นายขวัญชัย สาราคำ หรือ ไพรพนาผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่าเมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน ที่สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร 97.5 เม็กกะเฮิร์ต บ.หนองลีหู ต.สามพร้าว อ.เมือง นายขวัญชัย สาราคำ หรือ ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร และประธานชมรมคนรักภาคอีสาน 20 จังหวัด แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
กรณีทีมีการโพสต์ข้อความ พร้อมรูปภาพ ระบุว่า นายขวัญชัย รับเงินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 10 ล้านบาท ให้จ้างทหารกัมพูชา พร้อมอาวุธ เข้าไปป่วนม็อบต่อต้านรัฐบาลที่กรุงเทพฯว่า เรื่องนี้ ขอได้โปรดให้ความเป็นธรรม และอย่าประเมินตนต่ำเกิน ตนเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมืองในนามภาคประชาชนมา 8 ปี ไม่เคยนำปัจจัยเรื่องเงินมาเป็นตัวตั้ง และยืนยันเรื่องนี้มาโดยตลอด
“การปล่อยข่าวจากบุคคลที่มีระดับถึง นายพล ทำไมงี่เง่าถึงขนาดนี้ จะบอกว่าคุณเป็นควายก็ได้ เพราะคุณไม่มีข้อมูลอะไรเลย แต่กลับมาปล่อยข่าวออกมาให้คนเกลียดผม ให้คนในม็อบเกลียดชังขวัญชัย ให้นักเรียนช่างกลเกลียดชังและตามล่าผม นี่คือวิธีการที่สกปรกที่สุดที่คุณใช้กับผม ซึ่งผมขอบอกด้วยความสัตย์จริงว่า อย่าประเมินผมอย่างนั้น ที่ผมทำทำด้วยอุดมการณ์ และความจริงใจที่รักคนชื่อทักษิณ ชินวัตร รักระบอบประชาธิปไตย รักความยุติธรรม ผมจึงต้องขับเคลื่อนมวลชนแบบใจถึงใจ ฉะนั้นจะเห็นได้ว่า องค์กรภาคประชาชนในนามชมรมคนรักอุดร เมื่อขับเคลื่อนแต่ละครั้งเป็นกองทัพ ไปด้วยใจ อยู่กันตั้งแต่เริ่มจนจบ ไม่ใช่ไปแบบจ้างให้ไป ไม่มีจิตใจนักสู้ แบบนี้ไม่ใช่ ชมรมคนรักอุดรแต่ละคนมีหัวใจนักสู้ เสียสละ และมีอุดมการณ์”
นายขวัญชัยฯ กล่าวอีกว่า ตนขอยันยันว่า เรื่องนี้เป็นการกล่าวเท็จ และจะฟ้องร้องคนปล่อยข่าว โดยจะเข้าแจ้งความเอาผิดวันพรุ่งนี้ ( 8 พ.ย.) ถ้ามีอำนาจมาตรวจบัญชีของตนได้ หรือให้หน่วยงานไหนก็ได้มาตรวจสอบบัญชีของตน คนอย่างตนทำงานมีเงินก้อนหนึ่ง 3-4 แสนบาท ก็จัดเวที หมดก็หาใหม่ นี่คือวิธีการทำงาน ขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศให้เข้าใจตนด้วย
“ส่วนเรื่องภาพที่นำมาโพสต์ในโลกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค น่าจะเป็นภาพเมื่อปี 2552 ที่ทีมงานการ์ดนักรบชุดดำของเสธฯแดง มาพบผมที่ชมรมคนรักอุดร 200 กว่าคน ช่วงนั้นจึงได้ไปรับผู้ใหญ่ที่สนามบินอุดรธานี เป็นภาพเก่าที่ถูกนำมาใช้ในช่วงนี้ แล้วมาบอกว่าเป็นทหารเขมร ผมไม่เอาคนเขมรมาเพื่อจะมาฆ่าพวกคุณหรอก คุณบ้าไปใหญ่แล้ว ถ้าจะเอาคนไปฆ่าคุณทำไมต้องเอาคนเขมรด้วย คุณคิดอะไรกันอยู่ มาสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในหัวใจคนไทย วันนี้ความงดงามของจิตใจคนไทยหายไปไหนหมด ความเอื้ออาทร ความเอื้ออารี ความมีน้ำใจ มันหายไปไหนหมด เรื่องที่เกิดอภัยให้กันไม่ได้หรือ เลิกคิด เลิกแค้น เลิกอาฆาตพยาบาท เลิกชิงชังกันได้แล้ว หันหน้ามาปรองดองจับมือกันพัฒนาประเทศ ช่วยกันพาประเทศไทยเดินไปข้างหน้าไม่ดีกว่าหรือ ฉะนั้น ขอยืนยันว่า การที่จะนำกองทัพทหารเขมร มาสะสมกำลังอาวุธเอ็ม 79 อาร์ก้า เอ็ม 16 ต่าง ๆ ผมไม่เคยเห็นไม่เคยรู้จัก และไม่มีอาวุธพวกนี้อย่างแน่นอน ขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนด้วยความสัตย์จริง ผิดคำพูดแม้แต่คำเดียว ขอให้ผมตายใน 3 วัน 7 วัน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อรัฐบาลยืนยันถอนร่าง พรบ.ปรองดอง 45 ฉบับ ออก และให้ สว.คว่ำ พรบ.นิรโทษกรรมแล้ว ทางชมรมคนรักอุดร และ ชมรมคนรักภาคอีสาน จะดำเนินการอย่างไรต่อ นายขวัญชัยฯ ตอบว่า คงยืนยันที่จะออกทำความเข้าใจกับคนเสื้อแดงในภาคอีสานต่อไป โดยจะนำพ่อแม่ญาติพี่น้องของผู้สูญเสีย ผู้บาดเจ็บ และผู้ที่ติดคุก มาพูดคุยสัมภาษณ์ ให้พี่น้องประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่า คนเหล่านี้เขาเห็นด้วยไหมกับ พรบ.นิรโทษกรรม เห็นด้วยไหมกับ พรบ.เยียวยา ที่พรรคเพื่อไทยดำเนินการทำออกมาให้ จนได้รับเงินเยียวยากันไปแล้ว นี่คือวิธีการที่ตนจะเดินหน้าต่อไป
“ผมจะทำให้ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศได้เข้าใจ และหันกลับมาเป็นคนไทยที่สมบูรณ์แบบ ที่ความเอื้ออาทร ความเมตตาปรานี มันหายไปหมดจากใจคนไทยแล้ว เพราะอะไรผมขอถามหน่อย จะให้อภัยต่อกันไม่ได้หรือ จะมัวแต่มาตีหน้ายักษ์ใส่กันทำไม ผมอยากเห็นบ้านเมืองสงบ ตอนนี้ผมอายุ 62 ปีแล้ว อยากที่จะพักผ่อน ผมพูดไว้เสมอว่า วันใดที่คนชื่อทักษิณ ชินวัตร กลับบ้าน กลับประเทศไทยได้ ผมจะวางมือทันที ผมไม่ใช่นักทำมวลชน ไม่ใช่หัวหน้าม็อบ แต่ที่ต้องมายืนอยู่ตรงนี้ เพราะสถานการณ์มันบังคับ ซึ่งผมยืนยันว่า ผมไม่มีความสุขกับการที่ต้องมาเป็นหัวหน้าม็อบหรอก แต่ผมอยากเห็นบ้านเมืองเจริญ สงบสุข ยุติความขัดแย้งมากกว่า"
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
