"เหลิม" เชื่อ "กปปส." ปิดกรุงเทพฯ ไม่สำเร็จ ระบุ “สุเทพ “ ไม่ใช่ขวัญใจคนกรุง เตรียมเสนอตั้งสภาปฏิรูปจากทุกจังหวัด-นักวิชาการ รวม 99 คน เร่งแก้รธน. ก่อนเลือกตั้งใหม่ สะกิดเตือน "สมชัย" เป็นกกต. ไม่ใช่พีเน็ต
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1ม.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน
ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย ที่สมบูรณ์โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ให้สัมภาษณ์จะปิดกรุงเทพฯในวันที่ 13 ม.ค. นี้ ว่า ตนได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้วรู้สึกหนักใจ เพราะคนกรุงเทพฯ จะเดือดร้อน แต่ไม่เชื่อว่านายสุเทพจะมีอิทธิพล ที่จะดำเนินการเรื่องดังกล่าวได้ และตนไม่ทราบว่านายสุเทพไปเอาอิทธิฤทธิ์ อิทธิเดชมาจากไหนถึงได้กล้าประกาศเช่นนี้ เพราะในที่ชุมนุมนั้นตามข้อมูลทราบ ว่า มีการขนคนมาจากภาคใต้ 70-80 เปอร์เซ็นต์ เป็นคนกรุงเทพฯแค่ 20 เปอร์เซ็นต์และนายสุเทพไม่มีอิทธิพลทางจิตใจต่อคนกรุงเทพฯขนาดนั้น จะมีก็แต่คนปักษ์ใต้และคนสุราษฎร์ธานีเท่านั้น
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า กปปส.เป็นหน่วยงานเถื่อน ไม่มีใครรองรับ การปราศรัยบนเวทีก็มีคนเขียนสคริปให้ และใช้คำที่ไม่สมควรพูดในการปราศรัยอีก
จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า จังหวัดที่รับสมัครเลือกตั้งไม่ได้คนของพรรคประชาธิปัตย์ขัดขวางทั้งนั้น และตนขอถามว่า การที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จังหวัดให้ย้ายสถานที่รับสมัครไปยังค่ายทหารนั้นผิดกฎหมายข้อใด
" ผมขอฝากไปถึงนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการกกต. ด้านการบริหารจัดการเลือกตั้ง ว่า วันนี้คุณเป็นกกต.ไม่ได้เป็นพีเน็ตและหากไม่ต้อง การจัดการเลือกตั้งก็ให้ลาออกไป เพราะถ้า นายสมชัยลาออก คนอื่นก็ทำงานได้ให้เขาดำเนินการ เป็นกกต.จะต้องตรงไปตรงมา เพราะทางการเมือง เมื่อถึงเวลาไม่มีใครกลัวใคร และในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ระบุว่าหากเลือกตั้งได้ไม่ครบ 95 เปอร์เซ็นต์ยังเปิดสภาไม่ได้ และต้องดำเนินการเลือกตั้งจนกว่าจะได้ครบ โดยรัฐธรรมนูญให้เวลาในกรอบ 180 วัน ซึ่งผมมีวิธีดำเนินการให้การเลือกตั้งในช่วงเวลาดังกล่าวสำเร็จจนได้ เพียงแค่ขอให้ใช้ผม มั่นใจว่าสถานการณ์ต้องดีกว่าเดิม เพราะหัวใจคน น้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน แล้วบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ คนก็ต้องเห็นด้วย ” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ตนจะเสนอต่อที่ประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) และนายกรัฐธมนตรีว่า
ให้มีการตั้งสภาปฏิรูปโดยให้กกต.ดำเนินการเป็นตัวแทนจากจังหวัดละคน รวมกับนักนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ นักปราชญ์ และราชบัณฑิตให้ได้ 99 คนเพื่อดำเนินการยกร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อยกร่างเสร็จแล้วต้องสอบถามความคิดเห็นของประชาชน แล้วจึงยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่
เมื่อถามว่าหากนายสมชัยลาออกการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.อาจต้องยืดออกไปอีกหรือไม่
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ดูทรงแล้วเขาก็ต้องการอย่างนั้นไม่ใช่หรือ เขารวมหัวกันเกินไป ประเทศไม่สงบทุกวันนี้เป็นเพราะใครก็เห็นกันอยู่ หากต้องการไม่ให้มีการเลือกตั้งก็ทำไป รัฐบาลก็จะรักษาการไปอย่างนี้ ตนยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีไม่ลาออก อย่ามาคิดบีบให้รัฐบาลลาออก ส่วนจะปฎิวัติหรือไม่นั้น เวลาจะปฏิวัติกันไม่มีใครรู้ ตัดสินใจแค่ 15 นาทีเท่านั้น
เมื่อถามถึงกรณีชายชุดดำบนดาดฟ้าอาคารกระทรวงแรงงานในวันที่มีการปะทะกันที่หน้าศูนย์กีฬาเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นดินแดง
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า คนที่เห็นในภาพกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มคนฝ่ายผู้ชุมนุมที่ใช้สถานที่ตรงนั้นเป็นฐานในการยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ขึ้นไปง่ายเพราะบันไดขึ้นดาดฟ้านั้นอยู่นอกตัวอาคารเป็นที่โล่งขึ้นได้ง่าย ตนขอย้อนถามว่า จะมีตำรวจที่ไหนชั่วพอไปยิงตำรวจด้วยกัน เพราะถ้าทำตามที่ผุ้ชุมนุมกล่าวหาคนไทยคงต้องเหลือไม่ถึง 60 ล้านคน อย่างไรก็ตามในวันดังกล่าว พอตนทราบว่ามีคนอยู่บนดาดฟ้า ก็ได้สั่งการปลัดกระทรวงให้ดำเนินการไล่คนเหล่านั้นลงมา
“ ผมขอวิเคราะห์อนาคตไว้ล่วงหน้าเลยว่า อนาคตนายสุเทพ ต้องไปสู่ชะตากรรมเดียวกันกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาธิปไตยเพื่อประชาชน (พธม.) ส่วนจะจริงเท็จอย่างไรผมไม่รู้ ถ้านายสุเทพ ยังเดินทรงนี้ เดินต่อไปอย่างนี้ในประเทศไทยคงไม่มีใครกล้า เหมือนที่ครั้งหนึ่งนายสนธิ กล้าจนถูกยิงร้อยกว่านัด สุดท้ายจบด้วยวิธีการอย่างนี้แน่ ฝากไปบอกนายสุเทพด้วยว่า เฉลิมเตือน ” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว.