'นพดล' วอนหยุดเรียกร้องให้ 'นายกฯ' ละเมิดรธน.ด้วยการลาออกจากรักษาการนายกฯ
12 ธ.ค.56 นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ กปปส.เรียกร้องให้นายกฯ ลาออกจากรักษาการนายกฯ รวมถึงมีการเสนอให้ป.ป.ช.ลัดขั้นตอนการพิจารณาเรื่องถอดถอนส.ส.และส.ว.ว่า การอ้างมาตรา 3 ของรัฐธรรมนูญของนายสุเทพ และกปปส.ว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย จึงขอให้นายกฯคืนอำนาจให้กปปส.นั้น เป็นการแอบอ้างเสียงของประชาชนทั้งประเทศ เพราะปวงชนชาวไทยคือประชาชน 65 ล้านคน ไม่ใช่เฉพาะที่มาชุมนุมกับนายสุเทพ
นอกจากนี้ ขณะนี้มีพระบรมราชโองการกำหนดวันเลือกตั้งแล้ว คนไทยควรนำพระบรมราชโองการใส่เกล้าใส่กระหม่อมและแสดงความจงรักภักดีโดยการปฏิบัติตาม เดินเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไป
ทั้งนี้ ในพระราชกฤษฎีกามาตรา 5 กำหนดว่า ให้นายกฯ รักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ดังนั้น นายกฯจึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามพระบรมราชโองการ จะลาออกจากการรักษาการไม่ได้ อีกทั้งรัฐธรรมนูญมาตรา 181 กำหนดด้วยว่า คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ ดังนั้น ถ้านายกฯ ลาออกถือว่าละเว้นปฏิบัติหน้าที่ มีความผิดตามกฎหมายอาญา
นายนพดล กล่าวอีกว่า หลักการประชาธิปไตย 1 คน 1 เสียง เป็นหลักการที่คำนึงถึงสิทธิมนุษยชนและใช้กันทั่วโลก
ในอดีตหลายประเทศเคยให้สิทธิผู้ชายมากกว่าผู้หญิง คนผิวขาวมากกว่าคนผิวดำ แต่ก็ต้องยกเลิกหลักการนี้ไป ให้ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้นการที่มีอธิการบดีบางคน หรือดร.เสรี วงษ์มณฑา บอกว่า 3 แสนเสียงในกรุงเทพฯ เป็นเสียงที่มีคุณภาพ ย่อมดีกว่า 15 ล้านเสียงในต่างจังหวัดแต่ไร้คุณภาพนั้น เป็นการต่อต้านหลักการประชาธิปไตยและถอยหลังเข้าคลอง ส่วนกรณีที่นายกล้านรงค์ จันทิก อดีตป.ป.ช. เสนอให้ ป.ป.ช.ลัดขั้นตอนชี้มูลในกรณีถอดถอนส.ส.และส.ว.312 คนนั้น สะท้อนความเป็นตัวตนและสภาพจิตใจของนายกล้านรงค์ที่ฝ่ายประชาธิปไตยสงสัยมาตลอดตั้งแต่ยึดอำนาจปี 2549 แล้วว่า คดีที่สอบสวนพ.ต.ท.ทักษิณและฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นกลางและมีอคติหรือไม่ ต้องขอบคุณที่แสดงตัวตนก่อนวันเลือกตั้งอย่างชัดเจน หวังว่าป.ป.ช.คงพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยขอให้พรรคการเมืองแต่ละฝ่ายนำเสนอนโยบายต่อมวลมหาประชาชน 65 ล้านคนในการเลือกตั้งครั้งนี้ และหวังว่ามวลมหาประชาชนที่ถนนราชดำเนินและ กปปส.จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งกับคน 48 ล้านคน ในวันที่ 2 ก.พ.2557 เพื่อหาทางออกให้ประเทศอย่างสันติด้วย
อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยขอขอบคุณมิตรประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจีน สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ เยอรมัน และออสเตรเลีย ที่สนับสนุนการแก้ไขปัญหาโดยสันติ และให้ทุกคนเคารพกระบวนการประชาธิปไตยโดยการเลือกตั้ง