ภาพจาก ข่าวสดศปช. ค้านร่างนิรโทษกรรมเหมาเข่ง ชี้ฉวยโอกาสช่วยทักษิณ ปล่อยมาร์ค-เทือก-ศอฉ. ลอยนวล
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ศปช. ค้านร่างนิรโทษกรรมเหมาเข่ง ชี้ฉวยโอกาสช่วยทักษิณ ปล่อยมาร์ค-เทือก-ศอฉ. ลอยนวล
ภาพจาก ข่าวสดแถลงการณ์ศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมกรณี เม.ย.-พ.ค. 53 (ศปช.)
กรณีร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมและการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมและการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ได้ปรับแก้ข้อความในมาตรา 3 ตามข้อเสนอของนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ส.ส. พรรคเพื่อไทย ศปช.ในฐานะที่ได้รวบรวมข้อเท็จจริงกรณีการสลายการชุมนุมเดือนเม.ย.-พ.ค. 2553 รวมทั้งการจับกุมดำเนินคดีต่อผู้ชุมนุม ซึ่ง ศปช.ได้จัดพิมพ์รายงานออกเผยแพร่ต่อสาธารณะไปแล้วนั้น มีความเห็นดังต่อไปนี้
1) จากข้อเท็จจริงที่ค้นพบ ศปช. ขอย้ำอีกครั้งว่า การใช้กำลังทหารสลายการชุมนุมระหว่างเม.ย.-พ.ค. 2553 โดยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนั้น เป็นการปราบปรามการชุมนุมที่รุนแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทั้งในแง่การใช้กำลังพลและอาวุธ และความสูญเสียต่อชีวิต มีพยานหลักฐานมากพอสมควรที่ชี้ว่า ปฎิบัติการดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจและกำลังที่เกินกว่าเหตุ โดยเล็งเห็นผลว่าจะเกิดการละเมิดสิทธิในชีวิตของประชาชนอย่างชัดเจน
หลังเหตุการณ์ กระบวนการยุติธรรมเพื่อหาผู้รับผิดต่อความรุนแรง โดยเฉพาะความสูญเสียต่อชีวิตของพลเมืองในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ได้ดำเนินไปอย่างล่าช้า ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล กระบวนการจึงมีความคืบหน้ามากขึ้น อย่างไรก็ดี ยังมีข้อน่าสังเกตด้วยว่า
(1) แม้จะมีบางคดีที่ผ่านขั้นตอนไต่สวนการตายและศาลเห็นว่าการตายนั้นเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่แล้ว แต่ผู้ที่ถูกดำเนินคดีเป็นจำเลยในชั้นศาลนั้น กลับจำกัดเฉพาะนักการเมือง คือ นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณเท่านั้น ขณะที่จงใจละเว้นผู้ที่มีอำนาจหน้าที่สำคัญทั้งใน ศอฉ. และกองทัพ
(2) อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบคดีเหล่านี้โดยตรง เป็นบุคคลที่เคยมีบทบาทสำคัญใน ศอฉ. และอยู่ในข่ายควรต้องมีส่วนรับผิดต่อการสลายการชุมนุมด้วย ทั้ง 2 ประการนี้ย่อมไม่ส่งผลดีต่อการสร้างความยุติธรรม และกระบวนรับผิด (Accountability)
แต่สถานการณ์กลับยิ่งเลวร้ายลงไปอีก เมื่อเป็นที่ชัดเจนว่า การปรับแก้ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมฯ กำลังจะทำให้ผู้นำในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ศอฉ. กองทัพ และเจ้าหน้าที่รัฐทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุม พ้นจากการรับผิดอย่างสิ้นเชิง โดยไม่ต้องพิสูจน์เลยว่าพวกเขากระทำการด้วยความสุจริตและสมควรแก่เหตุ รวมทั้งละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของพลเมืองหรือไม่อย่างไร
2) การปรับแก้ ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมฯ ยังส่งผลครอบคลุมการนิรโทษกรรมต่ออดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ในคดีที่ถูกกล่าวหาโดย คตส. หลังรัฐประหารด้วย แน่นอนว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการรัฐประหารและกระบวนการหลังจากนั้น แต่การคืนความยุติธรรมให้แก่เขาสมควรที่จะใช้วิธีการอื่น ซึ่งถูกต้องชอบธรรมและเหมาะสมกว่า อาทิเช่น แนวทาง “ลบล้างผลพวงรัฐประหาร” ที่คณะนิติราษฎร์เคยเสนอไว้แล้ว
ศปช. เห็นว่าการเปลี่ยนสาระสำคัญของ ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมฯในประเด็นข้างต้นนี้ คือการฉวยโอกาส เพียงเพื่อช่วยเหลือพ.ต.ท.ทักษิณ โดยยอมแลกกับการไม่เอาผิดต่อผู้ที่ก่ออาชญากรรมต่อประชาชนเมื่อปี 2553 อีกทั้งอิสรภาพของผู้ต้องขังทางการเมืองที่สืบเนื่องมาจากการชุมนุมทั้งหมด ยังถูกนำไปแขวนไว้บนเส้นด้ายอีกครั้ง เพราะร่าง พ.ร.บ. นี้กำลังเป็นชนวนเหตุช่วยระดมกลุ่มต่อต้านทักษิณให้ออกมาคัดค้าน จนอาจทำให้ร่าง พ.ร.บ. ทั้งฉบับตกไปในที่สุด และส่งผลให้ผู้ต้องขังทางการเมืองไม่ได้รับอิสรภาพตามเจตนารมณ์ของการนิรโทษกรรม
การจงใจแก้ไข-บิดเบือน-หมกเม็ดร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่เกิดขึ้นนี้ จึงแสดงให้เห็นถึงความมักง่ายสายตาสั้นทางการเมือง ขาดความรับผิดชอบทางศีลธรรม และความเห็นแก่ตัวอย่างถึงที่สุดของพ.ต.ท.ทักษิณและนักการเมืองพรรคเพื่อไทย ที่ไม่คำนึงถึงชีวิตของประชาชน ที่ได้เสียสละต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและกำลังเผชิญกับความทุกข์ยากอยู่ในขณะนี้เลย
ประการสำคัญ ที่ผ่านมา ความรุนแรงทางการเมืองที่รัฐกระทำต่อประชาชนในประเทศไทย จบลงด้วยการนิรโทษกรรมให้แก่ผู้ที่ปราบปรามประชาชนทุกครั้ง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนอาชญากรรมของรัฐต่อประชาชนให้กลายเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นการเขียนใบอนุญาตล่วงหน้าให้รัฐบาลและ/หรือเจ้าหน้าที่รัฐสามารถก่อความรุนแรงต่อพลเมืองได้อีกในอนาคต ดังนั้น ศปช. จึงขอคัดค้านการปรับแก้ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมฯ ตามข้อเสนอของกรรมาธิการ ส.ส. พรรคเพื่อไทย เราขอยืนยันอีกครั้งว่า วัฒนธรรมแห่งการปล่อยให้ผู้กระทำผิดที่มีอำนาจลอยนวล และการเหยียบย่ำสิทธิในชีวิตและความเป็นคนจะต้องยุติลงในสังคมไทยเสียที ถึงเวลาที่จะต้องช่วยกันรื้อถอนวัฒนธรรมการเมืองอันน่ารังเกียจที่ครอบงำสังคมไทยนี้ “ความจริง” และ “ความยุติธรรม” มีความสำคัญมากกว่า “ความปรองดอง” อันหลอกลวงฉาบฉวย
23 ตุลาคม 2556



กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday