ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย
ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ′ชูวิทย์ I′m No.5′ กล่าวอธิบายถึงรูปภาพที่เป็น ภาพน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จับมือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส. ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมระบุข้อความว่า
"นักการเมือง ยังไงก็เป็นนักการเมืองวันยันค่ำ
หากนักการเมืองอย่างคุณสุเทพเห็นใจตำรวจและอยากทำเพื่อตำรวจจริง คุณสุเทพควรทำมาเสียตั้งนานแล้ว ตั้งแต่คุณสุเทพเป็นรองนายกฯกำกับดูแลตำรวจ เพราะแม้แต่โครงการโรงพัก 396 แห่ง คุณสุเทพยังบอกว่าเป็นผู้ริเริ่มเอง แล้วไฉนถึงไม่ปฏิรูปโครงสร้างตำรวจเสียตั้งแต่เมื่อตัวเองยังมีอำนาจ ทำไมเพิ่งมานึกเอาได้ตอนที่ตัวเองอยู่บนเวทีม็อบเล่า?
คุณสุเทพยังคงมีนิสัยของนักการเมืองอยู่เต็มเปี่ยม ที่มักชอบพูดข่มขู่ อ้างความบริสุทธิ์มีคุณธรรม และท้ายสุดยกเอาความดีความชอบของตัวเองมาเป็นสัญญาผูกมัด
คนเขาบอกว่า "การเมือง ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร" เห็นด่ากันอยู่ในสภาฯ พอออกมานอกห้องดันจับมือ กอดกันยิ้มร่า เรื่องนี้เห็นมากับตา "สองคนเตี้ยผู้ยิ่งใหญ่" ลับหลังแทบจะฆ่ากันตาย แต่พอปะหน้ากอดกันเหมือนรักปานจะกลืนกิน
ผมอยากให้ประชาชนเข้าใจ อย่าไปหลงหัวปักหัวปำ ยกนักการเมืองให้เป็น "ศาสดา" เพราะพวกเขาล้วนมาแล้วไป แต่ประเทศชาติและประชาชนยังคงอยู่
คุณสุเทพกับคุณยิ่งลักษณ์เช่นกัน ตอนอยู่ในสภาฯยังเห็นพูดคุยทักทายปราศรัยกันดี แต่พอคล้อยหลังใส่กันไฟแล็บ
นักการเมืองอย่างคุณยิ่งลักษณ์ ทำตัวเหมือนเด็กถูกจับผิด ชิงยุบสภาหนี ม็อบบุกปิดสถานที่ราชการก็ปล่อยให้ทำ แล้วยังเดินสายไปเหนือ – อีสาน เว้นภาคใต้ เสมือนหนึ่งไปเดินหาเสียง ทั้งที่กรุงเทพฯกำลังลุกเป็นไฟ หุ้นดิ่งเหว นักท่องเที่ยวเมินหน้าหนี แล้วยังส่งนักการเมืองตัวเอ้อย่าง สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ศัตรูคู่อาฆาตกับฝ่ายตรงข้าม ออกมารับหน้าเป็นหนังหน้าไฟ
ส่วนนักการเมืองคนอื่นๆ หลีกลี้หนีหน้ากันหมด บางคนป่วย บางคนลา บางคนหายไปไม่ทราบสาเหตุ ถึงขนาดต้องประกาศหาคนหาย ตอนจัดตำแหน่งวิ่งกันฝุ่นตลบ เสนอหน้ากันสลอนเพราะกลัวตกขบวน
ตอนนี้ประชาชนเหมือนดูหนังตลกปนเศร้า คงต้องหัวเราะทั้งน้ำตา เพราะไม่รู้ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร
หากเรามีชีวิตอยู่ยืนยาว และลูกหลานเราได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์การเมืองเรื่องนี้ พวกเขาคงได้แต่หัวเราะและแปลกใจว่า บรรดานักการเมืองในสมัยพ่อแม่ทำอะไรกันอยู่ ถึงปล่อยให้เรื่องบานปลายมาได้ถึงขนาดนี้?