ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในวันที่ 27 พ.ย.
ซึ่งเป็นวันที่สองของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยการรักษาความปลอดภัยที่บ้านพักซอยโยธินพัฒนา 3 ยังคงเข้มงวดเช่นเดิม ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้เดินทางออกจากบ้านพักเมื่อเวลา 09.05 น. โดยเดินทางมายังอาคารรัฐสภาในเวลา 09.47 น. พร้อมใหัสัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงเดินสายปิดทุกกระทรวงโดยไม่สนใจกฎหมายและคำสั่งศาลว่า วัตถุประสงค์ของรัฐบาลในการประกาศขยายพื้นที่พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เราต้องการประกาศเพื่อที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถทำงานได้ รวมทั้งการเข้าไปปกป้องสถานที่ราชการ สาธารณูปโภคต่างๆ
นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลประกาศใช้พ.ร.บ.ไม่ใช่ต้องการทำร้ายประชาชน
แต่อยากใช้วิธีสันติ รัฐบาลและตำรวจไม่มีอาวุธ ยืนยันว่าไม่มีการใช้ความรุนแรงกับประชาชน แต่อาจมีความเดือดร้อนบ้าง หากการยืดเยื้อแต่ไม่อยากเห็นการใช้กำลังความรุนแรง จึงได้ขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความอดทนให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ขอความกรุณาและขอร้องผู้ชุมนุม อย่าปิดสถานที่ราชการต่างๆ เพราะจะมีผลกระทบเกิดความเสียหายต่อส่วนรวม
“การที่ผู้ชุมนุมที่มีความเห็นต่างจากรัฐบาลก็ควรจะมานั่งคุยกัน ข้อเรียกร้องต่างๆ ของผู้ชุมนุมก็ควรจะจบโดยการมานั่งพูดคุยกันในข้อกฎหมายต่างๆ ซึ่งเวทีที่รัฐบาลได้เปิดไว้เป็นเวทีที่สามารถมาพูดคุยกัน ถ้าไม่เช่นนั้นข้อเสนอต่างๆ ของผู้ชุมนุมก็คงไม่สู่ผลของการปฏิบัติได้ เราควรจะมาร่วมกันรับฟังอะไรที่เป็นประโยชน์กับส่วนรวมและประชาชนส่วนรวม รัฐบาลพร้อมให้ความร่วมมืออยู่แล้ว การปิดสถานที่ราชการจะทำให้ประชาชนทั้งประเทศเดือดร้อน ทั้งนี้ได้ย้ำไปยังผวจ.ทุกจังหวัด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลปกป้องสถานที่ราชการแต่ยืนยันว่าจะไม่มีการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมตามที่มีข่าวลือต่างๆอย่างมากในขณะนี้”
นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลนี้มาจากประชาชน ไม่เคยมีความคิดจะให้ใครไปทำร้ายประชาชน การดำเนินการทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ซึ่งวันเดียวกันนี้ ตนได้เรียกประชุมปลัดกระทรวงฯ และหัวหน้าหน่วยราชการทุกกระทรวงที่สภาฯ ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อตอบ ตรวจสอบ ซักถามในรายละเอียดและทำอย่างไรให้หน่วยราชการทุกกระทรวงสามารถให้บริการและดูแลประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรีเข้าใจข้อเรียกร้องการโค่นล้มระบอบทักษิณของฝ่ายผู้ชุมนุมหรือไม่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “ดิฉันไม่เข้าใจคะ เรียนว่าระบอบทักษิณไม่เคยมี ความจริงแล้วมีแต่ระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีแต่การดำเนินการตามขั้นตอน วันนี้หากไม่เข้าใจก็มาคุยกันเถอะคะ”
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์จะตั้งสภาประชาชน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า สภาฯ ประชาชนจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องมีในเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ สุดท้ายต้องมาพูดคุยกันในเรื่องข้อกฎหมายซึ่งก็ต้องมาทำงานร่วมกับรัฐบาลอยู่ดี จึงอยากเห็นเวทีการมาพูดคุยกันดีกว่า อะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเราต้องรับฟังเสียงของประชาชนซึ่งอะไรที่เป็นประโยชน์โดยรวม รัฐบาลก็ยินดีอยู่แล้ว เพื่อให้ประเทศได้มีการปรับปรุงและพัฒนาไปข้างหน้า
เมื่อถามว่าแต่วันนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้ำเส้นการเจรจาไปแล้วและกลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ยอมรับฟังเงื่อนไข นายกรัฐมนตรีคิดว่าจะฝ่าฟันอุปสรรคไปได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราต้องยืนบนหลักสันติ อย่าถือว่าการล้ำเส้นนี้จะมีใครชนะหรือใครแพ้ “วันนี้ไม่มีใครชนะหรือใครแพ้ มีแต่ประเทศเจ็บปวด และประชาชนคนไทยเจ็บปวด รัฐบาลไม่มีทิฐิใดๆทั้งสิ้น”
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสุเทพ ประกาศจะไม่พูดคุยกับรัฐบาลและไม่ยอมรับอำนาจศาลในการออกหมายจับ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อย่างน้อยเราคงต้องมีการยึดกติกาในการทำงานร่วมกัน และอยากขอความเห็นใจในเรื่องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศที่วันนี้หลายๆ ประเทศเริ่มส่งสัญญาณเตือนมายังประเทศ และความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ และผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน
เมื่อถามว่าพ.ร.บ.มั่นคง ที่ประกาศใช้ในขณะนี้ ยังควบคุมสถานการณ์ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ยังไม่จำเป็นต้องนำกฎหมายอื่นมาใช้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
