ศาลรธน.เสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 รับคำร้องแก้ไข รธน.ม.190 ให้อำนาจฝ่ายบริการทำหนังสือสัญญาโดยไม่ต้องผ่านสภานัดอ่านคำวินิจฉัยปมแก้ไขรธน.ที่มาส.ว. 20 พ.ย.
เมื่อเวลา 17.10 น. วันที่ 8 พ.ย. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสารผลการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องที่นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นเรื่องผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตามาตรา 68 ว่านายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพาณิช รองประธานรัฐสภา และรัฐสภา ที่กระทำการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2553 เนื่องจากการดำเนินการปิดอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา ขัดต่อรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ องค์ประชุมของรัฐสภาไม่ครบ การพิจารณาและลงมติร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวเป็นไปโดยมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย อีกทั้งยังมีการแก้ไขเนื้อหาในรัฐธรรมนูญมาตรา 190 วรรคสอง มีความมุ่งหมายที่จะจำกัดอำนาจของรัฐสภาในการพิจารณาให้ความเห็นชอบการทำหนังสือสัญญาของฝ่ายบริหารให้ลดน้อยลง ขณะเดียวกันการแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวยังเป็นการเพิ่มอำนาจให้ฝ่ายบริหารในการทำหนังสือสัญญาที่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทย โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาให้มากกว่าเดิม จึงถือว่าเป็นการกระทำเพื่อซึ่งอำนาจในการปกครองโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 68
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 เห็นว่า กรณีมีมูลเป็นการกระทำเพื่อซึ่งอำนาจในการปกครองโดยวิธีการ ซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง จึงมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณา ส่วนคำขอคุ้มครองชั่วคราวเป็นกรณีฉุกเฉินให้ยกคำร้อง ส่วนตุลาการเสียงข้างน้อย คือ นายบุญส่ง กุลบุปผา เห็นว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจของรัฐสภาตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ นายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี เห็นว่า กรณีนี้ยังไม่มีมูลการกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง และนายชัช ชลวร เห็นว่า รัฐธรรมนูญมุ่งประสงค์ให้เฉพาะอัยการสูงสุดเท่านั้น เป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย ผู้ทราบการกระทำดังกล่าวจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้โดยตรงตามมาตรา 68