สตช.ยึดคำตัดสินศาลปกครอง ส่งต่อ ป.ป.ช.เชือด! ทักษิณ

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 28 มีนาคม 2549 13:19 น.

โฆษก สตช.ยืนยันคำเดิม ไม่รับสอบสวนคดีพันธมิตiแจ้งจับทักษิณและพวก โดยอ้างเหตุเป็นคดีที่ศาลปกครองมีคำพิพากษาออกมาสมบูรณ์ที่สุดแล้วว่ามีความผิด ตำรวจไม่จำเป็นต้องสอบสวนอีก และ ผบ.ตร.ได้ลงนามส่งเรื่องให้ เลขาฯ ป.ป.ช.รับไปดำเนินการแล้วตั้งแต่วานนี้

วันนี้ (28 มี.ค.) เวลา 11.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะโฆษกสำนักงานแห่งชาติ แถลงกรณีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำตัดสินว่าการออกกฎหมายแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และบทบัญญัติอื่นที่เกี่ยวข้อง

โดย พล.ต.ท.อชิรวิทย์ ยังคงยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ตามมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ซึ่งระบุว่าในกรณีที่มีผู้เสียหายกล่าวหาว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือข้าราชการการเมืองอื่นร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่นให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. รวมทั้งมาตรา 308 และ 309 ตามรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ และหลังจากรับเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว เมื่อวานที่ผ่านมา พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ได้ลงนาม พร้อมมีหนังสือส่งเรื่องไปที่เลขาธิการ ป.ป.ช.เพื่อให้ดำเนินการตามที่กลุ่มพันธมิตรกล่าวโทษ

สำหรับเหตุผลที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีมติไม่รับทำการสอบสวนและให้ส่งไปที่ ป.ป.ช.นั้น พล.ต.ท.อชิรวิทย์ ชี้แจงว่า เนื่องจากคดีนี้ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาออกมาสมบูรณ์ที่สุดแล้วว่ามีการกระทำความผิด ดังนั้น พนักงานสอบสวนไม่มีความจำเป็นต้องไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมอีก จึงให้ส่งเรื่องพร้อมคำพิพากษาไปที่ ป.ป.ช.ดำเนินการตามขั้นตอนได้เลย ซึ่งหาก ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่าข้อกล่าวหามีมูล ก็ส่งเรื่องให้อัยการเพื่อฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.อชิรวิทย์ ยังได้ยกคดีอื่นๆ ขึ้นมาเทียบในการแถลงข่าวชี้แจงในครั้งนี้ด้วย เช่น คดีที่คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัติย์ ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นเบื้องสูง คดีทุจริตลำไย ที่มีทั้งบุคคลธรรมดา และข้าราชการการเมือง คดีของนายรักเกียรติ สุขธนะ และคดีที่ดีเอสไอดำเนินคดีกับนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. โดย พล.ต.ท.อชิรวิทย์ ย้ำว่าคดีดังกล่าวไม่เหมือนกับคดีที่แกนนำพันธมิตรกล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมยืนยันว่าตำรวจไม่ได้เลือกปฏิบัติ แต่เป็นเรื่องของขอบเขตอำนาจหน้าที่จึงได้ส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.แล้วเมื่อวานที่ผ่านมา

ส่วนกรณีที่ ทางแกนนำกลุ่มพันธมิตรจะเข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีต่อ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิที่จะสามารถทำได้ โดยจะมอบหมายให้เลขานุการ ผบ.ตร.เป็นผู้รับเรื่องไว้ และจะทำการพิจารณาต่อไปว่าจะรับดำเนินคดีหรือไม่

โฆษก สตช.ยังเปิดเผยถึงมาตรการรองรับปัญหาการจราจรที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ หลังจากกลุ่มพันธมิตรจะมาชุมนุมหน้าสยามพารากอนว่าได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการพิเศษไว้รับมือแล้ว จำนวน 3 กองร้อย เพื่อเสริมกำลังกับตำรวจท้องที่ ส่วนการดูแลการจราจรทางผู้บังคับการตำรวจจราจร ได้ชี้แจงไว้ว่าจะดำเนินการดูแลจราจรเป็นพิเศษเนื่องจากคาดว่าการจราจรจะติดขัด แต่ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ชุมนุมว่ามีมากน้อยแค่ไหน ส่วนจะมีการปิดการจราจรหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์การชุมนุม