'ยิ่งลักษณ์'นั่งปธ.ถกปฏิรูปประเทศ ย้ำรัฐบาลไม่มีข้อเสนอแค่รับฟัง ชี้เป็นจุดเริ่มต้น 'เอก' หนุ่มที่ชูป้าย 'Respect my vote'ร่วมวงด้วย
โดยนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล สมาคมธนาคารไทย
โดยนายธวัชชัย ยงกิตติกุล สภาธุรกิจตลาดหุ้นไทย โดยนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยนายจรัมพร โชติกเสถียร สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย โดยคุณเพ็ญศรี สุธีรศานต์ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยนางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ มูลนิธิการส่งเสริมการออกแบบอนาคต สถาบันพระปกเกล้าฯ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี ม.มหิดล TDRI ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย สถาบันธรรมรัฐเพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน สภาพัฒนาการเมือง สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสภาเกษตรกรแห่งชาติ
อาทิ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี นพ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษา โดยเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังตลอดการประชุม
วันที่ตนได้เดินทางไปเวทีพิมพ์เขียวของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ไปด้วยเสียงของประชาชนที่ไม่อยากเห็นพรรคการเมืองอะไรเช่นนั้น ซึ่งถ้าพรรคการเมืองไม่ทำตนก็คงไม่ตะโกนคำสุดท้าย เพราะตนไม่ใช่คู่ขัดแย้งและต้องการให้ทุกคนเห็นว่าประชาชนทุกคนไม่ใช่จะถูกจ้างได้ แล้วถ้าปล่อยให้บ้านเมืองปกครองโดยชนชั้นกลางที่ไม่มีความยุติธรรม ใช้เสียงดังจากนกหวีดเข้ามาเราก็คงไม่ยอม ทุกคนควรจะเคารพสิทธิของคนอื่นด้วย อย่าคิดว่าเสียงดังแล้วทุกคนต้องเชื่อ ถ้าเอาคนดีที่พิสูจน์ไม่ได้ประเทศนี้ก็คงจะมีปัญหา
รวมทั้งเราได้มีโอกาสเชิญผู้ที่มีความรู้ในเรื่องการปฏิรูปเข้ามาร่วมพูดคุยในวันนี้ด้วย วัตถุประสงค์ในการร่วมกันหารือในวันนี้ สิ่งแรก คือ การปฏิรูปประเทศที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องช่วยกันทำการปฏิรูป ต้องขอขอบคุณเวทีภาควิชาการหลาย ๆ เวที และหลายคนที่ได้กรุณาทำแผนปฏิรูปประเทศมา ทั้งที่มีแผนเดิมตั้งแต่แรกด้วย และแผนใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามา จะพบว่า เรามีข้อมูลการปฏิรูปประเทศค่อนข้างมาก ตนเชื่อว่า เวทีนี้จะทำให้เวทีปฏิรูปเกิดขึ้นจริงให้เร็วที่สุด และเราจะทำอย่างไรให้แผนปฏิรูปทั้งหลายเป็นแผนใหญ่และแผนเดียวในที่สุด จึงขอเรียนว่า นี่เป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น ที่จะใช้เวทีนี้ในการหารือ ตนจึงขอเปลี่ยนบทบาทของรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่ได้มีเจตนาจะบีบหรือโน้มนำในเรื่องของเนื้อหาการปฏิรูปใด ๆ ทั้งสิ้น ตามที่รัฐบาลได้รับข้อมูลจากภาคเอกชนที่มีความชัดเจนในเรื่องโครงสร้าง แต่สิ่งที่เราจะสรุปในที่นี่คือ เราจะทำอย่างไรให้แผนการปฏิรูปที่เรามีอยู่สามารถนำไปสู่ภาคปฏิบัติตามกฎหมายให้เป็นจริง
เพราะอาจมีหลายภาคส่วนที่ไม่ได้เข้าฟังจึงขอให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลางในการนำเวทีดังกล่าวไปสู่สาธารณะชน เพื่อที่ข้อมูลของทุกภาคส่วนจะได้ไม่ตกหล่น และสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการรับฟังและสื่อสารไปยังประชาชนทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาไปเรื่อย ๆ สำหรับประเด็นหารือ คือ ขั้นตอนการทำงานเพื่อการปฏิรูป และโครงสร้าง เช่น จำนวนของผู้ที่จะมาปฏิรูปต้องมีจำนวนเท่าไร ส่วนตัวอย่างที่รัฐบาลได้เสนอว่า คณะกรรมการปฏิรูป 11 คน และสรรหาอีก 499 คนนั้น วันนี้รัฐบาลจะยังไม่เสนอ และสุดท้ายคือ สาระสำคัญหลักในการปฏิรูปที่ทุกภาคส่วนต้องการ เช่น เรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น เราจะทำอย่างไรให้ขั้นตอนทุกอย่างมีความบริสุทธิ์ยุติธรรม หรือใครมีผลของการศึกษาการปฏิรูปตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้ว ก็สามารถนำเสนอได้