13ม.ค.สุเทพทุบหม้อข้าวรื้อเวทีราชดำเนิน

เมื่อเวลา 21.00น.วันที่ 3 ม.ค.2557 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ปราศรัยบนเวทีราชดำเนินความว่า เที่ยวนี้คณะกรรมการแกนนำได้ปรึกษากันแล้ว ทุบหม้อข้าวตีเมืองกันเลย ใครที่อยู่ต่างจังหวัดหากจะมารวมตัวที่ราชดำเนินต้องมาให้ถึงภายในวันที่ 12 ม.ค. เพราะวันที่ 13 ม.ค. เราจะรื้อเวทีราชดำเนินไม่กลับมาอีกแล้ว แยกย้ายกันไปยึดเมืองหลวงตามสถานที่ต่างๆ ปักหลักจนกว่าจะได้รับชัยชนะ หากพี่น้องจากต่างจังหวัดมาไม่ทัน ให้ไปสมทบที่เวทีสามแยก สี่แยกไหนก็ได้

              
นายสุเทพกล่าวต่อว่า ขณะนี้เริ่มมีเสียงโจมตีจากรัฐบาล

พยายามใช้สื่อทุกสื่อ มาทำลายภาพพจน์อันดีงามของมวลมหาประชาชนและตน แต่อย่างไรก็ดีสำหรับตนนั้น ไม่กลัวความเสียหาย เดินหน้าแลกหมัดกันเลย ไม่มึงก็กูแหละเที่ยวนี้รู้กัน ไม่ต้องมาเสียเวลาชี้แจงเรื่องนี้เรื่องนั้น งานนี้จะเป็นงานชิ้นสุดท้ายที่ตนจะทำให้กับบ้านเมือง เมื่อสำเร็จจะเลิกทุกอย่างแล้วกลับบ้านพร้อมกับพี่น้อง

              
"ตนไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ทั้งหมดเปิดเผยชัดเจน มีดีเท่าไรก็ดีเท่านั้น เลวเท่าไรก็เลวเท่านั้นไม่มากกว่านั้น เส้นทางการเมืองของตนตลอด 35 ปี คนรักก็เยอะ คนเกลียดก็มาก แต่คนที่เกลี่ยดตนเป็นคนชั่วทั้งนั้น หากตนผิดจริงเลวจริง คนชั่วที่กำลังมีอำนาจอยู่ในบ้านเมือง คงจัดการตนไปนานแล้ว" นายสุเทพกล่าว

              
เลขาธิการ กปปส.ชี้แจงถึงเรื่องสปก.4-01 ว่า สมัยตนเป็นรมช.เกษตรฯ นั้นเห็นคนทำกินในที่ดินของรัฐ
 
ส่วนใหญ่เป็นคนจนเข้าไปตัดไม้และถูกดำเนินคดี ตนจึงได้เสนอว่าต้องทำให้คนประมาณล้านกว่าครอบครัวเป็นคนที่มีชีวิตอย่างถูกกฎหมายและมีวิธีเดียวคือใช้กฎหมายปฏิรูปที่ดิน จึงเข้าไปประกาศปฏิรูปที่ดินในที่ของรัฐเพื่อให้ประชาชนเข้าไปทำกิน และมีสิทธิทำกินถูกต้องตามกฎหมาย ตลอดเวลา 2 ปีเศษที่เป็นรมช.เกษตรฯ ตนช่วยคนจนได้ครอบครองที่ดินทำกินโดยถูกกฎหมายเกือบ 7 แสนครอบครัว นอกจากนี้ยังมีการปลุกปั่นตำรวจว่าตนดูหมิ่นศักดิ์ศรี รวมถึงเรื่องโรงพักที่สร้างไม่แล้วเสร็จ ตนชี้แจงว่าเรื่องโรงพักสร้างไม่เสร็จนำมาตีไปแล้วหนึ่งครั้งสมัยเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นผู้พิจารณา และเสนอมาที่ตนในสมัยที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงทั้งสิ้น ทุกขั้นตอนผ่านผบ.ตร.มาแล้ว 4 คน มาถึงวันนี้เมื่อเห็นว่าโรงพักสร้างไม่เสร็จจึงหาเรื่องว่าตนเป็นคนทำให้สร้างโรงพักไม่เสร็จ

              
นายสุเทพกล่าวว่า ฝ่ายรัฐบาลกำลังปลุกปั่นตำรวจภาคอีสาน ภาคเหนือ หมายตั้งเป้าระดมตำรวจให้ได้ 8 หมื่นคน เพื่อมาสลายผู้ชุมนุมภายในวันที่ 11 ม.ค.นี้
 
ซึ่งช่วงนั้นเป็นงานวันเด็ก ขอให้ตำรวจเลิกคิด หากทำรุนแรงกับประชาชน เหมือนกับเหตุการณ์ที่ดินแดงอีกหนเดียว พวกคุณอยู่ประเทศไทยไม่ได้ นี่ไม่ได้ขู่ ตนพูดทุกครั้งเรารังเกลียจเฉพาะตำรวจชั่ว ซึ่งมีไม่กี่คนในประเทศนี้นับหัวได้เลย

              
นายสุเทพกล่าวต่อว่า อยากขอวิงวอนตำรวจทั่วประเทศอย่าหูเบา เชื่อคำยุยุง ขอให้ฟังคำปราศรัยของผมว่ารังเกียจเฉพาะตำรวจชั่วเท่านั้น
 
แต่เป็นกำลังใจให้ตำรวจดี อย่างไรก็ตามขอบอกผบ.ตร.ว่าหากนำตำรวจมาแสนคนก็ไม่สามารถปราบผู้ชุมนุมได้ เพราะการชุมนุมครั้งนี้จะมีหลายล้านคน และขอประกาศว่าเราไม่ต้องการสู้รบกับตำรวจหรือเจ้าหน้าที่คนไทน เพราะเราไม่ได้มาสู้กับเจ้าหน้าที่ แต่มาสู้กับระบอบทักษิณ ขอให้พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อย่าเป็นศัตรูกับประชาชน ตนไม่เชื่อ ผบ.ตร.จะมีเงินทองมากมายที่จะหนีประชาชนไปเสวยสุขอยู่ดูไบในบั้นปลายชีวิต ฉะนั้นอย่าเป็นศัตรูกับประชาชนเลย แก่เฒ่าปลดเกษียณแล้วอยู่ร่วมกับประชาชนชาวไทย มีความสุขกว่าที่จะไปตายอยู่ต่างประเทศ เชื่อตนเถอะ