กลุ่มวันเสาร์ฯกร้าวยันล่าชื่อถวายฎีกาถอดปธ.องคมนตรี

"กลุ่มวันเสาร์ฯ"กร้าวยันล่าชื่อถวายฎีกาถอดปธ.องคมนตรี


"กลุ่มวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ" แถลงเดินหน้าล่าชื่อถวายฎีกาถอดถอน"พล.อ.เปรม"จากองคมนตรี ย้ำครบ1แสนชื่อยื่นทันที จี้ลาออกก่อนเพื่อแสดงความรับผิดชอบ เหตุฝักใฝ่การเมือง

ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ เมื่อเวลา 10.00 น. กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ออกแถลงการณ์เรื่อง "เจตนาในการเข้าชื่อถอดถอน พลเอกเปรม ติณสูลานนท์" โดยมีนายนายวิภูแถลง ภูมิพัฒนไทย โฆษกกลุ่มคนวันเสาร์ ไม่เอาเผด็จการ นายนพพร นามเชียงใต้ แกนนำรวมรวมรายชื่อทูลเกล้าถวายฎีกา นายสุชาติ ตันติธนไพศาล เลขาธิการกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ร่วมแถลง


นายวิภูแถลง กล่าวว่า กลุ่มคนวันเสาร์ฯ ต้องการแถลงเพื่อทำความเข้าใจกับสาธารณะ


เนื่องจากการรวบรวมลายชื่อเพื่อถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้มีพระบรมราชวินิจฉัย โปรดเกล้าพระบรมราชโองการปลด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พ้นจากตำแหน่งประธานองคมนตรีและองคมนตรี

โดยทางกลุ่มคนวันเสาร์ถูกบิดเบือนว่า ได้กระทำการจาบจ้วง หรือเป็นการกระทำที่มิบังควร ทั้งนี้ตนเชื่อว่า การบิดเบือนดังกล่าวเป็นเครื่องมือของเผด็จการทหารที่ใช้การกล่าวหาฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ว่ามีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาเป็นเครื่องมือทำลายระบอบประชาธิปไตย จากอดีตที่ผ่านมาจะกล่าวหาฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งปัจจุบันข้อกล่าวหานี้เก่า จนไม่ได้ถูกนำมาใช้แล้ว

อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าทางกลุ่มไม่ได้มีเจตนาที่จะทำการใดๆ ให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท หรือก้าวล่วงพระราชอำนาจ

นายวิภูแถลง กล่าวอีกว่า ขณะนี้กลุ่มได้รวบรวมรายชื่อเป็นจำนวน 1 หมื่นรายชื่อแล้ว โดยได้เตรียมการถวายฎีกาไว้ 3 ขั้นตอน คือเมื่อรวบรวมรายชื่อได้ครบ 3 หมื่นรายชื่อ จะส่งสัญญาณเตือนไปยังพล.อ.เปรม ได้ตระหนักบทบาทในฐานะที่เป็นประธานองคมนตรี แต่มีท่าทีเป็นภัยต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จากนั้นเมื่อครบ 5 หมื่นชื่อจะเรียกร้องให้ พล.อ.เปรม ลาออกจากประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษทันที และเมื่อครบ 1 แสนชื่อ จึงจะนำรายชื่อกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


นายวิภูแถลง กล่าวต่อว่า พล.อ.เปรม ควรกราบถวายบังคมลาออก


จากประธานองคมนตรี องคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และประเทศชาติ มิให้ตำแหน่งดังกล่าวแปดเปื้อน และได้รับการเข้าใจผิด เพราะได้แสดงบทบาทที่ไม่บังควรต่อตำแหน่งดังกล่าว โดยได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร อันเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย

นายวิภูแถลง กล่าวถึงกรณีที่ถูกมองว่า ได้รับท่อน้ำเลี้ยงจากอดีตรัฐบาลชุดที่แล้วว่า กลุ่มคนวันเสาร์ฯขอยืนยันที่จะเดินหน้าจัดการชุมนุมเรียกร้อง จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย โดยอยากชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าหรือแม้แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือทหารในกองทัพ ให้ช่วยกันสนับสนุนเงินทุน เพื่อช่วยกันเรียกร้องให้เกิดระบอบประชาธิปไตย ไม่น่าจะเสียหายตรงไหน เพราะทางกลุ่มยินดีที่จะชุมนุมร่วมกับอีก 12 กลุ่มที่ต้านรัฐประหาร อย่างไรก็ตามทางกลุ่มคนวันเสาร์ฯ ขอเรียกร้องให้ คมช.และรัฐบาล ที่มาจากการแต่งตั้ง เร่งคืนอำนาจให้กับประชาชน โดยนำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนฉบับ 2540 มาใช้แทน โดยกำหนดให้มีการเลือกตั้งภายใน 90 วัน

นายสุชาติ กล่าวว่า พล.อ.เปรม มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ก่อการรัฐประหาร ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยมีหลักฐานภาพถ่ายการปรากฏตัวของพล.อ.เปรม พร้อมด้วยผู้ก่อการรัฐประหาร ในเที่ยงคืนของวันที่ 19 กันยายน2549 ซึ่งเชื่อว่าภาพดังกล่าวเป็นการอ้างโดยคณะรัฐมนตรีว่า เป็นการเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ อย่างไรก็ตามทางกลุ่มคนวันเสาร์เชื่อว่า พล.อ.เปรม เป็นบุคคลหนึ่งที่เฝ้ารายงานการก่อรัฐประหาร ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีประเพณีให้ประธานองคมนตรีทำแบบนี้มาก่อน


นายนพพร กล่าวว่า การรวบรวมรายชื่อเพื่อถวายฎีกา


ต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นสิทธิที่ประชาชนทำได้ เมื่อได้รับความไม่เป็นธรรมจากขุนนาง หรือข้าราชบริพาร ซึ่งหากมีพระบรมราชวินิจฉัยเป็นประการใด กลุ่มคนวันเสาร์ฯ ก็ขอน้อมรับใส่เกล้าใส่กระหม่อม ในฐานะพสกนิกรที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้การถวายฎีกามีจารีตประเพณีรองรับ ไม่เป็นการละเมิดพระราชอำนาจแต่ประการใด

นอกจากนี้ กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการยังได้อ่านแถลงการณ์ โดยระบุสาเหตุจากกรณีกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการตกเป็นข่าว ว่าได้รณรงค์ล่ารายชื่อถอนถอน พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จนอาจทำให้สังคมมองกลุ่มคนวันเสาร์ฯว่า มีพฤติกรรมที่มิ บังควรกลุ่มคนวันเสาร์

เนื้อหาแถลงการณ์ระบุว่า กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ขอชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยความบริสุทธิ์ใจดังต่อไปนี้

ข้อที่ 1 กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการมีความรู้สึกเช่นเดียวกับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศว่าพระบรมเดชานุภาพและพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่ดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสูงสุด ผู้ใดจะละเมิดมิได้การกระทำใดๆ ก็ตามของกลุ่มคนวันเสาร์และพสกนิกรของพระองค์ทุกคน ทางกลุ่มได้ตระหนักดีว่าตำแหน่งประธานองคมนตรีและองคมนตรีทุกท่าน เป็นการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งตามพระราชอัธยาศัยจึงไม่เจตนาใดๆ ที่ก้าวล่วงต่อพระราชอำนาจแต่อย่างใดทั้งสิ้น



ข้อที่ 2. ปรากฏว่าในขณะนี้บุคคลที่ไม่ปรารถนาดีได้พยายามที่บิดเบือนเจตนารมณ์อันบริสุทธ์ของกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ที่ต้องการปกป้องระบอกประชาธิปไตยและต่อต้านเผด็จการว่าได้กระทำการอันเป็นการล่วงพระราชอำจานทั้งที่พวกเรามิได้มีเจตนาเช่นนั้นเป็นแต่เพียงกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เห็นด้วยกับการที่พลเอกเปรม ที่เป็นพลเมืองไทยคนหนึ่งได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางการเมืองเป็นการทำลายระบอกประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ที่สำคัญที่สุดคือได้ทำให้คนทั้งหลายเกิดความสับสนเนื่องจากได้กระทำการดังกล่าวในขณะที่ดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษอยู่กลุ่มคนวันเสาร์จึงเห็นว่าพลเอกเปรม ได้แสดงบทบาทในทางที่ไม่บังควรตำแหน่งสำคัญดังกล่าวทั้งสองตำแหน่ง ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะตัวที่กระทำการไม่เหมาะสม หาใช่เรื่องของตำแหน่งประธานนองคมนตรีและรัฐบุรุษ ซึ่งเป็นฐานะอันสูงไม่ เราจึงเห็นว่าพลเอกเปรม ควรที่จะแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว ให้สมกีบการกล่าวอ้างของท่านที่มีอยู่เสมอว่าเป็นผู้ที่มีความจงรักภักดีอย่างสูงสุด

ทางกลุ่มคนวันเสาร์จึงขอเรียกร้องให้พลเอกเปรม แสดงความรับผิดชอบต่อสาบันพระมหากษัตริย์และประเทศชาติด้วยการกราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่งประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เพื่อมิให้ตำแหน่งดังกล่าวนั้นต้องแปดเปื้อนเพราะการกระทำของท่านต่อไปมือ จึงเรียนมาเพื่อกรุณาทราบและเข้าใจในเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ของกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ

จาก หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์