"พท." อัด "สุเทพ" ทุบหม้อข้าวประเทศ ย้อนยังเป็นคนไทยหรือเปล่า ชี้ ปิดกรุงเทพฯ เสียหายกว่า 2 แสนล้าน พร้อมเดินหน้าเลือกตั้ง 2 ก.พ. เชื่อประชาชนไม่วางใจกกต.แล้ว
แถลงถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ระบุว่า จะรื้อเวทีราชดำเนิน ทุบหม้อข้าวตีเมืองว่า ที่ผ่านมานายสุเทพ ทุบหม้อข้าวตัวเองทุกวันอยู่แล้ว จากอดีตรองนายกฯ แต่วันนี้ไม่เหลืออะไร เป็นผู้ต้องหาหลายคดีรวมทั้งข้อหากบฏ ไม่มีอะไรต้องเสีย แต่วันนี้กำลังจะทุบหม้อข้าวประเทศ ทำลายเศรษฐกิจชาติอย่างย่อยยับ การประกาศปิดกรุงเทพฯ ปล้นนั้นเป็นการริดรอนสิทธิของประชาชน ทั้งชีวิตความเป็นอยู่ การทำมาหากิน ลุแก่อำนาจ ดูหมิ่นคนกรุงเทพฯ ว่าจะทำอะไรก็ได้ ผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา หากเสียชีวิตขึ้นมาจะทำอย่างไร อย่าจับคนกรุงเทพฯ เป็นตัวประกัน ต่างชาติรู้สึกไม่ปลอดภัยที่คนของเขาอยู่ในประเทศไทย นึกอยากทำอะไรก็ทำ ความเสียหายยิ่งกว่าการปิดสนามบิน เพราะนี่คือการปิดเมืองหลวง ฉาวโฉ่ไปทั้งโลก อย่าให้คนไทย 65 ล้านคนรับผิดชอบร่วมกับนายสุเทพ
ให้นึกถึงส่วนรวม ทำให้บ้านเมืองสงบ แต่นายสุเทพทำตรงกันข้าม ไม่เห็นแก่ส่วนรวม ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ขอเรียกร้องคนกรุงเทพฯและคนไทยทั้งประเทศว่า อย่าความจำสั้น โดยเฉพาะท่าทีจุดยืนของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ที่เคยบอกว่า ทั้งชีวิตเราดูแล จะแก้ปัญหานี้อย่างไร ถ้ายังเล่นการเมือง 1 พรรค 2 ระบบ สมคบคิด เตรียมตัวสูญพันธุ์ทางการเมืองได้เลย ตนขอสนับสนุนการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนายสุเทพ เช่น การนัดหมายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กทำกิจกรรมเปิดไฟหน้ารถ ติดข้อความคัดค้านการกระทำของนายสุเทพ
อย่างไรก็ตาม ความจริงมวลชนลดลงเรื่อยๆ ดังนั้นขอเรียกร้องประชาชนว่าอย่าออกมาปิดถนนร่วมกับนายสุเทพ เพราะจะมีความผิดและมีอายุความกว่า 10 ปี
โดยตั้งแต่วันที่ 4 - 30 ม.ค.จะเปิดเวทีปราศรัยทุกจังหวัด เริ่มคิกออฟวันที่ 4 ม.ค.จะปราศรัยใหญ่ 5 จังหวัดคือ กทม. เชียงใหม่ อุบลราชธานี ขอนแก่น และนครสวรรค์ นอกจากนี้ พรรคและผู้สมัครของพรรคได้เริ่มติดป้ายหาเสียงแล้ว ซึ่งป้ายหาเสียง 3 รูปแบบในช่วงแรกคือ 1.ยึดมั่นกติกา รักษาประชาธิปไตย เคารพการตัดสินใจของประชาชน 2.ปฏิรูปประเทศไทย ขจัดภัยคอร์รัปชั่น และ 3.ขอโอกาสพรรคเพื่อไทยเดินหน้าสานต่อนโยบายให้สำเร็จ
ระบุว่า ไม่สามารถขยายวันรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระบบแบ่งเขตใน 28 เขตเลือกตั้งที่ยังไม่มีผู้สมัครได้ว่า การที่ กกต.จะเดินหน้าเลือกตั้งโดยที่ไม่มีการลงคะแนนเลือกตั้งใน 28 เขตเลือกตั้งของภาคใต้นั้น ถือว่าอยู่ในความหมายของการเลือกตั้งทั่วไปที่ต้องเลือกตั้งทั่วทั้งประเทศหรือไม่ การให้เลือกเฉพาะ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อและระบบเขตเลือกตั้งในพื้นที่อื่นนั้น เมื่อมีผลคะแนนออกมาแล้วอาจมีการนำไปสู่การโน้มน้าวจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน 28 เขตเลือกตั้งที่จะมีการเลือกตั้งในภายหลังเพื่อให้ลงคะแนนให้กับผู้สมัครรายใดรายหนึ่งเพื่อให้พรรคการเมืองใดได้ประโยชน์หรือไม่
ทั้งนี้ การให้ผู้ที่ไม่สามารถลงสมัครได้ไปฟ้องศาลนั้น เป็นการโยนภาระให้กับศาลฎีกาหรือไม่ กกต.ต้องให้ความเป็นธรรม ต้องแสดงความจริงใจมากกว่านี้
เพราะถือเป็นหน้าที่ ถ้าปฏิเสธการบริหารจัดการเลือกตั้งก็เท่ากับว่ากระทำผิดต่อหน้าที่ งานของท่านไม่ใช่เป็นตัวกลางในการเจรจา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพรรคที่ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ท่านเอา 53 พรรคไปไว้ไหน สังคมยังไม่อาจวางใจได้ว่าจะมีการพิจารณาใบแดงใบเหลืองจาก กกต.อย่างไรอีกด้วย