นพดล เย้ยนายกฯลงนาม JTEPA ผลงาน ทักษิณ

แอ้ดละเมิดสิทธิมนุษยชน แฉขบวนการตบทรัพย์ในสนามบินสุวรรณภูมิ หลังบ้านผู้มีอำนาจเรียกรับค่าหัวคิวช่อง 5

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและครอบครัวชินวัตร แถลงตอบโต้กรณีที่พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อญี่ปุ่นถึงปัญหาของรัฐบาลชุดที่ผ่านมาว่า ได้หารือกับพ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมาซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ติดตามการให้สัมภาษณ์ของพล.อ.สุรยุทธ์ พร้อมฝากมาว่าขอให้พูดเชิงบวกกับรัฐบาลที่ผ่านมาและควรทำตัวเหมือนผู้นำของประเทศ

พ.ต.ท.ทักษิณ งดให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศและพูดเชิงบวกกับพล.อ.สุรยุทธ์ แต่สิ่งที่พล.อ.สุรยุทธ์ทำ กลับทำตรงกันข้าม แทนที่จะพูดเชิงบวกกับประเทศ กลับโจมตีรัฐบาลชุดก่อนในเรื่องที่ไม่มีมูล

ก็อยากเรียกร้องให้พล.อ.สุรยุทธ์ ทำในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้การลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทยและญี่ปุ่น เป็นผลงานของรัฐบาลที่แล้ว พล.อ.สุรยุทธ์ ทำเพียงบินไปเซ็นต์สัญญา แต่ความสำเร็จของงานไม่มีการให้เครดิตกับรัฐบาลที่แล้ว เปรียบไปก็เหมือนอาหารเสริฟพร้อมทาน พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นเพียงคนมานั่งรับประทานภายหลังและระหว่างนั่งทานก็ยังพูดให้แขกฟังถึงความไม่ดีของรัฐบาลที่แล้ว

สิ่งที่พล.อ.สุรยุทธ์ พูด ถือเป็นเรื่องซ้ำซากซึ่งพล.อ.สุรยุทธ์ คงไม่มีประเด็นเชิงบวกหรือความสำเร็จของรัฐบาลที่จะพูดเท่าไหร่ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาภาคใต้ และความนิยมที่ลดลง ความจริงคนญี่ปุ่นอยากรับฟังว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างไร จะดำเนินการคืนประชาธิปไตยให้ประเทศอย่างไร

ก็ยังมีการทุจริตอยู่มากในสนามบินสุววรรณภูมิก็ทราบว่ามีการตบทรัพย์นักธุรกิจหลายรายแม้แต่การทุจริตเล็กน้อย ๆ ผ่านรายการทีวี ช่อง 5 ที่ผู้จัดรายการหลายคนมาบ่นว่ามีหลังบ้านของผู้มีอำนาจไปเรียกร้องขอแบ่งเปอร์เซ็นต์จากเงินที่ขอทำรายการ จึงอยากให้รัฐบาลเข้าไปตรวจสอบ ทั้งนี้ตนไม่มีเทปบันทึกการสนทนา ไม่มีจดหมายขอให้จ่ายคอมมิสชั่น แต่มีนักธุรกิจที่เดือดร้อน

นายนพดล กล่าวว่า เป็นนักธุรกิจที่เกี่ยวข้อง แต่ตนไม่อยากพูดให้ชัดเจนแต่ต้องการสะท้อนให้เห็นว่าขณะนี้ยังเกิดการคอร์รัปชั่นอยู่

นายนพดล กล่าวว่า เป็นคนที่มีอำนาจที่เกี่ยวข้องโดยตรง เป็นกลุ่มบุคคลที่กินเอง อาจจะไม่อยู่ในกรรมการโดยตรงแต่อยู่ในส่วนที่รับผิดชอบเรื่องนี้และตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ด้วย

สำหรับข้อกล่าวหาเรื่องการครอบงำสื่อ ความจริงแล้วตอนนี้มากกว่าถึงขั้นทุบสื่อด้วยซ้ำโดยคมช.เรียกผู้สื่อข่าวเพื่อห้ามการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับอดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคไทยรักไทย การปิดเว็บไซต์ รวมถึงการเลือกปฏิบัติระหว่างพีทีวีและเอเอสทีวี

อย่างไรก็ตามกรณีที่พล.อ.สุรยุทธ์ ระบุว่าการเดินทางกลับประเทศของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่องยากเพราะอยู่ในฐานะของผู้ที่ทำให้เกิดความวุ่นวายว่า พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถกลับประเทศไทยได้ตามสิทธิทางกฎหมาย

เพราะอยากให้สถานการณ์ภายในประเทศผ่านพ้นไประยะหนึ่ง และเป็นสัญญาสุภาพบุรุษระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ และพล.อ.สุรยุทธ์ ว่าจะไม่เคลื่อนไหวและยังไม่กลับในช่วงเลือกตั้งเพื่อไม่เกิดปัญหา

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก