“อภิสิทธิ์”แนะรัฐบาลทำ 3 ข้อ สางปมปราสาทพระวิหาร ชี้ไม่ใช่เรื่องง่าย งง “ปึ้ง”ผุดกลไกเจซีถกร่วมกัมพูชา
เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 56 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกายแชแนล
ถึงคำพิพากษาศาลโลกในคดีปราสาทพระวิหาร ว่า คำพูดที่บอกว่า ไทยไม่เสียพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรก็มาจากคำตัดสินของศาลโลกเมื่อปี 2505 ส่วนพื้นที่ชะง่อนผาที่ศาลบอกว่าเป็นพื้นที่เล็ก ๆ จะเป็นพื้นที่เกินเลยออกมาจากรั้วลวดหนามเดิมของเรานั้น เมื่อคำนวณคร่าว ๆ โดยยังไม่มีการยืนยันตัวเลขที่ชัดเจนจะอยู่ที่ประมาณ 0.3 ตารางกิโลเมตร ซึ่งจุดนี้คือที่มาของฝ่ายที่บอกว่า เสียดินแดน ทั้งนี้สิ่งแรกที่รัฐบาลจำเป็นต้องทำคือ 1.บอกความจริงกับประชาชนเกี่ยวกับคำพิพากษาให้ครบถ้วน 2. ระมัดระวังในการจะแสดงท่าทีต่อคำพิพากษานี้ เพราะจะกระทบต่อกระบวนการเจรจาในอนาคต 3. กระบวนการเจรจาควรทำอย่างโปร่งใส ซึ่งเราเป็นห่วงเพราะรัฐบาลแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 190 จะทำให้ข้อตกลงอื่น ๆ ที่รัฐบาลอาจจะดึงเข้ามาผูกโยงกับเรื่องนี้ เช่นข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องพลังงาน
“ผมคิดว่าการดำเนินการตามที่ศาลชี้ออกมาไม่ค่อยง่าย เพราะยังไม่ได้ทำเส้นเขตแดน การที่จะอาศัยสภาพทางภูมิศาสตร์ ไม่แน่ใจว่าสภาพพื้นที่จริงจะเกิดปัญหาแค่ไหน และการที่ยังพูดถึงเส้น บอกว่าไม่เกินแผนที่ ซึ่งแผนที่เราก็ยืนยันในการต่อสู้ของเรา แล้วก็ในทางวิทยาศาสตร์ ก็ค่อนข้างชัดว่า เป็นแผนที่ซึ่งไม่สามารถที่จะนำมาตีเส้นจริงได้ นี่ก็เป็นประเด็นหนึ่งที่เราคัดค้านมาโดยตลอด ก็น่าจะยังเป็นปัญหาที่จะต้องมีการเจรจากันต่อไป” นายอภิสิทธิ์ กล่าวและว่ากระบวนการเจรจาแบบเดิมเราจะใช้รูปแบบคณะกรรมการเจบีซี แต่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ได้ตั้งกลไกใหม่มาใช้รูปแบบของเจซี ซึ่งต้องศึกษาว่ามีความแตกต่างจากรูปแบบเจบีซีอย่างไร
ส่วนที่มีกระแสการไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลโลกนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า
ไทยเป็นส่วนหนึ่งของสหประชาชาติ แต่หลายประเทศที่เป็นสมาชิกที่มีบทบาทสำคัญของสหประชาติทั้งรัสเซีย อเมริกา ก็ไม่ปฏิบัติตามมามากแล้ว ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญก็คือ รัฐบาลต้องระมัดระวังอย่างยิ่งในการแสดงท่าที เพื่อไม่ให้กระทบกับการเจรจาในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศต่อไป.