อัยการฟ้อง ไอทีวี เรียก แสนล้าน พรุ่งนี้.!

อัยการฟ้องไอทีวีเรียกแสนล้าน พรุ่งนี้


อัยการคดีปกครอง เตรียม ยื่นศาลปกครองกลาง ฟ้องเรียกค่าเสียหาย-ค่าปรับ ไอทีวี 1.01 แสนล้านบาท ผิดสัญญาสัมปทาน ปรับผังรายการ พรุ่งนี้ ( 30 มี.ค.)

นายบัลลังก์ ปิ่นสากล อัยการผู้เชี่ยวชาญฝ่ายคดีปกครอง 3 ผู้รับผิดชอบสำนวน คดีฟ้องไอทีวี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (30 มี.ค.) เวลา 10.30 น. อัยการจะเดินทางไปยังศาลปกครองกลาง เพื่อยื่นฟ้อง บริษัท ไอทีวี จำกัด ( มหาชน) จากกระทำผิดสัญญาสัมปทานดำเนินกิจการสถานีโทรทัศน์ไอทีวี อันเป็นสัญญาทางปกครอง ที่ บมจ.ไอทีวี เป็นคู่สัญญาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.)


การยื่นฟ้องดังกล่าว อัยการได้รับมอบอำนาจจาก สปน.


ให้เรียกค่าเสียหายรวมจำนวน 1.01 แสนล้านบาท จากกรณีที่ บมจ.ไอทีวี ผิดนัดชำระค่าตอบแทนสัมปทาน ซึ่งยังค้างชำระจำนวน 2,800 ล้านบาทเศษ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 4 ก.ค. 2547- 2549 และค่าปรับที่ บมจ.ไอทีวี ทำการปรับลดสัดส่วนผังรายการข่าวสารคดีลงเหลือร้อยละ 30 และปรับเพิ่มสัดส่วนรายการบันเทิงขึ้นเป็นร้อยละ 70 อีกจำนวน 97,760 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี

นับแต่วันที่ยื่นฟ้อง และมูลค่าทรัยพ์สินที่ บมจ.ไอทีวี ยังไม่สามารถจัดทำเครือข่าย และเครื่องมืออุปกรณ์การส่งสัญญาณ เพื่อส่งมอบให้กับ สปน. ได้ครบในปีที่ 10 ตามที่ระบุในสัญญาจำนวน 4,000 ล้านบาท โดยมูลค่าทรัพย์สินที่ บมจ.ไอทีวี ต้องชำระยังเหลืออีก 656 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันที่ยื่นฟ้อง โดยขณะนี้ร่างคำฟ้องไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วความหนาประมาณ 30 แผ่น


นายบัลลังก์ กล่าวด้วยว่า ในการยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายดังกล่าว


เป็นไปตามสิทธิที่กฎหมายกำหนด ซึ่งสัญญาที่ทำขึ้นระหว่าง สปน. กับ บมจ.ไอทีวี ถือเป็นสัญญาทางปกครอง ดังนั้นคดีจึงต้องยื่นต่อศาลปกครองกลาง ซึ่งเป็นศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา โดยการฟ้องเรียกค่าเสียหายนี้ เป็นผลพวงจากคดีที่ สปน. เคยยื่นขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาเพิกถอนคำวินิจฉัยคณะอนุญาโตตุลาการ ฉบับลงวันที่ 30 ม.ค.47 ที่คณะอนุญาโต ฯ วินิจฉัยชี้ขาดเรื่องการเรียกชำระค่าตอบแทนระหว่าง สปน .- บมจ.ไอทีวี ใหม่โดยขัดต่อ พ.ร.บ.อนุญาโต ฯ พ.ศ.2545

ซึ่งศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำวินิจฉัยอนุญาโต ฯ ดังกล่าว ดังนั้นจึงเชื่อว่าการฟ้องรียกค่าสียหายนี้ ศาลปกครองกลางจะมีคำสั่งให้ประทับรับฟ้องไว้เพื่อมีคำพิพากษา โดยถ้าศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้รับฟ้องแล้ว ตามขั้นตอนกระบวนพิจารณาในระบบไต่สวนของศาลปกครองกลาง คู่ความจะต้องยื่นเอกสารแก้ต่างคดีต่อกัน

โดยไม่จำต้องนำพยานบุคคลให้ถ้อยคำเพิ่มเติมอีก แต่ทั้งนี้ในการแสวงหาข้อเท็จจริงของศาลปกครอง เพื่อมีคำพิพากษานั้น หากศาลเห็นว่าเฉพาะพยานเอกสารยังไม่เพียงพอ ศาลก็อาจเรียกพยานบุคคลให้ถ้อยคำเพิ่มเติมได้ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ จาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์