร้องมากน้อยครั้งนี้ของ กปปส มากกว่า ซึ่งสิ่งที่จะวัดความเห็นเห็นพ้องมากน้อยได้ก็คือ การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.
5. อาจารย์และนักวิชาการกลุ่มหนึ่ง (รวมถึงคนที่สนับสนุนการชุมนุมกลุ่ม กปปส) พูดถึงปัญหาการคอรัปชั่นอยู่เสมอ ซึ่งผมก็เห็นว่าเป็นปัญหาจริง ต้องต่อต้านแก้ไข แต่สิ่งที่อาจารย์ไม่พูดเลยก็คือ กระบวนการในการเข้าไปจัดการกับมัน เรื่องนี้มีความสำคัญมากในเชิงหลักวิชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักนิติรัฐนิติธรรม กล่าวคือ กระบวนการที่จะเข้าไปจัดการกับการคอรัปชั่นมันต้องขอบด้วยกฎหมายด้วย ทั้งนี้เพราะหลักการนี้มุ่งเน้นที่จะเข้าไปรับรองและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของคนอันส่งผลต่อสังคมในองค์รวม แต่วิธีการ หรือกระบวนการที่อาจารย์สนับสนุนให้เข้าไปจัดการกับปัญหามันละเมิดต่อหลักนิติรัฐนิติธรรม ไม่อยู่ในครรลองของระบอบรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้ประเทศชาติไม่มีขื่อมีแป แล้วสังคมจะอยู่อย่างไร แล้วใครจะมาพิทักษ์รักษาสิทธิเสรีภาพของประชาชน นี่คือการกระทำที่เรียกว่า "รัฐตำรวจ" (Police State) หรือ "หลักนิติรัฐนิติธรรมจอมปลอม"
The end cannot justify the means
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว