เวทีผ่าความจริงคึกคัก "มาร์ค" ท้า "ทักษิณ" เปิดหน้าสู้ อย่าเอาประชาชนบังหน้า ไม่เช่นนั้นจะถูกเรียก "โจรกระจอก" ปลุกคนไทยรวมพลังเคลื่อนไหวต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. เวลา18.00 น.ที่สนามหลวง 2 เขตทวีวัฒนา กทม.พรรคประชาธิปัตย์ จัดเวทีประชาชน
“เดินหน้าผ่าความจริง หยุดกฎหมายล้างผิด” เวทีที่ 73 โดยมีแกนนำ และ ส.ส. ของพรรคร่วมจำนวนมาก อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชีวะ หัวหน้าพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ในวันนี้หวังว่ามหาโจรที่อยู่นอกประเทศจะฟังการปราศรัยนี้อยู่ด้วย เพราะต้องการจะบอกว่า มหาโจรที่ปล้นประเทศไป เราจะไม่ให้มาปล้นประเทศไปรอบที่ 2 โดยเด็ดขาด และถ้ามีศักดิ์ศรีจะมาปล้นประเทศรอบสอง เปิดหน้าเข้าประเทศศมาเลย แล้วเจอกัน อย่าเอาประชาชนที่ติดคุกมาบังหน้า อย่างนั้นเขาเรียกโจรกระจอก
การที่บอกว่ามาเป็นรัฐบาลแล้วจะกระชากค่าครองชีพ คือเรื่องโกหก แต่เรื่องจริงคือช่วยโจร ปฏิเสธกันพัลวัน บอกไม่จริงไม่มีนโยบาย มีแต่เรื่องเศรษฐกิจช่วยเหลือประชาชน แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่ารัฐบาลชุดนี้เลือกผลประโยชน์โจร
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า การแก้ไขเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
นอกจากมหาโจรจะต้องขอบคุณขี้ข้าแล้ว จะต้องมากราบ นายแก้วสรร อติโพธิ อดีต คตส. ด้วย และพรรคเพื่อไทยที่ปลุกระดมคนเสื้อแดง ด่าว่าพวกตนว่าเป็นฆาตกรคนเสื้อแดง โปรดฟังไว้ด้วยกฎหมายที่นายประยุทธิ์ ศิริพาณิชย์ รองประธานกรรมาธิการ เขียนนิรโทษให้ทุกคน ขอถามว่าไหนบอกว่าจะหาความจริงและหาตัวฆาตร หรือกลัวว่าฆาตรกรกับโจรคือคนคนเดียวกัน คนเสื้อแดงที่ติดคุกไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง มีแต่นายใหญ่ที่จะมาปล้นประเทศไปรอบสอง ด้วยการได้เงินคืน 4.6 หมื่นล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย ถึงว่ารัฐบาลนี้กู้ตลอด สงสัยต้องการหาเงินมาใช้ใครบางคนจำนวน 5.7 หมื่นล้านบาท โดยในวันที่ 30-31 ต.ค.นี้ กรรมาธิการฯ จะเชิญ ส.ส.ไปแปรญัตติ และการพิจารณาวาระ 2 จะพิจารณาประมาณต้นเดือนถึงกลางดือน พ.ย.
“เวลาที่เราจะต้องเคลื่อนไหวเรื่องนี้ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 เดือน เราต้องสะสมกำลังอย่างถูกต้องทุกแห่งทุกหนในประเทศไทย เราต้องระมัดระวังอย่าให้การเคลื่อนไหวตกเป็นเหยื่อของรัฐบาล เพราะรัฐบาลพร้อมใส่ร้ายป้ายสีพวกเราอยู่แล้ว จึงขอบอกไปยังประชาชนว่า
1.จังหวะเวลานี้พี่น้องที่อยู่ที่นี่เข้าใจแล้ว รู้แล้ว แต่ต้องคำนึงถึงคนจำนวนมากที่ยังไม่รู้ จึงต้องบอกต่อไปยังพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด กลับไปบ้านก็ไปชวนคนอื่นมา
และ 2. การต่อสู้ครั้งนี้ ขอยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องของพรรคการเมือง แต่เป็นการต่อสู้ของประชาชนตามวิถีทางตามรัฐธรรมนูญ แม้เราต้องมีความเห็นแตกต่างกัน แต่ขอให้พวกเราไปหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวให้มีพลังในการต่อสู้ วันนี้เรามีกลุ่มการเมืองที่ต่อสู้อยู่แล้ว ทั้งที่สวนลุม และแยกอุรุพงษ์ และเชื่อว่าในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ถ้ารู้ว่ากำลังจะล้างผิดให้กับคนโกง จะมีคนอีกเป็นแสน เป็นล้าน ที่พร้อมจะออกมาต่อสู้ร่วมกัน”นายอภิสิทธิ์ กล่าว.