“นพดล”เหน็บ ศาล รธน.ทำตัวเป็นซุปเปอร์องค์กร สถาปนาอำนาจให้ตนเอง ใช้อำนาจเหนือองค์กรอื่น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย สุ่มเสี่ยงละเมิดสิทธิ์ของปชช.เผย “เพื่อไทย” จะเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน
เมื่อวันที่ 22 พ.ย. นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
กล่าวว่าถ้าวันนี้ผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ ในยุโรปเดินทางมาเมืองไทย และได้ฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 20 พ.ย. คงต้องตกใจ เพราะไม่มีประเทศใดในโลก ยอมให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นซุปเปอร์องค์กร เหนือรัฐธรรมนูญ และสถาปนาอำนาจให้ตนเองได้ เพราะจะสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และใช้อำนาจเหนืออำนาจอื่น ดังนั้นคำตัดสินครั้งนี้จึงมิชอบด้วยกฎหมายหลายประการ
อาทิ 1.ตุลาการ 5 คนไม่มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญปี 50 ที่จะเข้าไปวินิจฉัยการแก้รัฐธรรมนูญ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของรัฐสภาตามมาตรา291 การตัดสินจึงเป็นการสถาปนาอำนาจให้ตัวเองอย่างชัดแจ้ง 2.ศาลเน้นย้ำในคำตัดสินว่าประเทศต้องยึดหลักนิติธรรม แต่การใช้อำนาจนอกรัฐธรรมนูญถือเป็นการละเมิดหลักนิติธรรมด้วยตัวเอง 3. ศาลรัฐธรรมนูญกำลังจะยกระดับรัฐธรรมนูญปี 50 ให้เป็นเสมือนคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ตัวแทนประชาชนไม่อาจไปแก้ไขได้ 4. คำตัดสินดังกล่าวทำให้เห็นว่าการมอบอำนาจให้ประชาชนเลือก ส.ว.เข้ามาได้โดยตรง เป็นเรื่องที่ผิด และบอกว่าเป็นการได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองที่มิได้เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการวินิจฉัยที่ขัดเหตุผลและหลักการประชาธิปไตยอย่างชัดเจน
“ พรรคเพื่อไทยจะเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนทั่วประเทศถึงคำตัดสินของตุลาการเสียงข้างมาก 5 คน ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในหมู่นักกฎหมาย และจะมีพี่น้องผู้รักประชาธิปไตยจัดทำเอกสารและซีดีนับล้านแผ่น เผยแพร่ให้พี่น้องได้เข้าใจถึงหลักการประชาธิปไตย และการตัดสินของศาลที่มิชอบด้วยกฎหมาย และเป็นที่ชัดเจน ว่า ฝ่ายประชาธิปไตยต้องทำงานหนักมากขึ้น เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญคงจะเป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็งที่ต้องเตรียมมือรับกับการดำเนินการขององค์กรต่าง ๆ ที่จะตามมา แต่ตนก็เชื่อว่าความถูกต้องจะชนะในที่สุด ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศไทยของเรามีมาตรฐานทางกฎหมาย และมีความมั่นคงให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ต่อไป” นายนพดล กล่าว.