จากกรณีเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2551 นายกษิต จำเลย
ได้กล่าวบนเวทีชุมนุมของ กลุ่มพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล ทำนองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามทุกวิถีทางเพื่อยึดอำนาจประเทศไทย ให้เป็นสมบัติส่วนตัว และมือเปื้อนเลือด จากเหตุการณ์มัสยิด "กรือเซะ" สั่งฆ่าตัดตอนคดียาเสพติด
โดยเมื่อถึงเวลานัดหมายคู่ความ ทนายโจทก์และทนายจำเลย
ได้แถลงต่อศาลว่า ไม่มีพยานหลักฐานเพิ่มเติม และจะใช้พยานฝ่ายละ 10 ปาก ตามบัญชีพยานที่เคยยื่นต่อศาลไป เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2553 โดยขอนัดสืบพยานฝ่ายละ 5 นัด ขณะที่จำเลยที่ 2 และ 3 ขอสืบพยานลับหลัง ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วเห็นสมควรอนุญาตตามขอ นัดสืบพยานโจทก์ปากแรก ในวันที่ 2 ธันวาคม 2557 เวลา 09.00 น.